พ่อค้าแม่ค้าที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ อยากเห็นนายกอนุทิน และคณะ ครม.รัฐบาลชุดใหม่ หลังการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฎิญาณตน ได้เร่งจัดการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน โดยเห็นด้วยการฟื้นคนละครึ่ง เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี แต่อยากให้ช่วยลดกระบวนการและขั้นตอนที่ยุ่งยากลง
24 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวลงสำรวจตลาดสดเทศบาลนครบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และร้านค้าของชำในพื้นที่ ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ถึงความคิดเห็นของพ่อค้าแม่ค้า และพี่น้องประชาชน ต่อความต้องการที่อยากจะให้รัฐบาลและ ครม.ชุดใหม่ ที่นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ซึ่งจะมีการนำคณะ ครม.ชุดใหม่ เดินทางไปเข้าเฝ้า ถวายสัตย์ปฏิญาณ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ในเวลา 18.00 น.ของวันนี้ (24ก.ย.) ซึ่งหลังการเข้าเฝ้าฯ นายอนุทิน จะเป็นประธานการประชุม ครม.นัดพิเศษ
โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ โดยการนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เร่งดำเนินการจัดการแก้ไขปัญหาแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นเรื้อรังมาครบ 2 เดือนแล้ว ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วไว พร้อมทั้งเสนอให้มีการสร้างรั้วกำแพงที่มีความมั่นคงสูง และปิดด่านพรมแดนช่องทางเข้าออกทุกช่องทางตลอดทั้งพรมแดน เพื่อไม่ต้องให้ได้ทำมาค้าขายร่วมกันอีก และไม่ต้องให้ความช่วยเหลือใดๆกับทางกัมพูชาอีก
นอกจากนี้ ยังขอให้เร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปางท้อง เพื่อที่ประชาชนจะได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รวมทั้งยังได้สนับสนุนให้รัฐบาลนายอนุทิน ที่มีแนวนโยบายจะปัดฝุ่นโครงการคนละครึ่ง นำขึ้นมาใช้อีกครั้งว่า เป็นโครงการที่จะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี หากมีการนำกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชนได้มีกำลังซื้อมากขึ้นด้วย และส่งผลดีช่วยเพิ่มยอดขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้มากขึ้นด้วย จากที่ในช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี
อย่างไรก็ตาม อยากขอให้ปรับลดกระบวนการขั้นตอนที่ยุ่งยากลง และอยากให้ประชาชนคนไทยที่บรรลุนิติภาวะ หรือผู้ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปได้มีสิทธิ์ในโครงการทุกคนด้วย และอยากให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำเหมือนในบางโครงการ
นางสมลักษณ์ เพชรเลิศ อายุ 59 ปี แม่ค้าขายของชำ ใน ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บอกว่า อยากฝากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ไขปัญหาชายแดน ขอให้สร้างรั้วปิดด่านไปเลย ปล่อยให้อยู่ใครอยู่มัน ไม่ต้องค้าขายร่วมกันอีก ส่วนเรื่องเศรษฐกิจก็อยากให้แก้ไขให้ดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ เพราะค้าขายทุกวันนี้ก็เงียบ หาเงินยากรายจ่ายก็เยอะ จึงอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา และเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ส่วนการที่รัฐบาลจะมีการนำโครงการคนละครึ่งมาใช้ มองว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าร่วมโครงการฯ ในส่วนของประชาชนไม่ใช่ร้านค้า และมองว่าน่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับประชาชน ที่มีกำลังซื้อน้อยจะได้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น
ด้าน นางจำนงค์ พลสงค์ อายุ 53 ปี แม่ค้าขายของชำใน ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ บอกว่า อยากให้แก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา และปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชน และไม่อยากให้มีการเปิดด่าน ให้ปิดด่านให้หมดเลย สร้างรั่วปิดไปเลย ไม่ต้องทำมาค้าขายร่วมกันอีก เพราะบ้านเราก็พอที่จะค้าขายทำมาหากินได้
ส่วนที่รัฐบาลจะนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้อีกก็มองว่าเป็นโครงการที่ดี เพราะพ่อค้าแม่ค้าก็จะได้ขายของดี ลูกค้าก็จะมีกำลังซื้อด้วย ไม่เหมือนทุกวันนี้เงียบฉี่เหมือนตอนที่ไม่มีโครงการ ถ้ามีโครงการนี้ขึ้นมาก็เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้ และอยากให้มีการแก้ไขกระบวนการขั้นตอนที่ซับซ้อนยุ่งยากลง คนที่มีอยู่เดิมแล้วก็ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ให้ยุ่งยาก
ขณะที่ น.ส.ญาณิศา สารรักษ์ อายุ 34 ปี แม่ค้าหาบเร่แผงลอยในตลาดสด เทศบาลนครบุรีรัมย์ ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ เร่งแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชากับเศรษฐกิจ และการที่รัฐบาลชุดใหม่จะนำโครงการคนละครึ่งกลับมาใช้ ถือว่าเป็นโครงการที่ดีโดยเฉพาะช่วยเศรษฐกิจแบบนี้ เพราะตนก็เคยใช้ ซึ่งตอนนั้นก็ได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และลดค่าใช้จ่ายแก่ครอบครัวเป็นอย่างดี
ส่วน นางอำเพ็ญ เฮงเจริญ อายุ 64 ปี แม่ค้าขายผักในตลาดสดเทศบาลนครบุรีรัมย์ บอกว่า อยากให้ทำรั้วกำแพงสูงและปิดด่านทุกช่องทางให้ถาวรไปเลย ไม่ต้องไปมาหาสู่และค้าขายกันอีก และให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งการที่จะปัดฝุ่นโครงการคนละครึ่ง นำกลับมาใช้อีกเชื่อว่าจะเป็นสิ่งดีกับทั้งประชาชนและพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งอยากให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด เพราะมั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี