วันศุกร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'ปวีณา'ค้านเปิดเสรี'อุ้มบุญ' ชี้สบช่องละเมิดสิทธิเด็ก

'ปวีณา'ค้านเปิดเสรี'อุ้มบุญ' ชี้สบช่องละเมิดสิทธิเด็ก

วันอังคาร ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557, 16.50 น.
Tag :
  •  

5 ส.ค.57 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวถึงกรณีอุ้มบุญที่ตกเป็นประเด็นทางสังคมในขณะนี้ว่า  ขอคัดค้านการอุ้มบุญ โดยให้แพทย์สภาพิจารณา เนื่องจากการอุ้มบุญในประเทศไทย ไม่ว่ากรณีใดๆ จะเป็นการควบคุมยาก หากพิจารณาให้เฉพาะญาติ เท่านั้นที่จะสามารถอุ้มบุญได้  แต่ในทางปฏิบัติก็จะต้องมีการลักลอบกันอีก โดยผู้หญิงบางคนก็ไม่ทราบกฎหมาย  คิดว่าถูกกฎหมาย จึงรับอุ้มบุญ

นางปวีณา ยังระบุอีกด้วยว่า มีเหตุผลมากมายที่ไม่ควรให้อนุมัติอุ้มบุญในประเทศไทย ดังนี้ การอุ้มบุญ นับเป็นการพาณิชย์ มีการให้กำเนิดเด็กและซื้อขายด้วยเงิน ผู้ที่มีวัตถุประสงค์ ที่จะมาให้อุ้มบุญ มี 2 กรณี คือ หญิงชายที่มีความประสงค์ ที่ไม่สามารถมีลูก  ไม่ว่าจะโดยสภาพใด และรักเด็กอยากมีลูก ข้อพึงห่วงใย มนุษย์ที่เป็นโรคจิต ใจร้าย  มีอยู่จำนวนหนึ่ง ที่ชอบละเมิดทางเพศเด็ก สามารถใช้สเต็มเซลล์ ใครก็ได้โดยการซื้อมา และให้ค่าจ้างอุ้มบุญ เมื่อเด็กคลอดมา ตนรับเป็นพ่อ แม่ ผู้อุปการะ และเมื่อเด็กโตขึ้น ก็สามารถข่มขืน ทารุณกรรมเด็ก หรือขายเด็กไปค้าประเวณีได้ โดยเด็กต้องอยู่ในสภาพทาสในครัวเรือนและ มีอีกจำพวกหนึ่ง ที่พาเด็กมาค้ามนุษย์ 100%


โดยขณะนี้มีพลเมืองดี  มาให้ข้อมูลกับทางมูลนิธิปวีณาฯ ว่า มีการว่าจ้างหญิง เพื่ออุ้มบุญ โดยให้เงิน 350,000 บาท เมื่อท้องแล้ว ทุกเดือนจะได้รับเงิน เดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 7 เดือน แต่ที่น่าสงสัยที่สุดคือ การตรวจร่างกาย  ตรวจครรภ์  แม้แต่การผ่าตัดคลอดมักจะทำที่โรงพยาบาลเอกชน และพลเมืองดีแจ้งว่า แม่ที่อุ้มบุญทุกคน จะต้องผ่าท้องนำเด็กออก เมื่อครบ  7 เดือน เท่านั้น เมื่อแม่พื้นขึ้นมาก็จะไม่ได้เห็นหน้าลูกเลย เป็นที่น่าสังเกต ว่า ทำไมจะต้องผ่าท้อง เมื่อท้องครบเพียง 7 เดือน ทำไมไม่รอถึง 9 เดือน และพลเมืองดีรายนี้ยังบอกอีกว่า  ต้องการดูดไขสันหลังเด็ก เพื่อนำไปทำสเต็มเซลล์ เพื่อนำไปขาย นั้นก็หมายความว่า  เด็ก ก็ต้องเสียชีวิต

และ ในปัจจุบัน เมื่อคนที่ไม่มีลูกแล้ว จะไปขอลูกที่สถานสงเคราะห์ ยังต้องมีนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบประวัติบุคคลที่ จะมาขอรับเด็กไปอุปการะในแต่ละราย และต้องมีกฎระเบียบที่จะต้องมาพบเด็กทุกๆสัปดาห์ ที่สถานสงเคราะห์เป็นเวลา 2 ปี แม้แต่ชาวต่างชาติ ก็ต้องเช็คประวัติ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน พูดคุย และเมื่อรับเด็กไปแล้ว ทางหน่วยงาน ก็จะต้องติดตามความประพฤติของครอบครัวและมีการจัดวันสังสรรค์เด็กปีละ  1 ครั้ง อาจจะเป็นที่สถานทูต หรือสถานที่ๆ เหมาะสม เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้เข้าไปติดตามและเยี่ยมเยียนตลอด เพราะฉะนั้น ในปัจจุบันยังไม่ความพร้อมที่จะให้มีการอุ้มบุญ ตราบใดที่เด็กยังไม่มีการคุ้มครองอย่างถูกต้อง

ในอนาคต หากจะมีการอุ้มบุญจริงๆ จะต้อง ได้รับอนุมัติจากหน่วยราชการ อาจเป็นการะทรวงพัฒนาสังคมฯ หรืออาจจะใช้โรงพยาบาลรัฐ ได้ใน 2-3 แห่ง ก่อนที่จะมีการอุ้มบุญ ต้องมาแสดงวัตถุประสงค์ มีชื่อ ประวัติ ผู้ที่ประสงค์ มีการตรวจ  DNA  อย่างถูกต้อง ว่าเป็นพ่อ แม่ จริง ที่ต้องการจะให้อุ้มบุญ และสอบประวัติ อย่างละเอียด ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะปัจจุบัน ปัญหาสังคม เด็กถูกละเมิดสิทธิมากมาย และบางราย พ่อแท้ๆ ก็ยังข่มขืนลูกได้เลย นับประสาอะไรกับเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญ หากเราไม่ปกป้องคุ้มครอง ก่อนที่กำเนิด ปัญหาจะเกิดซ้ำตามมาโดยแก้ไขได้ยาก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เรียลไทม์! รายงานเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 9 จุดสำคัญ เรียลไทม์! รายงานเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 9 จุดสำคัญ
  • ปะทะวันที่2! ‘เขมร’เปิดฉากยิงปืนใหญ่-BM-21 จ้องยึดเนิน 469 ไทยตอบโต้เดือด ปะทะวันที่2! ‘เขมร’เปิดฉากยิงปืนใหญ่-BM-21 จ้องยึดเนิน 469 ไทยตอบโต้เดือด
  • ปะทะหลายจุด!‘กองทัพภาคที่2’เตือนปชช.เลี่ยงเข้าใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะหลายจุด!‘กองทัพภาคที่2’เตือนปชช.เลี่ยงเข้าใกล้แนวชายแดนไทย-กัมพูชา
  • ‘ชายแดนไทย-กัมพูชา’ปะทะเดือดแต่เช้า โดยเฉพาะ‘ช่องบก-ภูมะเขือ’ ทัพไทยละลายฐานรถถังข้าศึก ‘ชายแดนไทย-กัมพูชา’ปะทะเดือดแต่เช้า โดยเฉพาะ‘ช่องบก-ภูมะเขือ’ ทัพไทยละลายฐานรถถังข้าศึก
  • ‘สู้จนกว่าจะชนะ’ 4 เหล่าทัพ-ตำรวจ ผนึกกำลังตอบโต้การรุกรานของเขมร ‘สู้จนกว่าจะชนะ’ 4 เหล่าทัพ-ตำรวจ ผนึกกำลังตอบโต้การรุกรานของเขมร
  • ผบ.ตร.สั่งแผนเผชิญเหตุขั้นสูงสุด ควบคุมสถานการณ์ – เร่งช่วยเหลือประชาชน ผบ.ตร.สั่งแผนเผชิญเหตุขั้นสูงสุด ควบคุมสถานการณ์ – เร่งช่วยเหลือประชาชน
  •  

Breaking News

เรียลไทม์! รายงานเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 9 จุดสำคัญ

ชาวบุรีรัมย์ผวา!! เร่งอพยพ หลัง'เขมร'ระดมยิงกระสุนปืนใหญ่ตกใส่แล้วกว่า 50 ลูก

ประณามไทย! วุฒิสภากัมพูชาออกแถลงการณ์ 6 ข้อ วอนนานาชาติช่วย

‘จักรภพ’ย้ำไทยยังไม่สูญเสียดินแดน แจงปมวิวาทะ‘น็อต วรฤทธิ์’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved