ย้อนคดีดัง "น้องชมพู่" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกพบเสียชีวิตในป่าภูเหล็กไฟ ใน จ.มุกดาหาร ถือเป็นคดีใหญ่ที่สะเทือนสังคมไทยอยู่ไม่น้อย และกลายเป็นมหากาพย์ครั้งใหญ่ การแกะรอยตามหาคนร้ายที่ทำให้คนทั้งประเทศสนใจอย่างมาก
และที่เป็นปรากฏการณ์ที่ใครๆ ก็ต้องพูดถึงในขณะนั้น นั้นคือ "ลุงพลฟีเวอร์" เพราะเป็นกระแสที่ดังข้ามคืน!! และล่าสุด "ลุงพล" ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้โทษ ให้จำคุกลุงพล 26 ปี คดีน้องชมพู่ ส่วนป้าแต๋น ศาลได้ยกฟ้อง (13 ส.ค.68)
วันนี้ "ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์" จะพาทุกคนย้อนรอยดูเรื่องราวของ "ลุงพล" กับ "คดีน้องชมพู่" พร้อมกับคำถามถึงการทำหน้าที่ของสื่อกับการฉายสปอตไลต์ไปที่ "ผู้ต้องสงสัย" ในคดีความนี้นั้นคือ "ลุงพล"
เช้าวันที่ 11 พ.ค. 63 เด็กหญิงตัวน้อยวัย 3 ขวบ "น้องชมพู่" ได้หายตัวออกจากบ้านไปอย่างเป็นปริศนา วันที่ 14 พ.ค. 68 จนชาวบ้านมาพบศพน้องอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า บนเขาในป่าภูเหล็กไฟ โดยระยะทางห่างจากบ้าน 2 กิโลเมตร มีการชันสูตรพลิกศพ แพทย์ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย และล่วงละเมิดทางเพศ แต่พบบาดแผลตามร่างกาย และอวัยวะเพศ ซื่งตอนนั้น แพทย์ระบุว่า ไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตได้
การเสียชีวิตของน้องชมพู่ที่เป็นปริศนา เพราะไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ ทำให้นักสืบโซเชียลเริ่มทำงาน บางส่วนได้พุ่งเป้าไปที่พี่สาวและพ่อแม่ของน้องชมพู่ ว่าอาจจะวางแผนฆาตกรรมลูกของตนเอง และมีบางส่วนก็พุ่งเป้าไปที่ "ลุงพล" หรือ นายไชย์พล วิภา ซึ่งขณะนั้นมีความใกล้ชิดกับน้องชมพู่มากที่สุด ช่วงนั้นใสนกระแสโซเชียลได้มีการเชียร์ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ฝ่าย มีช่องรายการของสื่อยกกองทัพไปที่บ้านกกกอก จากผู้ต้องสงสัยกลายเป็นตัวละครในรายการ "รายการเรียลลิตี้" ทำให้ผู้ต้องสงสัยมีแฟนคลับเป็นของตัวเองจำนวนมาก
เรื่องรายของผู้ต้องสงสัย "ลุงพล" ยังไม่จบแค่นี้ แม้จะถูกตั้งข้อสงสัยว่าคือฆาตกรตัวจริง แต่ก็ยังมีแฟนคลับบางส่วนไม่ปักใจเชื่อ ยังฉายสปอตไลต์ให้ประชาชนสนใจลุงพลมากขึ้น จนมีกระแสในโลกโซเชียล จนกลายเป็น #Saveลุงพล ในเวลานั้น และกลายเป็นกระแส "ลุงพลฟีเวอร์" ลุงพลมีผู้ติดตามจำนวนมากหรือจะเรียกว่าเป็น "เซเลบ" ก็ได้ เพราะได้ร่วมร้องเพลงกับนักร้องดัง "จินตหรา พูนลาภ" จนโด่งดังเป็นพลุแตก และได้เปิดช่องยูทูปเป้นของตัวเอง "ลุงพลป้าแต๋น แฟมิลี่"
ในขณะเดียวกันในส่วนของคดีได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั้งวันที่ 2 ต.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงความคืบหน้าของคดีน้องชมพู่ โดยระบุช่วงเวลาการเสียชีวิตของน้องชมพู่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่น้องชมพู่จะเดินขึ้นภูเขาได้ด้วยตัวเอง และแจ้ง "ยุติการทำคดีชั่วคราว" จนกว่าจะมีหลักฐานใหม่ ซึ่งคดีนี้มีอายุความ 20 ปี
1 มิ.ย. 64 ผ่านไป 1 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ "ลุงพล" ใน 3 ข้อหา
1. พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันควร
2. ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกิน 9 ปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล เป็นเหตุให้เด็กถึงแก่ความตาย
3. กระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
อย่างไรก็ตาม "ลุงพล" กลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่อาจทำให้น้องชมพู่เสียชีวิตทางอ้อม พร้อมกับแจ้งข้อหากับ "ป้าแต๋น"อีกด้วย
วันที่ 20 ธ.ค. 66 ศาลจังหวัดมุกดาหารมีคำพิพากษา จำคุก "ลุงพล" จำเลยที่ 1 ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (มาตรา 291) และฐานพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร (มาตรา 317 วรรคแรก) ลงโทษจำคุกกระทงละ 10 ปี รวม 20 ปี พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ครอบครัวผู้ตาย ส่วนนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” จำเลยที่ 2 ศาลพิพากษายกฟ้อง
ล่าสุด วันที่ 13 ส.ค. 68 ศาลจังหวัดมุกดาหาร อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 4 แก้โทษ จำคุก "ลุงพล" เป็นรวม 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร และอำพรางศพ ส่วน "ป้าแต๋น" พิพากษายืนยกฟ้อง
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี