วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568
‘หลวงตาสุจย์’ หรือ พระมหานรินธร ปสนังโน อาย 61 ปี พระนักเทศน์ชื่อดังในพื้นที่อีสานใต้ เคยถูกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมอย่างดุเดือด หลังจาก หลวงตาสุจย์ ออกมาไลฟ์สด สนับสนุนทหารกัมพูชา และต่อว่าคนสุรินทร์ ก่อนที่ ‘ฮุน เซน’ อดีตนายกฯกัมพูชา จะชวนให้ย้ายมาอยู่ในประเทศกัมพูชาด้วยกัน โดยหลวงตาสุจย์ ก็ไม่กล้ากลับมาประเทศไทยอีกเลย
9 ตุลาคม 2568 จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “ชุมชนคนสุรินทร์” ได้โพสต์คลิปวิดีโอ ของหลวงตาสุจย์ พร้อมข้อความระบุว่า “ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ท่านบิ๊กสุจย์ Such Nana ร้านเขาไปทำอะไรให้ ถึงขู่จะปิดร้านเขา” โดยในคลิปเป็นร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านของคนไทยที่ไปลงทุนเปิดร้านอยู่ที่กัมพูชาหลายสาขา โดยหลวงตาสุจย์ ได้ พูดในคลิปว่า “เป็นร้านอาหารของคนไทยที่มาเปิดในกัมพูชา ผมก็ให้เกียรติ ผมไม่เคยกลั่นแกล้ง แต่ถ้าคนไทยยังด่าผมทุกวันอยู่อย่างนี้ ร้านนี้อยู่ไม่ได้หรอก หลายสาขาในกัมพูชาปิดตัวลงแน่นอน”

หลังจากเหตุการณ์คลิปดังกล่าวเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปที่ร้านกาแฟ 361 และได้สัมภาษณ์ลูกค้าถึงความรู้สึกประเด็นดังกล่าว ที่“หลวงตาสุจ”พระนักเทศน์คนนี้ได้พูดขึ้นมาว่าจะปิดตัวร้านกาแฟลงที่ประเทศกัมพูชา

นายโม อายุ 36 ปี ลูกค้าที่มาซื้อกาแฟ เล่าว่าหลังจากที่หลวงตาสุจ บอกว่าจะปิดร้านกาแฟ ตนเอิงก็รู้สึกเฉยๆถึงกระแสดังกล่าว ซึ่งไม่ได้มีผลอะไรกับตนเองเพราะตนเองก็มากินกาแฟและอาหารที่นี่บ่อย เพราะรสชาติกาแฟ และอาหาร อร่อยถูกปาก ซึ่งตนเองจำหลวงตาสุจได้ดี เป็นพระนักเทศน์ที่สาปแช่งคนสุรินทร์นั่นเอง โดยการที่จะมาสั่งปิดร้านกาแฟมันไม่ใช่เรื่องของสงฆ์ เงินที่ลงทุนก็เป็นเงินของเจ้าของเขา น่าจะเข้าใจอะไรผิอดหรือเปล่า ตนจึงอยากฝากไปถึงหลวงตาสุจว่า ให้กลับไปทำกิจของสงฆ์ดีกว่า แบบนี้ไม่ควรไม่ใช่เรื่องของพระของเจ้า

นางนก อายุ 40 ปี ลูกค้าร้านกาแฟ เล่าว่า จากกรณีที่หลวงตาสุจพระนักเทศน์จะมาบอกว่า ถ้าคนสุรินทร์ยังด่าว่าแล้วจะปิดร้านกาแฟ 361 ตนเองว่าหลวงตาเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ธุรกิจของเขาก็คือธุรกิจมันคนละส่วนกัน หลวงตาน่าจะเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า กิจของสงฆ์ก็มีบอกอยู่ในระเบียบอยู่แล้วว่าอันไหนควรไม่ควร ถ้าเขาไม่ไปทานหรือไม่อยากเข้ามันก็เป็นสิทธิ์ของลูกค้า ถ้าเขาไม่ชอบใจรสชาตอาหารนั้นก็เรื่องของเขา และสิ่งที่หลวงตาสุจมาพูดแบบนี้ว่าจะสั่งปิดร้านกาแฟคนไทยในกัมพูชาไม่สมควรอย่างยิ่ง อย่างเราเมืองพุทธก็เป็นสิ่งที่เราเคารพคือพระ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าพระน่าเคารพหรือไม่ ซึ่งตนมาทานกาแฟที่นี่บ่อยถึงที่กัมพูชาจะโดนปิดหรือไม่ปิดก็ไม่ได้มีผลกับลูกค้าที่สุรินทร์
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปลงพื้นที่ไปพบกับอดีตหลานสาวหลวงจาสุจ ที่เคยทำพิธีตัดขาดกันเมื่อ 3 เดือนก่อน หลังจากที่หลวงตาสุจสาปแช่งคนสุรินทร์
นางสำรวม อินผยุง อายุ 50 ปี อดีตหลานสาวที่เคยทำพิธีตัดขาดญาติหลวงตาสุจ เล่าว่า ทำไมหลวงพี่ต้องพูดยั่วยุทั่งที่ตัวเองก๋เคยเติบโตในจังหวัดสุรินทร์มาก่อน ตอนแรกตนก็จะไม่อยากยุ่งอะไรมาก แต่พอเห็นคลิปทนไม่ได้ เห็นคลิปที่หลวงพี่พูดมันรับไม่ได้ช่วยเพลาๆหน่อยได้ไม อยู่ให้สงบสุขเหมือนพระทั่วไป และไม่มีใครมาใส่ร้ายหลวงพี่ทั่งนั้นทำตัวเอง ตอนแรกก็เชื่อสิ่งที่หลวงตาสุจพูด แต่พอมาดูความเป็นจริงแล้วทำตัวเองทั่งนั้น เหมือนวันนี้ที่คลิปออกมาก็เหมือนมายั่วยุให้คนเขาด่า และพอรับไม่ได้ก็หาเรื่องคนไปทั่ว และที่มายุ่งเรื่องทางโลก ประเด็นจะปิดร้านกาแฟคนไทยในกัมพูชามันไม่ใช่กิจของสงฆ์ เราได้ตัดญาติขาดมิตรกันไปแล้ว
ตนเองก็เห็นข่าวสารในโซเชี่ยลมั่ยั่วยุเกินไป สงบได้ก็ให้สงบอย่าหิวแสงให้มันมาก เพราะเหตุการณ์ทั่งหมดที่เกิดขึ้นเกิดจากฝีมือหลวงตาสุจทั่งนั้นที่ปลุกปั่นขึ้น เหมือนตอนที่ให้ยิงคนจังหวัดสุรินทร์ พอไม่กี่วันต่อมาก็มีการยิงกันเกิดขึ้นจริง และอยากฝากไปว่าพระก็อยู่ส่วนพระให้สงบปากสงบคำ แต่ถ้ายังพูดแบบนี้ต่อสึกมาเถอเสียดายผ้าเหลือง.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี