วันอาทิตย์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2568
อดีตครูบ้านเชียงเล่าความหลัง 53 ปีที่แล้วเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรและสมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จทอดพระเนตรหลุมขุดค้นบ้านเชียง
26 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสวรรคต สถานที่อีกแห่งคือแหล่งมรดกโลกบ้านเชียง ตั้งอยู่ที่บ้านเชียง ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เคยเสด็จทอดพระเนตรดูการขุด

ย้อนไปเมื่อ 53 ปีที่แล้ว บ่าย 2 โมงของวันที่ 20 มีนาคา 2515 ท่ามกลางเปลวแดดอันร้อนแรง เสียงเฮลิคอปเตอร์ดังอยู่เหนือหมู่บ้านบ้านเชียง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯเป็นการส่วนพระองค์ โดยมิได้มีหมายกำหนดการมาก่อน เพื่อทอดพระเนตรแหล่งขุดค้นโบราณวัตถุ ที่วัดโพธิ์ศรีใน ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

หลังจากที่พระองค์ท่านทรงทราบข่าวว่ามีการขุดค้นพบโบราณวัตถุที่นี่เป็นจำนวนมาก โดยทั้งสองพระองค์ได้เสด็จหลุมขุดค้นที่วัดโพธิ์ศรีในและพื้นที่บ้านของนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ ชาวบ้านเชียง โดยครั้งนั้น ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสถามเจ้าหน้าที่ว่า “ที่ตั้งใจมาดูอยากจะเห็นสิ่งต่างๆ อยู่ในสภาพเดิมอย่างนี้ ทำไมถึงพบหลุมฝังศพและเครื่องปั้นดินเผาลายเขียนสี มากที่นี่”

เมื่อทอดพระเนตรดูโครงกระดูกโบราณด้วยความสนพระทัย จึงมีพระราชดำรัสว่า “กระดูกนี้เคยใช้ในการพิสูจน์หาอายุได้หรือไม่” ซึ่ง ศ.นพ.สุด แสงวิเชียร ได้กราบบังคมทูลว่า “การหาอายุกระดูกในต่างประเทศเคยกระทำกัน แต่ประเทศเรายังไม่เคยได้จัดส่งไป คิดว่าค่าส่งคงจะแพง” ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงทรงชี้แนะว่า “ก็ไม่น่าจะสิ้นเปลืองเงินทองมากนัก เพราะเรื่องพิพิธภัณฑ์เป็นแบบสากลระหว่างประเทศ อีกประการหนึ่ง ทั่วโลกคงจะสนใจเรื่องบ้านเชียงนี้มาก ใครๆก็อยากจะรู้และให้ความร่วมมือในการหาอายุ ถ้าหาอายุจากกระดูกได้ ก็จะเป็นการเชื่อถือมากขึ้นอีก”

จากกระแสพระราชดำรัสในครั้งนั้น นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากรและ มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินการสำรวจและขุดค้นแหล่งโบราณคดีประเภทต่างๆอย่างละเอียด ระหว่างปี 2517 - 2518 และนำไปศึกษาวิจัยเพื่อตรวจหาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์ ผลปรากฏว่าใต้ผืนดินชุมชนบ้านเชียงเป็นแหล่งอารยธรรมเมื่อ 5,000 ปีมาแล้ว ถือเป็นการค้นพบอันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มาก ก่อให้เกิดความก้าวหน้าทางโบราณคดีของไทยเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ลำดับที่ 359 ของโลก และลำดับที่ 4 ในเมืองไทยเมื่อปี 2535
.jpg)
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางอังคณา บุญพงษ์ อายุ 78 ปี อดีตข้าราชการครูที่โรงเรียนบ้านเชียงประชาเชียงเชิด นำรูปถ่ายสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเมื่อครั้งเสด็จทอดพระเนตรหลุมขุดค้นโบราณวัตถุ นำมาซึ่งความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรชาวบ้านเชียงเป็นอย่างมาก โดยบ้านไทพวนซึ่งอยู่ข้างๆ บ้านของนางอังคณา เป็นบ้านที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีเคยเสด็จขึ้นไปบนบ้านจากนั้นนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ เจ้าของบ้านได้ถวายบ้านให้ทั้งสองพระองค์ท่าน จนนำมาซึ่งการอนุรักษ์บ้านเก่าไทพวนโดยการดูแลของกรมศิลปากรจวบจนมาถึงปัจจุบัน

นางอังณา อดีตข้าราชการครู เล่าว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2515 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีท่านเสด็จด้วยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ทุ่งนาคำ ตอนนั้นมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จเยอะมาก จากนั้นทั้งสองพระองค์ท่านได้เสด็จไปดูเจ้าหน้าที่ขุดคุ้นโบราณวัตถุทั้งโครงกระดูกโบราณ ไหลายบ้านเชียง พอทั้งสองพระองค์ท่านทอดพระเนตรหลุมขุดค้นที่วัดโพธิ์ในเสร็จ ท่านก็มาที่หน้าบ้านของนายพจน์ มนตรีพิทักษ์ ซึ่งเป็นบ้านของอาหรือน้องของพ่อ จำได้ว่าพระองค์ท่านได้สอบถามเรื่องการขุดหลุมอยู่

จากนั้นทั้งสองพระองค์ก็เดินขึ้นไปบนบ้านไทพวนของนายพจน์ นายพจน์ก็รีบขึ้นไปบนด้วย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านบอกกับนายพจน์ว่า บ้านแบบนี้ทำด้วยไม้ หาดูไม่ได้อีกแล้วหาได้ยาก ให้รักษาเก็บไว้ดี แต่นายพจน์เจ้าของบ้านได้ถวายมอบให้ในหลวงรัชการที่ 9 และสมเด็จพระราชินีในวันนั้นเลย จากนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็ให้กรมศิลปากรดูแล จากเดิมเป็นไม้เก่าๆ แต่ตอนนี้กรมศิลปากรปรับปรุงและซ่อมแซมบ้านเก่าไทพวนหลังนี้ให้ลูกหลานได้มาศึกษาประวัติศาสตร์ที่ชุมชนแห่งนี้ให้คงอยู่สืบไป

นางอังคณา กล่าวอีกว่า ตนเองมีโอกาสได้เฝ้ารับเสด็จทั้งสองพระองค์อย่างใกล้ชิดตอนนั้นอยู่ที่โรงเรียนประชาเชียงเชิด ปลื้มปิติมากก้มกราบทรงพระเจริญ และมีประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จเปล่งเสียงทรงพระเจริญเสียงดังกักก้องทั่วโรงเรียน จำได้ว่ามีชาวบ้านนำวัว 3 ขามาถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระราชินี แต่ตำรวจว่าพระองค์ท่านเอาไปด้วยไม่ได้ แต่พอทั้งสองพระองค์ท่านมาเห็น ก็มอบวัวให้กับชาวบ้านเป็นวัวพระราชทานเลย
หลังทราบว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จสวรรคต เสียใจอย่างสุดซึ้ง เพราะคิดถึงท่านพระองค์ท่านสถิติย์อยู่ในหัวใจตราบชั่วนิรันดร์ โดยเฉพาะในเรื่องประวัติศาสตร์สมเด็จพระพันปีหลวงท่านให้ความสำคัญมาก.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี