วันที่ 15 ส.ค. 68 นายสมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.) โพสต์ข้อความจี้ถามพรรคประชาชนว่า "สมบูรณ์ คำแหง ประธาน กป.อพช. ส่งจดหมายเปิดผนึก ถึงพรรคประชาชนถามจุดยืน ม.69 มีเนื้อความจดหมายที่ต้องการถามถึงแนวคิดประชาธิปไตยของพรรค ภายใต้ความเท่าเทียมการทำประมงตามมาตรา 69 ว่า
ผมตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นด้วยทราบอย่างไม่เป็นทางการว่าพรรคประชาชนมีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับมาตรา 69 ของร่างแก้ไขพระราชบัญญัติการประมงฉบับใหม่ ที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาของกรรมาธิการร่วมของรัฐสภาในอีกไม่กี่วันนี้ เพราะมีเนื้อความสำคัญเรื่องการอนุญาตให้มีการทำประมงอวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ในเวลากลางคืน นอกเขต 12 ไมล์ทะเล โดยใช้แสงไฟล่อได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง ผมจะถือว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคประชาชน เป็นการสูญเสียหลักการใหญ่ในมิติด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ไม่ต่างกับหลักการประชาธิปไตย ในมิติทางการเมืองที่พรรคยืนหยัดตลอดมา
ผมขออธิบายเหตุผลในเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อให้พลพรรคประชาชนทั้งหลายได้เข้าใจในเรื่องนี้ ดังนี้
1. ความเห็นต่างเรื่องมาตรา 69 ไม่ใช่การแย่งชิงทรัพยากร หรือเป็นความขัดแย้งระหว่างชาวประมงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่มันคือการยืนหยัดในหลักการจับสัตว์น้ำที่รับผิดชอบต่อระบบนิเวศ ที่ไม่ใช่แค่จับเพื่อการค้าเท่านั้น
2. มาตรา 69 จะยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างชาวประมงด้วยกัน ที่จะทำให้เห็นถึงชนชั้นและความไม่เท่ากันในการเข้าถึงการจับสัตว์น้ำระหว่างเรือเล็กเรือใหญ่ เข้าลักษณะมือใครยาวสาวได้สาวเอาแบบไร้ข้อจำกัด
3. การยินยอมให้ใช้แสงไฟล่อ (ปั่นไฟ) ในเวลากลางคืน ที่ประกอบด้วยอวนตาถี่ คือหายนะของระบบนิเวศ เพราะสัตว์น้ำทุกชนิดทุกขนาดจะติดกับดักแสงไฟ และจะถูกล้อมจับด้วยวงของอวนตาถี่ที่มีความยาวไม่ต่ำกว่า 1.000 เมตร นั่นคือการอนุมัติให้ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนแบบถูกกฎหมาย ที่ขัดแย้งกับหลักการการประมงยั่งยืน นั่นคือการทำลายทะเลและทำร้ายชาวประมงทุกกลุ่มแบบไม่เลือกหน้า
4. ตัวแทนพรรคประชาชนบางท่าน พยายามหาทางออกต่อข้อทักท้วงที่พวกผมพยายามนำเสนอผลกระทบจากมาตรา 69 ว่าจะแก้ไขด้วยการออกกฎหมายลูกมากำกับความกังวลเหล่านั้น ถือว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่สามารถรับฟังได้ ซึ่งพรรคประชาชนไม่ทราบเลยหรือว่าการบังคับใช้กฎหมายของรัฐไทยล้มเหลวมาตลอด โดยเฉพาะการตรวจจับการทำผิดกฎหมายการทำประมง
“การจับสัตว์น้ำที่รับผิดชอบ คือการใช้เครื่องมือแบบเลือกชนิดและเลือกขนาด(โตเต็มวัย) นั่นคือวิธีการรักษาสมดุลของระบบนิเวศด้านการประมงที่ดีที่สุด และเป็นความเท่าเทียมในการทำประมงร่วมกันของชาวประมงทุกกลุ่มทุกขนาด” และสิ่งนี้คือหลักการประชาธิปไตยที่กินได้ ที่ชวนสงสัยว่าทำไมพรรคประชาชนถึงไม่เข้าใจเรื่องนี้ ในขณะที่พวกท่านคือกลุ่มคนที่ยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตยเชิงโครงสร้างของประเทศนี้ มันคือหลักคิดบนพื้นฐานเดียวกันหรือไม่ อย่างไร
ส่วนตัวแล้ว ผมศรัทธาพรรคประชาชนตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล และไม่เคยสงสัยต่ออุดมการณ์พรรคนี้เลยแม้แต่น้อย แต่ไฉนเรื่องมาตรา 69 จึงเป็นสิ่งที่พรรคประชาชนไม่เข้าใจ และไม่สามารถอธิบายเชื่อมโยงให้เห็นถึงความเท่าเทียมของผู้คน ตามที่พวกท่านเรียกร้องอย่างหนักแน่นตลอดมา ช่วยตอบหน่อยเถอะ
15 สิงหาคม 2568"
.-008
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี