วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568
พบฉี่ม่วง! พระลูกวัดถูกทำร้าย เจ้าอาวาสผู้ก่อเหตุยอมลาออก 'ขอปวารณาออกพรรษา'

พบฉี่ม่วง! พระลูกวัดถูกทำร้าย เจ้าอาวาสผู้ก่อเหตุยอมลาออก 'ขอปวารณาออกพรรษา'

วันจันทร์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 18.23 น.

งามไส้พระลูกวัดคู่กรณีเจ้าอาวาสที่ถูกทำร้ายด้วยสายยางรดน้ำ ตรวจพบฉี่สีม่วง พร้อมยอมสึกกลับไปรักษาที่บ้านเกิดใน กทม.ส่วนตัวเจ้าอาวาสยอมลาออก ไปรักษาอาการป่วยทางจิต แต่ขอปวารณาก่อนออกพรรษา ชาวตำบลสิงห์ กว่า 200 คนที่มาขับไล่และคัดค้าน เข้าใจทยอยเดินทางกลับ

6 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี เพจ “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง”ได้นำคลิปพระสงฆ์ทำร้ายร่างกายพระลูกวัด ความยาว 1 นาที 18 วินาทีเศษ มาโพสต์ลงในเฟสบุ๊ก พร้อมกับระบุข้อความว่า “เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ตื้บพระลูกวัดหลังจับได้ว่าพระลูกวัดเสพยา ก่อนหน้านี้มีพระลูกวัดอีก 1 รูป โดนในลักษณะเดียวกันแต่รูปนั้นโดนฉับหัวแบะอาการสาหัส


โดยเหตุการณ์ในคลิปนี้เกิดขึ้นคืนวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา วันเดียวกัน พระแบงค์ อายุ 34 ปี พระลูกวัดที่ถูกทำร้าย ได้เข้าพบ ร.ต.ท.ศรัณย์ ติ๋วโวหาร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ได้รับแจ้งความไว้ ต่อมาเวลา 11.20 น.วันนี้ 6 ต.ค.(พระอธิการแมน เตชวโร) เจ้าอาวาสวัดฯ อายุ 58 ปี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวเพิ่มเติม : เจ้าอาวาสวัดดังทำร้ายพระลูกวัด ตำรวจนิมนต์ขึ้นโรงพัก รับทราบข้อกล่าวหา

ล่าสุดเวลา 13.30 น.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านในพื้นที่กว่า 200 คน เดินทางไปรวมตัวกันที่วัด เพื่อเรียกร้องให้เจ้าอาวาสลาสิขา แต่ก็มีชาวบ้านบางส่วนเดินทางมาคัดค้านการลาสิขา ตามข้อเรียกร้องดังกล่าว ทำให้เกิดการโต้แย้งปะทะคารมกัน โดยนายอิทธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค เดินทางไปเจรจาทำความเข้าใจกับชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่าย ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ กันตะยศ ผกก.สภ.ไทรโยค สั่งการให้ พ.ต.ท.กฤตญุตม์ นุ่นชูคัน รอง.ผกก.สส.สภ.ไทรโยค พ.ต.ท.วุฒิชัย น้อยยะ สวป.สภ.ไทรโยค นำเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ไทรโยค เข้าควบคุมสถานการณ์ ที่กำลังชุลมุนวุ่นวายจากการปะทะคารมกันของชาวบ้านทั้งสองฝ่าย

ในที่สุดเวลาประมาณ 14.00 น. นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา จึงเรียกทุกฝ่ายมาเจรจาหาทางออกร่วมกัน ผลการเจรจาร่วมกันหลายฝ่ายได้ข้อสรุปว่า เจ้าอาวาสได้ตัดสินใจขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาส แต่จะยังไม่ลาสิขา โดยจะขอออกจากวัดไปรักษาโรคประจำตัวทางจิตที่เป็นอยู่ ในวันที่ 8 ต.ค.2568 เนื่องจากรอเวลาปวารณาตัวออกพรรษาเสียก่อน หลังจากที่ชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจจึงแยกย้ายกันกลับ

ส่วนกรณีของพระแบงค์ อายุ 34 ปี พระลูกวัดที่ถูกทำร้ายสาเหตุเพราะเจ้าอาวาสไปพบอุปกรณ์เสพยาเสพติดในกุฏุ จึงเกิดความโมโหแล้วลงมือก่อเหตุนั้น ผลปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดยพ.ต.ท.กฤตญุตม์ นุ่นชูคัน รอง.ผกก.สส.สภ.ไทรโยค ได้ทำการตรวจปัสสาวะ เพื่อหาสารเสพติดในร่างกายผลที่ออกมาพบฉี่เป็นสีม่วง ซึ่งพระเบียร์ ยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่ว่าได้เสพยาบ้าเข้าไปจริง ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงทำการสึกพระเบียร์ออกจากความเป็นพระ ซึ่งพระเบียร์เองก็เต็มใจที่จะสึก และขอกลับไปสมัครใจบำบัดยาเสพติดที่บ้านในกรุงเทพมหานคร ส่วนเรื่องของคดีที่แจ้งความเอาไว้นั้นก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งนี้ นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับรายงานจากนาย เนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ว่าอำเภอไทรโยคได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและพระผู้ปกครองสงฆ์ลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค โดยได้นิมนต์พระอาจารย์แมน มารับทราบข้อกล่าวหาที่พระแบงค์ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากการโดนทำร้ายร่างกายโดยการใช้สายยางตีเมื่อคืนวันศุกร์ที่3 ตค.68 ที่ผ่านมา

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค พร้อมด้วย ผอ.สนง.พระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่.ตร.สภ.ไทรโยค รวมถึงนายก อบต.สิงห์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พระผู้ปกครองสงฆ์ได้ลงพื้นที่ วัดสิงห์ไพบูลย์ประชาสรรค์ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค พบประชาชนจำนวนกว่า 200 คน กำลังชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ดำเนินการกับพระอาจารย์แมน เนตร์เดชา (เจ้าอาวาสวัด)

จึงปรึกษาหาหรือเพื่อหาทางออกร่วมกัน ผลการหารือปรากฎว่าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าควรให้พระอาจารย์แมน ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส และไปจำวัดอยู่ที่อื่นก่อน ซึ่งพระอาจารย์แมนยินยอมลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด ในวันที่ 8 ต.ค.68 ช่วงเช้า เนื่องจากอยู่ในช่วงเข้าพรรษาและต้องเคลียร์เรื่องเอกสารทรัพย์สินส่งมอบให้แก่ผู้ปกครองสงฆ์ก่อนจึงจะเดินทางออกจากวัด ส่วนผลทางคดีให้เป็นไปตามที่พนักงานสอบส่วนกำหนด ส่วนชาวบ้านได้รับฟังแล้วพอใจ จึงยินยอมแยกย้ายกลับบ้าน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้สุ่มตรวจปัสสาวะในสารเสพติดพระในวัดทั้งหมด พบว่าพระเบียร์ พระลูกวัดคู่กรณีของเจ้าอาวาสพบสารเสพติดในร่างกายเพียงรูปเดียว จึงได้ทำการลาสิกขาบท โดยพระเบียร์ยอมรับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง และขอกลับเข้ารับการบำบัดที่บ้านเกิดใน กทม.ต่อไป.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top