รมช.กลาโหม เยี่ยมปลอบขวัญ ให้กำลังใจครอบครัว 'จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน' ทหารกล้า ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยบริเวณเนิน 350 ปราสาทตาควาย โดยยืนยันรัฐบาลและกองทัพจะดู ช่วยเหลือครอบครัวเต็มที่ พร้อมเร่งนำร่างกลับสู่ภูมิลำเนา มาประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติโดยเร็ว เผยความเสียสละของทหารทุกนายจะไม่สูญเปล่า

18 ธันวาคม 2568 เมื่อเวลา 14.50 น. พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางลงพื้นที่ เพื่อตรวจเยี่ยมและปลอบขวัญให้กำลังใจ พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือ แก่ครอบครัวและญาติพี่น้องของ จ.ส.อ.สำเริง คลังประโคน โดยมีนางเอี่ยม คลังประโคน อายุ 79 ปี มารดาของ จ.ส.อ.สำเริง พี่สาว ภรรยา ลูกๆ และครอบครัว รวมถึงญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน

ที่วัดห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสถานที่เตรียมรอรับร่างของ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน หรือ จ่าชก อายุ 38 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบ 23 (ร.23 พัน.3) ที่ได้เสียชีวิตพร้อมกับ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา ขณะปฎิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยสู้รบกับกับฝ่ายกัมพูชา ที่สมรภูมิเนิน 350 ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ เมื่อค่ำคืนวันที่ 16 ธ.ค.68 ที่ผ่านมา ที่ขณะนี้ครอบครัวอยู่ระหว่างรอการนำร่างกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณี 

โดยขณะนี้ ทางครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้าน รวมถึงส่วนราชการในพื้นที่ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่บริเวณ วัดห้วยปอ ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของ จ.ส.อ.สำเริง เพื่อเตรียมรอรับร่างอันไร้วิญญาณของ จ.ส.อ.สำเริง มาตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ และตั้งหน้าตั้งตารอคอยการนำร่างของ จ.ส.อ.สำเริง กลับมาโดยเร็ว

นอกจากนี้ ยังได้มีเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาล จากโรงพยาบาลค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จ.บุรีรัมย์ และโรงพยาบาลประโคนชัย ร่วมลงพื้นที่ให้การดูแล เพื่อเยียวยาสภาพจิตใจแก่ครอบครัวของ จ.ส.อ.สำเริง ด้วย

นางเอี่ยม มารดาของ จ.ส.อ.สำเริง ได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียครั้งนี้ แต่ก็ ภูมิใจที่บุตรชายได้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติอย่างสุดความสามารถ และหวังเป็นอย่างยิ่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำร่างของลูกชายกลับบ้าน เพื่อให้ครอบครัวได้ประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ

ด้าน พลโทอดุลย์ กล่าวว่า  กระทรวงกลาโหมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวของ จ.ส.อ.สำเริง  พร้อมยกย่องในความกล้าหาญ และความเสียสละของกำลังพล ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศ โดยยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพจะดูแลสิทธิ สวัสดิการ และการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียสละอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเร่งประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำร่างกลับสู่ภูมิลำเนาและประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติสูงสุด

ทั้งนี้ พลโทอดุลย์ ยังได้เน้นย้ำด้วยว่า ความเสียสละของทหารทุกนายจะไม่สูญเปล่า และจะเป็นพลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มกำลังความสามารถ.