กู้ภัยอุดรฯหอบเจ้าบุญรอด จากหาดใหญ่สู่แดนอีสาน ยืนยันเลี้ยงจนตาย-ไม่ส่งโรงเชือด

กู้ภัยอุดรฯหอบเจ้าบุญรอด จากหาดใหญ่สู่แดนอีสาน ยืนยันเลี้ยงจนตาย-ไม่ส่งโรงเชือด

วันอังคาร ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 11.40 น.

จ.อุดรธานี กู้ภัยอุดรใจดีพาน้องหมูสู้ชีวิตคาบเชือกลอยคอ 5 วัน รอดน้ำท่วมหาดใหญ่กลับบ้านด้วย สัญญาจะไม่พาเข้าโรงเชือด 

ที่ จ.อุดรธานี เปิดใจกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม ภารกิจเดินทางไกล 1,515 กม. ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่ เผยคลิปนาทีช่วยน้องหมูถูกน้ำท่วมมาได้ ตั้งชื่อให้ “เจ้าบุญรอด” เผยเป็นหมูสู้ชีวิตคาบเชือกลอยคอน้ำท่วมมา 5 วัน กู้ภัยพร้อมนำกลับมาเลี้ยงที่บ้านอุดรด้วย เผยจะเลี้ยงเอาไว้จนกว่าหมูจะชราภาพตามอายุไม่เอาไปโรงฆ่าโรงเชือดแน่นอน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ประสบภัยน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง หน่วยงานต่าง ๆ ได้ระดมกำลังเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันกลุ่มกู้ภัยจิตอาสาจาก จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นอาสาสมัครกู้ภัยก็ได้เดินทางลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ได้รับทราบข่าวน้ำท่วมตั้งแต่วันแรกๆ  เพื่อร่วมสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัย และระดับน้ำท่วมได้ลดลงแล้ว

 

 

ล่าสุด อาสากู้ภัยจิตอาสาชาวอุดรธานีกลุ่มดังกล่าวได้เดินทางกลับถึง จ.อุดรธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากปฏิบัติหน้าที่เสร็จสิ้น แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่ได้มามือเปล่า พวกเขายังได้นำลูกหมูตัวหนึ่งขึ้นท้ายกระบะรถกู้ภัยกลับมาด้วย ซึ่งเป็นหมูหนุ่มเพศผู้ ที่ถูกกระแสน้ำพัดไม่ทราบแหล่งที่มา และติดค้างอยู่ระหว่างการช่วยเหลือในพื้นที่น้ำท่วม โดยคลิปที่กู้ภัยและชาวบ้านถ่ายเอาไว้จะเห็นหมูตัวนี้สู้ชีวิตสุดๆ ลอยคอมากับน้ำจะจมแหล่ไม่จมแหล่ แต่คาบเชือกมานานรอดตายจากน้ำท่วมมาได้และกู้ภัยก็เข้าไปช่วยน้องหมูหนุ่มตัวนี้รอดจากจมน้ำได้อย่างหวุดหวิด ภารกิจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงน้ำใจของจิตอาสาจากแดนอีสาน ที่พร้อมเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้ในยามเดือดร้อนอย่างไม่ลังเล ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์เลี้ยง

 

นายสายชล คุ้มทรัพย์ อายุ 51 ปี และนายชัยสิทธิ์ เล็งไธสงค์ อายุ 44 ปี อาสากู้ภัยจิตอาสามูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม เปิดเผยถึง เราเดินทางไปเพื่อปฏิบัติการภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากเห็นข่าวและภาพความเสียหายในหลายชุมชน ยิ่งทำให้ตัดสินใจเดินทางจากอุดรธานีไปหาดใหญ่ทันที ใช้เวลาเดินทางรวม 2 คืน 1 วันระยะทางกว่า 1,515 กม. กว่าจะถึงพื้นที่ภัยพิบัติ โดยถึงจุดหมายในเวลาตี 3 และรีบนำเจ็ตสกีลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนร่วมกับทีมเพื่อนจาก จ.อุบลราชธานี ทันทีโดยไม่ลังเล แม้ขณะนั้นฝนจะตกหนักทั้งวันก็ตาม

ภารกิจแรกคือการนำผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบางออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมสูงไปยังศูนย์อพยพ ซึ่งระดับน้ำในบางจุดลึกกว่า 2 เมตร และมีสิ่งกีดขวางจำนวนมาก ทั้งขยะ เศษไม้ เครื่องนอน ที่ลอยเข้ามาติดใบพัดและกระแทกเรือเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ทีมกู้ภัยคนอื่นจากทั่วประเทศยังคงปฏิบัติภารกิจต่อเนื่องจนสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เป็นจำนวนมาก

 

 

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุดคือการช่วยชีวิตหมูหนุ่มเพศผู้ตัวหนึ่ง ซึ่งต่อมาตั้งชื่อให้ว่า “บุญรอด” เหตุเกิดขณะทีมงานเข้าไปช่วยประชาชนในพื้นที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ชาวบ้านขอให้ช่วยนำหมูติดกรงเหล็กที่ครอบศาลพระภูมิออกมาด้วย เนื่องจากหมูตัวนี้ติดอยู่ตรงจุดนั้นนานราว 5 วัน ท่ามกลางน้ำท่วมสูงและน้ำไหลเชี่ยว เมื่อระดับน้ำลดลงทีมงานจึงเข้าไปช่วยพาหมูออกมาได้อย่างปลอดภัย และพบว่าไม่มีใครแสดงความเป็นเจ้าของ โดยคาดว่าหมูตัวนี้จะถูกน้ำพัดลอยมาจากพื้นที่อื่น ชาวบ้านจึงขอให้ทีมกู้ภัยอุดรรับไปเลี้ยงด้วยเนื่องจากไม่สามารถเลี้ยงต่อได้ ทำให้ต้องนำหมูกลับมายัง จ.อุดรธานี

 

 

กู้ภัยทั้งสองท่าน บอกอีกว่า หลังปฏิบัติภารกิจและเดินทางกลับ ยังพบอุปสรรคระหว่างทาง เช่น ล้อเรือหลุดเสียหาย แต่ก็แก้ไขจนเดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย ภารกิจครั้งนี้ทำให้รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนชาวอุดรธานีลงไปช่วยพี่น้องภาคใต้ และยืนยันว่าไม่ว่าที่ไหน หากมีคนเดือดร้อน พวกเขาพร้อมลงพื้นที่ช่วยเหลือเสมอ ส่วนเจ้าบุญรอด หมูหนุ่มที่รอดจากน้ำท่วมเป็นของใคร สามารถติดต่อรับคืนได้ทันที แต่หากไม่มีใครรับคืนก็จะเลี้ยงเอาไว้จนหมูชราภาพตามอายุไปเอง โดยจะหาสถานที่เอาไว้เลี้ยง อาจจะที่วัดใน อ.กุดจับ หรือบ้านสวนที่ อ.สร้างคอม สัญญาจะไม่เอาไปฆ่าหรือเข้าโรงเชือดแต่อย่างใด เพราะเห็นใจหมูตัวนี้รอดตายมาได้ไม่อยากจะไปซ้ำเติมเขาอีก

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top