เหตุสลดใจรับวันพระใหญ่ครั้งนี้ถูกเปิดเผยเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 กรกฎาคม ร.ต.ท.ปัญญา อำมาตย์เสนา พนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งว่ามีช้างของวังช้างอยุธยาแลเพนียด ถูกวางยาเสียชีวิตแล้วถูกตัดงา ที่บริเวณริมแม่น้ำลพบุรี ติดกับถนนสายสวนพริก-บ้านเกาะ ม.6 ต. บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมผู้บังคับบัญชา
ในที่เกิดเหตุพบพลายคล้าว อายุ 50 ปี น้ำหนัก 4,900 กิโลกรัม ล้มลิ้นจุกปากมีสีม่วงคล้ำ ที่งวงมีบาดแผลถูกคมใบเลื่อยตัดออกทั้งสองข้าง งาด้านซ้ายถูกตัดออกจนสุดส่วนงาด้านขวาเหลืออยู่ประมาณ 10 เซนติเมตร(ซม.)และมีสีเขียวของใบเลื่อยติดอยู่ใกล้กันพบใบเลื่อยสีดำหัก ยาวประมาณ 30 ซม. ตกอยู่พร้อมแหวนรองที่ใส่ใบ 1 อัน กล้วยน้ำว้าและเปลือกกล้วยตกอยู่จำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่นั้น ฝ่ายชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมามุงดูพร้อมแสดงความหดหู่ต่อภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้าที่พลายคล้าวถูกโจรใจชั่วฆ่าตัดเอางาในครั้งนี้ โดยพากันสาปแช่งคนร้ายและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับผลกรรมอย่างสาสมกับความโหดเหี้ยมอำมหิตดังกล่าวโดยเฉพาะการฆ่าสัตว์คู่บ้านคู่เมืองในวันเข้าพรรษาซึ่งเป็นวันพระใหญ่
สอบสวนนายพัน ศาลางาม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/2 ม. 2 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ควาญช้างของพลายคล้าว กล่าวว่า พลายคล้าว เป็นช้างที่มีงาสวยงามมาก งายาวประมาณ 90 ซม. แต่มีอาการตกมันจึงแยกไปอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งอาการตกมันก็เริ่มจะหาย เตรียมจะนำกลับไปไว้ที่หมู่บ้านเพนียดหลวง ต.สวนพริก ฝั่งตรงข้าม
นายพันกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดทุกวันเช้าและเย็น ช่วงเย็นที่ผ่านมาก็ได้เข้ามาให้อาหารแต่ไม่ได้ให้กล้วยกับช้าง ส่วนช่วงกลางคืนที่ผ่านมาไม่มีคนเฝ้า ช่วงเช้ามีคนมาบอกว่าเห็นพลายคล้าวนอนอยู่ ตนจึงรีบมาดูก็พบว่าถูกวางยาฆ่าตัดเอางา อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนร้ายน่าจะนำอาหารผสมยาสลบชนิดร้ายแรงมากให้ช้างกินจนสลบและล้มลงก่อนใช้ใบเลื่อยตัดงาไปขาย
“จิตใจคนร้ายมันทำด้วยอะไร ทำไมถึงได้ทำกับช้างได้ขนาดนี้ ปกติช้าง ถ้าคนที่ไม่มีความคุ้นเคยจะไม่สามารถเข้าใกล้ช้างได้ ที่ผ่านมาเคยมีคนร้ายลอบตัดงาช้างมาแล้วในปางช้างหลายจังหวัด แต่ยังไม่มีการจับกุมคนร้ายได้” นายพัน กล่าว
ด้านนายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างแลเพนียด กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่สูญเสียช้างงาไป สำหรับหมู่บ้านช้างของตน มีช้างงาอยู่กว่า 10 เชือก ก่อนหน้านั้นมีข่าวว่าช้างของมูลนิธิหัสดินทร์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถูกคนร้ายลอบตัดงา ตนจึงได้นำช้างของตนเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน แต่เนื่องจากพลายคล้าวมีอาการตกมัน จึงให้ควาญช้างแยกออกไปเลี้ยงจากช้างเชือกอื่น ๆ และให้ควาญช้างใช้อาวุธปืนยาวออกไปเฝ้าระวังดูแลเป็นพิเศษทั้งกลางวันและกลางคืน
นายลายทองเหรียญ กล่าวอีกว่า แต่ภายหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีประกาศห้ามครอบครองอาวุธ ตนจึงให้ควาญช้างเพียงขี่รถจยย.ไปตรวจเท่านั้น จึงอยากเรียกร้องไปยังพล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา หัวหน้าคสช. รับผิดชอบและเข้ามาช่วยติดตามหาตัวคนร้ายให้ได้ เพราะคนร้ายกล้าลงมือฆ่าช้างกลางเมือง ไม่ใช่กลางป่า อย่างไม่เกรงกลัว
ทั้งนี้ตนเชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นเสพยาเสพติด ในต.สวนพริก ที่ลักลอบเข้ามากลางดึก แล้วนำอาหารผสมยาสลบล่อให้ช้างกิน ซึ่งยาชนิดที่คนร้ายใช้นี้เป็นยาควบคุม ไม่ใช่สัตวแพทย์จะสั่งซื้อได้ หลังจากช้างล้มแล้วคนร้ายก็ใช้ใบเลื่อยมือตัดงา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
”คนร้ายไม่น่าจะเป็นมืออาชีพ คงเป็นพวกโจรมักง่ายคิดเพียงว่าทำอย่างไรให้ช้างล้มแล้วตัดงาไปขายเพื่อนำเงินไปหาซื้อยามาเสพเท่านั้น เพราะถ้าเป็นคนช้าง ชาวช้างด้วยกัน หรือคนที่อยู่ในวงการช้าง จะไม่ฆ่าช้างเอางาแบบนี้ กลุ่มชาวช้างจะตัดงาจนถึงโคน และจะเอาหางช้างไปด้วย งาช้างคูนี้ หากตัดเอาไปแบบสมบูรณ์จะมีราคาถึงคู่ละ 4 ล้านบาท แต่ส่วนที่คนร้ายตัดไป เป็นเศษงา ขายได้ประมาณ 5-6 หมื่นบาท ส่วนงาช้างที่ตัดไปไม่ถูกกรรมวิธีของชาวช้าง คนที่เอาไป คนที่ครอบครอง จะต้องพบเจอกับความอาถรรพ์ มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับครอบครัว”นายลายทองเหรียญกล่าว
พร้อมระบุว่าขณะนี้ตนได้สั่งอพยพช้างงาที่เหลือทั้งหมดกว่า 10 เชือก เข้ามาพักอาศัยอยู่ในเกาะข้างเพนียดคล้องช้างเป็นการชั่วคราวก่อน เพราะกลัวคนร้ายจะย้อนรอยหวนกับมาวางยาตัดงาช้างซ้ำสองอีก
พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ต้องทำการพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อนว่าช้างเสียชีวิตด้วยวิธีการใด ถูกวางยาหรือถูกลูกดอกอาบยาสลบจนเสียชีวิต โดยจะร่วมกับทางสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบถึงวิธีการฆ่าช้าง ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามหาตัวคนร้าย พร้อมตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางแล้ว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนร้ายน่าจะมีมากกว่า 2 คน และใช้ยาสลบใส่ในผลกล้วยให้ช้างกินจนช้างล้ม สังเกตุที่ลิ้นช้างมีสีช้ำเขียวขุ่น และคนร้ายน่าจะเป็นคนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง โดยจะรวบรวมหลักฐานละพยานติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
“ การกระทำของคนร้ายถือว่าโหดเหี้ยมที่ทำกับช้าง ซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง โดยเฉพาะการลักลอบตัดงาช้าง ขายงาช้าง เป็นเรื่องที่นานาชาติมีการต่อต้านสร้างความเสียหายชื่อเสียงของประเทศไทย คดีนี้ต้องจับกุมคนร้ายให้ได้ เพราะคดีนี้เป็นคดีที่สะเทือนจิตใจคนรักสัตว์และคนเลี้ยงช้าง”พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าว
ต่อมาร.อ.ชาญณรงค์ ดีสุวรรณ ผบ.100 กองบังคับการกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ และพล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ทำการสอบพยานแวดล้อมหลายปาก เมื่อได้หลักฐานจึงสนธิกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของนาย นเรศ วังคะรัง อายุ 32 ปี ใน ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา อดีตควาญช้างที่ติดยาบ้า ที่ถูกไล่ออกไปเมื่อหลายปีก่อน แต่รู้ความเคลื่อนไหวการเลี้ยงช้างงาเป็นอย่างดีและมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายนเรศยังให้การปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนรู้เห็นต่อการวางยาพิษช้าง แต่ตำรวจได้ทำการบันทึกสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการฯ ได้ร่วมกันผ่าพิสูจน์ซากช้าง พลายคล้าว เพื่อนำเศษอาหารในกระเพาะไปพิสูจน์หาสารพิษ ว่าเป็นสารชนิดใด ขณะเดียวกันทางวังช้างอยุธยาแลเพนียด ได้นำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่มาขุดหลุม ภายในพื้นที่ลานโล่งของเพนียดหลวงคล้องช้างอยุธยา เพื่อฝังร่างของพลายคล้าวในช่วงเย็น โดยมีการนิมนต์พระสงฆ์มาประกอบพิธีทางศาสนา สวนมนต์ส่งวิญญาณให้ไปสู่สุขติ ตามความเชื่อของคนเลี้ยง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี