วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.แถลงข่าวเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในการรวมตัวจัดกิจกรรมของม็อบตำรวจล้มช้าง ที่บริเวณแยกราชประสงค์ เวลา 17.00 น.นี้ ว่า ช่วงเย็นจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี, กลุ่มราษฎร และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่บริเวณแยกราชประสงค์ เตือนกลุ่มผู้ชุมนุมแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีมาตรการคลี่คลายสถานการณ์ในบางประการ เพื่อให้ประชาชนได้ทำมาหากิน มีช่องว่าง และบรรเทาความเดือดร้อนในระดับหนึ่ง แต่ขณะนี้กรุงเทพฯยังมีประกาศห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ฉะนั้นการชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จะมีความผิดตามประกาศดังกล่าว
สำหรับการชุมนุมอยู่ในพื้นที่ต่อเนื่องระหว่าง บก.น.5 และ บก.น.6 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 และ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ของตัวเอง พร้อมจัดเตรียมกองร้อยควบคุมฝูงชน (คฝ.) โดยพิจารณาจัดกำลังตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องความรุนแรงจากการชุมนุมที่ผ่านมา ทั้งที่สถานทูตเมียนมา สามย่านมิตรทาวน์ และศาลฎีกา จะเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันเอง รวมถึงกลุ่มอาชีวะที่อาสามาเป็นการ์ด การที่แกนนำไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงขอเตือนประชาชน หรือผู้ที่สัญจรไปมา ให้พยายามหลีกเลี่ยงบริเวณชุมนุมเนื่องจากอาจได้รับอันตราย จากการข่าวคาดว่าหากกลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมาก อาจเคลื่อนตัวไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
"สิทธิในการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมาย ถือเป็นสิทธิ์ตามกฎหมายที่ตำรวจสามารถชุมนุมได้ แต่ผมมั่นใจว่าตำรวจทุกนายมีความเข้าใจ มีระเบียบวินัย และคงจะไม่มีตำรวจนายไหนเข้าร่วมชุมนุมโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นตำรวจในนครบาล หรือตำรวจจากต่างจังหวัด หากพบว่ามีตำรวจร่วมชุมนุมแล้วกระทำผิดกฎหมาย ก็ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย" น.2 กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่สามย่านมิตรทาวน์ พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 4 ราย เข้าพบในวันที่ 18 ก.พ. รับทราบข้อกล่าวหาตามความผิด "พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ" ต่อมาได้มีหนังสือขอเลื่อนเข้าพบในวันนี้แทน พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี
กรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่สถานทูตเมียนมา พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ได้ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องอีก 12 ราย เข้าพบในวันที่ 19 ก.พ. ในจำนวน 11 ราย รับทราบข้อกล่าวหาตามความผิด "พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรค, มาตรา 215 สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง และมาตรา 215 วรรณ 2 การชุมนุมนั้นมีผู้ที่มีอาวุธเข้ามาร่วมในการชุมนุม" พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี ส่วนอีก 1 ราย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำได้เดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว
และกรณีเมื่อวันที่ 13 ก.พ. เกิดเหตุยิงกันที่หน้าร้านสะดวกซื้อ สาขาสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จากนั้นได้มีการยิงกันอีก 1 ครั้ง ที่ท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ อยู่ด้านหลังร้านสะดวกซื้อดังกล่าว พนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว ต่อมาได้ขอศาลออกหมายจับที่ 78/2564 สามารถจับกุมผู้ต้องหาในข้อหา "พยายามฆ่าผู้อื่น, พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" ก่อนนำตัวสอบสวนและฝากขังศาลอาญา
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรว่า เส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนราชดำริ (แยกราชดำริ-แยกประตูน้ำ), ถนนพระราม 1 (แยกเฉลิมเผ่า-แยกราชประสงค์), ถนนเพลินจิต (แยกราชประสงค์-แยกชิดลม) โดยให้หลีกเลี่ยงตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป จนกว่าเสร็จสิ้นการชุมนุม และเส้นทางที่แนะนำใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบ ได้แก่ ถนนราชปรารภ, ถนนสีลม, ถนนเพชรบุรี, ถนนสาทร, ถนนพญาไท, ถนนวิทยุ, ถนนพระราม 4, ถนนสุขุมวิท, ถนนอังรีดูนังต์, ถนนสารสิน, ถนนหลังสวน, ซอยต้นสน.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี