วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568
๕๐ ปีครองราชย์... ภารกิจเพลงเทิดพระเกียรติ! ใครคือคนแรกที่เรียกในหลวงว่า "พ่อ" ในบทเพลง "ดี้ นิติพงษ์" เผยหมดเปลือก! ความกดดันจากห้องประชุม สู่แรงบันดาลใจจาก "ใบโพธิ์สีม่วง" ที่ทำให้เกิดเพลง "ต้นไม้ของพ่อ"
เฟซบุ๊ก Nitipong Honark ของ ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก เล่าว่า
เมื่อปี ๒๕๓๙ เป็นปีที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ซึ่งมหาวาระอันยิ่งใหญ่ ภาครัฐบาล เอกชน ทุกหมู่เหล่า ร่วมวางแผนที่จะเฉลิมฉลองเทอดพระเกียรติอย่างยิ่งใหญ่…
จุดเล็กๆ จุดหนึ่งในนั้น..ทางผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็มีดำริที่ให้สร้างเพลงเฉลิมพระเกียรติขึ้นมาอย่างเป็นทางการสำหรับวาระสำคัญอันเป็นมงคลยิ่งนี้..
จึงได้มีการมอบหมายผ่านมายังบริษัท แกรมมี่ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด…ผู้บริหารทุกท่านลงมติว่า…ผู้ขับร้องควรจะเป็น ธงไชย แมคอินไตย์ และผู้ประพันธ์เพลงควรจะเป็น……
ทุกสายตาก็มองมาที่ฉัน…และฉันก็นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น…
ความกดดันก็สิงสู่หัวใจฉันมานับแต่วันนั้น….วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า นอนหลับไม่เต็มตา เฝ้าแต่ครุ่นคิดว่า…ฉันจะทำอย่างไร จะแต่งอะไร จะเริ่มอย่างไร จะดำเนินเรื่องอย่างไร จะจบลงอย่างไร….
นี่เป็นภาวะที่ยากที่สุดของการแต่งเพลงตลอดชีวิตที่เคยทำมา…
ฉันเคยแต่แต่งเพลงรัก เพลงเจ้าอารมณ์ เพลงอกหัก เสียดสีเชือดเฉือน แบบชาวบ้านๆ แล้วนี่อะไรกัน….ต้องแต่งเพลงที่ต้องเอื้อมอาจไปถึงจุดสูงสุดของแผ่นดิน…
ฉันนั่งหาหนังสือเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริสี่พันโครงการ อีกทั้งพระปรีชาสามารถในทุกด้าน ฯลฯ แล้วฉันก็ทิ้งตัวนอนแผ่…หมดแรง
เรื่องราวห้าสิบปีของพระองค์ท่าน ถ้ารวมเป็นหนังสือก็คงต้องใช้ทั้งห้องสมุด…แล้วฉันนี่นะ จะต้องสรุปความให้ได้ภายใน สี่ห้านาทีของเพลง ๆ หนึ่ง…
ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่จำความได้ ฉันรู้จักเพลงที่เกี่ยวกับพระราชา อยู่แค่ เพลงสรรเสริญพระบารมี กับ สดุดีมหาราชา และเคยได้ยินเพลง ราชาเป็นสง่าแห่งแคว้น ของสุนทราภรณ์…
ซึ่งเพลงแรกเป็นเพลงศักดิ์สิทธิ์ของกษัตริย์อยู่แล้ว ส่วนอีกสองเพลงนั้นเล่า ก็ล้วนเป็นเพลงสดุดีอันใช้ราชาศัพท์และศัพท์สูงต่าง ๆ
ฉันเป็นเด็กบ้านนอก…รู้จักแต่ภาษาชาวบ้าน เขียนกลอน เขียนเพลงอะไรมาก็ล้วนแต่เป็นบทตลาด เป็นชาวบ้าน….แล้วฉันจะเขียนศัพท์สูง ๆ แบบนั้นได้ยังไง…
วันเวลาผ่านไปนับเดือน ใกล้ถึงเส้นตายที่ต้องแต่งให้เสร็จตามกำหนด ทำนองที่ประพันธ์โดย คุณป้อม อภิไชย เย็นพูนสุข ก็มารอแล้ว เป็นทำนองที่ไพเราะสวยงามที่สุด อบอุ่น และฟังง่าย…ช่วยให้ฉันตัดสินใจง่ายขึ้นอีกนิดว่า….ฉันขอเขียนอะไรก็ได้ที่ยังนึกไม่ออกด้วยภาษาที่ฟังง่ายด้วยก็แล้วกัน..คนฟังก็คงถนัดฟัง ฉันก็ถนัดเขียนภาษาง่ายอยู่แล้ว…
ก่อนนอนคืนนั้น…ฉันไหว้พระ แล้วก็กราบที่พระบรมฉายาลักษณ์ในห้องพระ ในใจก็แอบกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาต ว่า ขอข้าพระพุทธเจ้าใช้คำง่ายๆ กับเพลงที่จะแต่งถวายนี่ด้วยนะพระเจ้าข้า….แล้วก็ขอเองเออเองว่าท่านไม่น่าจะทรงว่าอะไร….และขอให้ท่านบันดาลใจให้คิดออกเสียที..
รุ่งขึ้นอีกวัน…ระหว่างหยิบเอกสารโครงการเพลงเทิดพระเกียรติมาดูครั้งที่ร้อย…อย่างเลื่อนลอย พลันสายตาก็ไปพบกับโลโก้บนหัวเอกสารของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย…เป็นใบโพธิ์สีม่วงๆนั่นแหละ…
พลันในหัวก็สว่างวาบ ขนลุกซู่….มันคิดเรื่องราวทะลุปรุโปร่งขึ้นมาอย่างกระทันหัน จากที่คิดว่าจะเขียนเรื่องอะไรอย่างไร…ฉันเปลี่ยนวิธีคิดจากเขียนเล่าแบบเรื่องจริง….มาปรับเป็นการเปรียบเปรย แล้วทุกอย่างก็โล่งสว่าง...ใบโพธิ์ใบนั้น..ทำให้ฉันคิดถึงต้นไม้ ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ให้คุณประโยชน์แทบทุกอย่าง หาภัยอันตรายแทบไม่มี….นี่ไง คือสิ่งที่พระองค์ท่านสร้างมาตลอดห้าสิบปี…
ว่าแล้ว ก็เริ่มต้นเพลง เหมือนการเล่านิทาน
“นานมาแล้ว……”
แล้วก็ชะงักอยู่ตรงนั้น….ฉันจะเล่าอย่างไร ฉันจะแทนพระนามของท่านว่าอะไร ที่รู้สึกให้เหมือนการเล่าแบบง่ายๆ ไม่ต้องใช้ศัพท์สูง..
ก่อนหน้านั้น ไม่เคยได้ยินว่ามีใครบังอาจนับญาติกับพระเจ้าแผ่นดิน อย่างมากก็มีศัพท์ชาวเขาที่เรียกในหลวงว่า “พ่อหลวง” หรือที่เคยเรียนมาว่าสมัยพ่อขุนรามฯ ทรงใช้การปกครองแบบพ่อปกครองลูก…. และยังไม่เคยมีเพลงไหนที่เรียกในหลวงว่า “พ่อ”
ฉันถอนหายใจให้กับตัวเองอีกทีหนึ่ง…เอาละเป็นไงเป็นกัน….ขอใช้เป็นคนแรกในเพลงนี้ละกัน จะโดนอะไรบ้างข้างหน้า..ก็ถือเสียว่า ตัวเองทำไปด้วยใจซื่อ…
“พ่อได้ปลูกต้นไม้ไว้ให้เรา……”
หลังจากปลดล็อกความกดดันความกลัวทั้งปวงแล้ว ทุกอย่างก็เล่าเรื่องไปตามครรลองที่ควรจะเล่า จนจบเพลง… ความรู้สึกหนักๆ บนบ่าและไหล่ที่แบกมาตลอดนับเดือน…ก็อันตรธานไป
และมันคงลอยไปที่ ธงไชย แมคอินไตย์ ผู้ที่ต้องเป็นผู้แบกนำเสนอต่อไป….
หลังจากที่เพลงบันทึกเสียงเสร็จออกมา…บรรดาพี่ๆ ผู้บริหารเข้าประชุมนั่งฟัง แล้วเห็นพ้องกันว่า…น่าจะดี…น่าจะเหมาะ….ซึ่งแปลความหมายได้ว่า…ฟังแล้วชอบ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าประชาชน พสกนิกรทั้งปวง จะเห็นเหมาะสมไหม เนื่องจากเป็นเพลงที่ดูแล้วไม่สูงส่งสมพระเกียรติ เป็นแค่เพลงง่ายๆ เพลงนึง…
หลังจากที่ทำภาพวิดีโอประกอบเสร็จสมบูรณ์ ก็มีความมั่นใจกันมากขึ้น…แต่ก็ยังมั่นใจเต็มร้อยไม่ได้จนกว่าจะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า…
เมื่อถึงเวลาเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณชน…สิ่งที่พวกเราลุ้นด้วยความหวั่นใจ..ก็มลายไปสิ้น เมื่อได้รับเสียงชื่นชม ปลาบปลื้ม และยอมรับโดยทั่วไป…
ฉันมานั่งที่มุมห้องทำงาน…มองดูตัวเองในกระจก ถอนหายใจ แล้วพูดกับตัวเองว่า
“รอดมาได้แล้วดี้…ขอบใจนะ”
หลังจากผ่านวาระครองราชย์ ๕๐ ปีคราวนั้น เพลงต้นไม้ของพ่อ ก็ถูกเผยแพร่ตามวาระและโอกาสต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับในหลวง ร.๙ มาโดยตลอด จนแม้คราววาระครองราชย์ครบ ๗๐ ปี ก็มีหน่วยงานราชการ เอกชน มาขออนุญาตฉัน ว่า ในเนื้อเพลงนั้นเขียนว่า
“ผ่านมาแล้ว ๕๐ ปี…..” มันไม่ค่อยตรงกับวาระเลย ควรทำอย่างไร ฉันก็บอกว่า ก็ร้องเป็น
“ผ่านมาแล้ว ๗๐ ปี..” สิ ผู้แต่งไม่ว่าอะไรดอก…
เคยมีผู้ใหญ่ระดับอาจารย์ด้านพันธุ์พืช ซึ่งเชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้เป็นอย่างมาก ถามฉันว่า
“ผมฟังเพลงต้นไม้ของพ่อ ฟังเนื้อหา สรรพคุณของต้นไม้ต่างๆ ที่คุณดี้กล่าวมา…ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่ามันควรจะเป็นต้นอะไร….ถามจริงๆ ต้นไม้ของพ่อนี่คือต้นอะไร”
”ผมก็ไม่ทราบครับอาจารย์…“ ฉันตอบกลับอย่างไว
ถึงแม้วันนี้….จะเปลี่ยนแผ่นดินแล้ว….ต้นไม้ของพ่อก็ยิ่งเติบโตให้เห็นดอกผล สืบสานและติดตามโดยพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ใหม่….ที่ทรงสืบสานตามพระปฐมบรมราชโองการสืบมาจนทุกวันนี้…
นิติพงษ์ ห่อนาค
๕ ธันวาคม ๒๕๖๘
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี