22 ธันวาคม 2568 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ไปพบกับชาวบ้าน บ้านหนองพลวงสามัคคี หมู่ที่ 12 ตำบลจีกแดก อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยในขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะโซนอำเภอพนมดงรัก ได้รับผลกระทบ หลังจากที่มีการปะทะชาวบ้านต้องทิ้งนาทิ้งไร่ ทิ้งอาชีพ เพื่อออกจากพื้นที่อพยพไปยังที่ที่ปลอดภัย

โดยความลำบากของ ประชาชนในพื้นที่ชายแดนตอนนี้ หลักๆจะเป็นเรื่องการขาดรายได้ เพราะหลายคนต้องทิ้งอาชีพที่เคยทำเช่นไร่นา สวนยางพารา สวนอ้อย ในช่วงสถานการณ์ชายแดน ไม่สงบ เพื่ออพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยพื้นที่ตรงนี้เห็นได้ว่า เมื่อวันที่มีการปะทะซึ่งในขณะที่ชาวนาเกี่ยวข้าวอยู่ ยังไม่เสร็จ กล้าข้าวบางสวนยังไม่ได้มัดด้วยซ้ำ ก็ต้องทิ้งเพื่อลี้ภัย ทำให้เกิดความเครียดเพราะบางคนมีหนี้สิน งวดรถ ไฟแนนซ์ ที่ต้องจ่าย

นายเพชร อึ่งชื่น อายุ 67 ปี เจ้าของนาข้าว เล่าว่า พื้นที่บริเวณนี้ตนเองปล่อยให้ชาวบ้านเช่าเพื่อปลูกข้าวเหนียว เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ตอนนั้นชาวบ้านกำลังเร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต ข้าวเหนียวที่ปลูกไว้ แต่ก็ต้องอพยพหนีจากการประทะอย่างหนักในเวลานั้น จนตอนนี้ข้าวที่เก็บเกี่ยว ยังไม่แล้วเสร็จ ต้นข้าวได้แห้งรวงข้าวเริ่มเหี่ยวและร่วงเสียหาย และจะต้องกลับมาเคลียร์หลังจากที่มีการประกาศให้เข้าพื้นที่ แต่ถ้านานผลผลิตก็จะเสียหายไม่สามารถนำไปสีกินได้ เพราะตอนนี้ก็ต้องเลือกเอาชีวิตก่อน

ตอนนี้อยากให้สถานการณ์ ปัญหาชายแดนยุติลงโดยเร็ว แต่ขอให้รอบนี้จบ เพราะชาวบ้านบางคนก็ต้องแอบออกมาจากศูนย์อพยพ เพื่อที่เข้ามาเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เพราะต้องหาเงินใช้จ่ายในช่วงอพยพ ช่วงนี้ขาดรายได้ ค่าใช้จ่ายรอค่าน้ำค่าไฟก็คงยังเหมือนเดิม ไหนจะค่างวดรถ ไหนจะค่าไฟแนนซ์ ก็ต้องหาเงินจ่าย