21 สิงหาคม 2568 ชาวบ้านในหมู่บ้านชุมแสง ตำบลทุ่งแสงทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ หลายครอบครัวสุดทนได้พากันออกมาร้องเรียนผ่านสื่อ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกัน จอมพลัง ช่วยเหลือหลังได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่นายปัญญา(ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ใช้หนังสติ๊กโดยมีก้อนหินเป็นลูกกระสุนยิงใส่หลังคาบ้าน ทั้งยังปัสสาวะใส่ขวดพลาสติก และขวดแก้วขว้างปาใส่หลังคาบ้านของบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง แตกเสียหายไป 6 หลัง ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน แต่ญาติของผู้ก่อเหตุอ้างว่านายปัญญา ทำไปเพราะมีภาวะทางจิตเวช ซึ่งชาวบ้านก็ไม่รู้ว่าป่วยจริงหรือไม่ ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องจำใจควักเงินซ่อมหลังคาเอง แต่นายปัญญา ก็ยังไม่หยุดพฤติกรรมยังก่อเหตุอยู่เรื่อยๆ ชาวบ้านก็พยายามหาวิธีป้องกันตัวเอง ด้วยการซื้อตาข่ายมากันรอบบ้าน แต่นายปัญญา ก็ยังยิงหนังสติ๊ก และขว้างปาขวดใส่หลังคาบ้านมาเรื่อย
ต้องทนอยู่ในสภาพผวานอนไม่หลับเดือดร้อนมานานกว่า 6 ปี เพราะนายปัญญา ก่อเหตุทั้งตอนกลางวันและกลางคืน ที่ผ่านมาเคยแจ้งผู้นำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองก็มาตรวจสอบให้ แต่ก็ทำได้แค่เอาตัวไปตรวจปัสสาวะส่งบำบัดและตักเตือน 2- 3 วัน ก็ออกมาก่อเหตุเหมือนเดิมอีก จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐหาแนวทางช่วยเหลือด้วย
นางอุสา ศรีสุรินทร์ อายุ 60 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน พูดด้วยน้ำเสียงสั่งเครือน้ำคาคลอว่า ต้องทนทุกข์กับกรณีที่เพื่อนบ้านยิงหนังสติ๊ก ปาขวดใส่หลังคาบ้าน นอนไม่หลับใช้ชีวิตแบบหวาดระแวงมา 6 ปี แล้ว หลังคาแตกก็ต้องซ่อมเองก็คนก่อเหตุไม่รับผิดชอบ ญาติก็อ้างว่าเขาป่วยจิตเวชอีก ก็ไม่รู้ว่าเขาป่วยจริงหรือไม่จริง แจ้งหน่วยงานไหนไปก็ทำได้แค่เอาตัวไปบำบัดไม่กี่วันก็ออกมาก่อเหตุอีก ทั้งนี้ป้า ยังยกมือไหว้วิงวอนให้กัน จอมพลัง มาช่วยเหลือด้วย เดือดร้อนมาก
ไม่ต่างจากนางประยุกต์ ศรีงาม อายุ 52 ปี ชาวบ้านที่เดือดร้อนอีกคน ก็บอกว่า เดือดร้อนแบบนี้มา 6 ปีแล้ว บางคืนตอนตี 1 ตี 2 กำลังนอนหลับอยู่ก็ได้ยินเสียงเขายิงหนังสติ๊กใส่หลังคาบ้าน จนตกใจสะดุ้งตื่นนอนไม่หลับอีก เช้าขึ้นไปดูก็พบว่าหลังคาแตกเสียหาย ก็ต้องจ่ายเงินซ่อมเองอีก เคยนำกล้องวงจรปิดไปแจ้งเจ้าหน้าให้มาตรวจสอบช่วยเหลือ ก็ทำได้แค่เอาตัวไปบำบัดไม่กี่วันก็ออกมาก่อเหตุแบบนี้อีก ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับคนก่อเหตุเลย และเขาก็ไม่ได้ทำแค่หลังเดียว มีชาวบ้านที่เจอปัญหาแบบนี้ประมาณ 6 หลัง อยากให้หาแนวทางช่วยเหลือด้วย
จากนั้นทีมข่าว ได้ไปสอบถามนายปัญญา อายุ 52 ปี (เสื้อคอปกสีน้ำเงิน เบลอหน้า) ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ก็บอกว่า ที่ผ่านมาเคยยิงหนังสติ๊กปาขวดใส่จริง แต่เลิกแล้วไม่ได้ทำแล้ว แต่พอถามว่าแล้วทำไมถึงทำมีเรื่องโกรธเคืองอะไรกับชาวบ้านหรือไม่ นายปัญญา ก็ตอบว่า ไม่มีแต่เคยมีวัยรุ่นในหมู่บ้านเอาขวดตีหัว ทั้งยังอ้างว่ามีวัยรุ่นขว้างอุจจาระใส่บ้านตัวเองด้วย ก็เคยยิงหนังสติ๊กและปาขวดใส่คืนบ้าง แต่พอถามว่าเคยรักษาอาการจิตเวชหรือไม่
นายปัญญา ก็บอกว่า หากแล้วไม่ได้เป็นอะไร ทั้งนี้ทีมข่าวยังได้ขอร้องให้หยุดก่อเหตุได้หรือไม่เพราะชาวบ้านเดือดร้อน นายปัญญา ก็รับปาก ก่อนจะเดินออกจากบ้านไป บอกว่าจะไปทำงาน
ด้านนางปาหยัน อายุ 56 ปี (เสื้อคอกระเช้า) พี่สาวนายปัญญา บอกว่า หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตนายปัญญา ก็อยู่บ้านหลังดังกล่าวคนเดียว ส่วนตัวเองก็อยู่อีกหลัง ยืนยันว่าน้องมีอาการป่วยจิตเวช เพราะตนเองเป็นคนจัดยาให้น้องกินเอง แต่หมอบอกว่าเพิ่งเป็นระยะเริ่มต้น จึงยังไม่ได้ออกบัตรผู้ป่วยให้สาเหตุที่น้องก่อเหตุอาจจะเพราะอาการป่วยบวกกับดื่มเหล้าจึงคุมสติไม่ได้ ตนฐานะพี่สาวก็เคยเตือนและห้ามน้องไม่ให้ก่อเหตุหลายครั้ง แต่น้องก็ไม่ฟังก็เสียใจอยากให้น้องหยุดพฤติกรรมเห็นใจชาวบ้าน
ด้านนายสมุทร อิ้วชุมแสง กำนันตำบลทุ่งแสงทอง ก็ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีชาวบ้านมาร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของนายปัญญา ที่ไปสร้างความเสียหายและเดือดร้อนรำคาญให้ชาวบ้านหลายครั้ง ก็เคยเรียกมาตักเตือนให้หยุด ทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะนำตัวส่งบำบัด แต่ก็ทำได้แค่ส่งบำบัดไม่กี่วันก็ต้องปล่อยตัวออกมา ชาวบ้านก็มาแจ้งว่ายังก่อเหตุเรื่อยๆ ก็เห็นใจชาวบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ก็ทำได้ตามอำนาจหน้าที่และกรอบกฎหมายเท่านั้น ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น แต่หากมีหน่วยงานไหนที่สามารถจะช่วยเหลือชาวบ้านได้ ก็อยากให้หาทางช่วยเหลือด้วย.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี