วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
‘เลขา TSPCA’ชี้ทำบุญต้องไม่ทารุณสัตว์ ทิ้งสัตว์เป็นต้นทางแห่งการทารุณ

‘เลขา TSPCA’ชี้ทำบุญต้องไม่ทารุณสัตว์ ทิ้งสัตว์เป็นต้นทางแห่งการทารุณ

วันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 16.36 น.
Tag : ทารุณสัตว์ ทำบุญ ทิ้งสัตว์ เลขาTSPCA
  •  

‘เลขา TSPCA’ชี้ทำบุญต้องไม่ทารุณสัตว์ ทิ้งสัตว์เป็นต้นทางแห่งการทารุณ

9 กรกฎาคม 2568 สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) พร้อมด้วยเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ภาคประชาชน และคุณสินจิรา อภัยทาน  ผู้ร้องเรียนและผู้รณรงค์โครงการหาบ้านใหม่ให้  กอริลลา "บัวน้อย"  พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์นันทศักดิ์ มุกสิกศิลป์ กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ เจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ พุทธมณฑล ลงพื้นที่ช่วยเหลือสุนัขที่ ถูกเจ้าของนำมาปล่อย และร่วมกันรณรงค์ติดป้ายหยุดการทิ้งสัตว์ และ ร่วมกัน พิจารณาให้ความช่วยเหลือเกาะสุนัขซึ่งไม่ได้สังกัดในหน่วยงานราชการแต่อยู่ได้ด้วยเงินบริจาคซึ่งขณะนี้มีประชากรสุนัข ที่ถูกนำมาปล่อย เพิ่มถึง 500 ตัว ณ พื้นที่พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม


ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ตาม พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557  เห็นว่าเนื่องในโอกาสใกล้วันพระใหญ่ของชาวพุทธ คือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี 2568 TSPCA  ได้จัดกิจกรรม “ทำบุญไม่ทารุณสัตว์”  เพื่อเป็นการเผยแพร่รณรงค์เกี่ยวกับการทำบุญที่ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์

การปล่อยสัตว์เป็นสิ่งที่ชาวพุทธนิยมทำกันตามความเชื่อ แต่การปล่อยสัตว์บางชนิดอาจจะเป็นต้นทางแห่งการทารุณสัตว์ แม้จะเกิดจากกุศลเจตนา เพื่อความรู้สึกสบายใจว่าได้บุญโดยเป็นผู้ต่อชีวิตด้วยความเมตตากรุณาต่อสัตว์ แต่ผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม มีมากกว่าที่คิด

ทั้งนี้ เช่น การปล่อย ปลาบางชนิด ถือเป็นปลาเอเลี่ยนสปีชีส์ สายพันธุ์ต่างถิ่นที่จะรุกรานการดำรงชีวิตอยู่ของปลาในพื้นถิ่น  จะเป็นการยับยั้งการสืบพันธุ์ของปลาในพื้นที่ที่ปล่อย ซึ่งจะเป็นการทำลายระบบนิเวศน์ ลดจำนวนลงหรืออาจร้ายแรงถึงปลาพื้นถิ่นบางชนิดอาจสูญพันธุ์ได้ เช่นการปล่อย ปลาดุก หรือ ปลาหมอคางดำ เป็นต้น

การปล่อยสัตว์เอาบุญตามความเชื่อนั้น ก่อนที่สัตว์จะมาถึงมือผู้ปล่อย สัตว์ต้องผ่านการถูกทารุณไม่ว่าจะการดัก จับ ยิง ต้อน เรียก ล่อ ไล่ ก็ล้วน เป็นการทำให้สภาพชีวิตสัตว์ขาดอิสรภาพตามธรรมชาติ

หรือแม้แต่การปล่อยสัตว์ที่ผิดสภาพแวดล้อมจากธรรมชาติเดิม เช่น ปล่อย เต่าในน้ำเชี่ยวที่ไม่มีตลิ่งให้เกาะหรือปล่อยเต่าในน้ำกร่อยเต่าจะค่อยๆตาบอดและตายไปในที่สุด

หอยขมต้องอยู่ในที่ชื้นแฉะ เช่น บึงคลอง ไม่ใช่แม่น้ำ ปลาไหลก็เช่นกัน ไม่รอดในน้ำเชี่ยวไหลแรง  และสำหรับปลาที่จับจากธรรมชาติมาสู่ตลาดเพื่อให้ผู้ซื้อนำไปปล่อยในแม่น้ำก็ ประสบชะตากรรมเดียวกัน หากปล่อยในน้ำที่มีอุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมแตกต่างจากที่เคยเติบโตมา ปลาอาจจะปรับตัวไม่ได้

การจับสัตว์ป่าจากธรรมชาติมาเพื่อปล่อยทำบุญนั้น เป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย  เช่น นก เต่า บางชนิด

พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ได้กำหนดห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 89 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท การครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามมาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัขและแมว ก็มักจะมีการปล่อยทิ้งกันเป็นจำนวนมากเพราะ “เมื่อหมดรัก มักถูกทิ้ง” ดังกรณีการลงพื้นที่ดังกล่าววันนี้  เกิดจากมีการร้องเรียนว่า มี ครอบครัวสุนัขแม่ลูกอ่อนอันประกอบด้วย สุนัขตัวผู้และแม่ลูกอ่อนถูกนำมาปล่อยและ คลอดลูกออกมาหลายครอกแล้ว  เพราะไม่ได้รับการทำหมัน และเริ่มจะเป็นปัญหากับชุมชนซึ่งเกรงการเพิ่มประชากรสุนัขจรและอันตรายจากยวดยานพาหนะทั้งต่อตัวสุนัขจรเองและชุมชนที่สัญจรผ่านไปมา

นโยบายการจัดการกับสุนัขจรของชุมชนบางแห่งคือการงดให้อาหาร ซึ่งอาจจะขัดต่อหลักเมตตาธรรม เพราะอย่างไรเสียสุนัขจรในพื้นที่ก็คุ้นชินกับการใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนนั้นนานปีแล้วและถึงแม้คนจะให้หรือไม่ให้อาหารเค้าก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ตรงนั้นตามยถากรรม กรณีนี้จึงเห็นควรที่จะขอความร่วมมือให้กรมปศุสัตว์ช่วยทำหมัน และทางสมาคมฯจะประสานหาที่อยู่ใหม่ที่เหมาะสมให้กับครอบครัวสุนัขแม่ลูกอ่อนและลูกๆต่อไป

คุณสินจิรา อภัยทาน ผู้ร้องเรียนซึ่งเห็นด้วยกับหลักการที่ว่า“สัตว์ทุกชนิดควรเป็นอิสระจากความหิวโหย” จึง แจ้งมายังสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ เพื่อขอคำแนะนำและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยอนุเคราะห์ ในการจัดการที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้ความช่วยเหลือครอบครัวแม่สุนัขดังกล่าว และเพื่อเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับการจัดการสุนัขจรซึ่งมีอยู่นับล้านตัวทั่วประเทศ และเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสวัสดิภาพประชากรสุนัขจรที่เกาะสุนัขในเขตพุทธมณฑล ที่มีจำนวนสุนัขจรล้นถึง 500 ตัวซึ่งอาศัยอยู่ได้ด้วยเงินบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาเมตตาสัตว์

ประเด็นสำคัญที่สุดคือการ ปลุกจิตสำนึกผู้เลี้ยงสุนัขให้เห็นถึงคุณค่าของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในความดูแลและตระหนักว่า“ทุกชีวิตรักสุขเกลียดทุกข์ ”ไม่มีสัตว์เลี้ยงตัวใดสมควรถูกเจ้าของทอดทิ้ง

การทำหมันให้สุนัขจรและแมวจรโดยขยายเครือข่ายการทำหมันไปยังหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ

การเพาะพันธ์สัตว์เลี้ยงขายต้องได้รับการอนุญาตและมีกฎหมายควบคุมที่เข้มงวดกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อป้องกันการนำพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่หมดสภาพมาปล่อย

โดยวันนี้ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ได้ร่วมกันบูรณาการในการช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจทางกฎหมาย คือ ราชการส่วนท้องถิ่นและปศุสัตว์ รวมทั้งอาสาสมัคร ที่จะพยายามจับสุนัขดังกล่าว เพื่อทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคและหาสถานที่รับเลี้ยงหรือบ้านใหม่ให้สุนัขเหล่านั้น ให้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สำหรับการทิ้งสัตว์ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557  ได้กำหนดไว้ ตามมาตรา 23 ห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร ถ้าเจ้าของไม่ปฏิบัติหรือฝ่าฝืนมาตรา 23 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท  ตามมาตรา 32 

สำหรับที่ผ่านมา TSPCA  ได้รณรงค์เผยแพร่ภาพยนตร์สั้น “ปล่อยนก บุญหรือบาป?” และ “รักไม่ปล่อย” เพื่อสร้างจิตสำนึกและกระตุ้นเตือนเรื่องการปล่อยสัตว์ และขอมติมหาเถรสมาคมฯ มติที่ 410/2561 เรื่องการจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด โดยกำหนดให้วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์ นำสัตว์มาปล่อย เป็นเขตห้ามซื้อขายหรือทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในวัด  เป็นต้น

ดังนั้น การทำบุญด้วยการปล่อยสัตว์ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็จะเป็นการดี แต่ถ้ามีความจำเป็นหรือตั้งใจจริงๆ ก็ควรศึกษาข้อมูลประกอบให้ครบถ้วนรอบด้าน และกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่  อย่าทำบุญแค่เพื่อความสะดวกสบายใจของตนเองเพียงด้านเดียว  เพราะอาจส่งผลมากกว่าที่คิด การมีสติระลึกรู้และปัญญากำกับในการทำบุญจึงจะเป็นบุญทานอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริงตามหลักการของศาสนาที่เป็นจริง   

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'บิ๊กเล็ก' ตั้ง 12 กุนซือกลาโหม 'บิ๊กเดฟ'อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมทีม-'ศักดา'นั่งหัวหน้าสำนักงาน

'นัสเมียโชค'ทัวร์ลงหนัก ปมแซะ'นิ้ง โสภิดา' สุดท้ายต้องรัวคำขอโทษ!

'ดร.ดิเรกฤทธิ์'คาดหวัง'ศาลฎีกา-ศาล รธน.' ชี้ชะตาประเทศ 'สันติสุขหรือลุกเป็นไฟ'

แฟนหนังดังเดือด! ทัวร์ลงสนั่นไอจี'เอม สรรเพชญ์' ลุกลามหนักด่าถึง'คุณพ่อดู๋ สัญญา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved