ปัญหานักเรียนช่างสายอาชีพต่างสถาบันตีกันนั้นเป็นปัญหาที่มีมาแต่นมนาน นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในสังคม ถึงขั้นบาดเจ็บ ล้มตาย หรือไม่ก็พิการ ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือเป็นเหยื่อของวัยรุ่นนักเรียนนักเลง บางคนไม่รู้เรื่อง หรือเป็นคู่กรณี แต่เพียงแค่ใส่เสื้อ หรือใส่สัญลักษณ์ ของต่างสถาบันเดินข้างถนนหรือขึ้นรถโดยสาร ก็จะถูกรุมทำร้าย ห้ำหั่น ด้วยของมีคมหรือไม่ก็อาวุธเท่าที่หามาได้ ซึ่งหลายฝ่ายต่างหาทางแก้ไขปัญหา แต่ก็ยังแก้ไม่ได้ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็มีปัญหาเช่นเดียวกับอีกหลายๆที่ ที่มีนักเรียนต่างสถาบันตีกันอยู่บ่อยครั้ง จนล่าสุดนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคไล่ฟันวิทยาลัยอุตสาหกรรมต่อเรือ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บไม่เคยมีเหตุทะเลาะวิวาทกับกลุ่มที่รุมทำร้ายเลย เพียงแต่สวมเสื้อต่างสถาบัน

ดังนั้น ทางตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา โดย พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดโครงการ “เรียนช่างคนละที่ แต่เลือดสีเดียวกัน” เพื่อนำเอานักเรียน ขาโจ๋ของแต่ละสถาบันในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้ง 4 สถาบัน เข้าค่ายละลายพฤติกรรมร่วมกับตำรวจ ทหาร และนักจิตวิทยา ร่วมทำกิจกรรม จิตสาธารณะ เช่น นำวิชาช่างมาร่วมกัน จัดซ่อมแซมบ้านให้เพื่อนนักศึกษาที่ชำรุดหรือยากจน ซ่อมแซมโรงเรียนต่างอำเภอ และออกค่ายอาสา ที่จังหวัดนครนายก เป็นเวลา 3 วัน ในรุ่นแรก และได้ผล จึงสานต่อโครงการอีกเป็นรุ่นที่ 2

โดยจัดกิจกรรมกีฬาอาชีวะสามัคคี 4 สถาบัน ซึ่งประกอบด้วย วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือ วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยเทคโนโลยีอยุธยา วิทยาลัยเทคนิคพาณิชยการพระนครศรีอยุธยา โดยจะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 29 ก.ย. 2557 ณ สนามกีฬากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แบ่งเป็น 4 สี น้ำเงิน ขาว แดง เหลือง ส่วนกีฬาแบ่งเป็น 4 ประเภท มี ฟุตบอล ตะกร้อ วอลเลย์บอล และกีฬาพื้นบ้าน ส่วนงบประมาณกองทุนกีฬาจังหวัด ได้รับการสนับสนุนหลักจาก ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และผอ.การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีนักเรียนสถาบันละ 100 คน 4 สถาบัน ครู คณะกรรมการ ตำรวจ และคณะกรรมการจัดงาน 100 คน รวมเป็น 540 คน

อย่างไรก็ตาม การจัดโครงการนี้เพื่อให้นักเรียนต่างสถาบันได้รู้จักรักและสามัคคีกลมเกลียว ได้ทำกิจกรรมร่วมกันคุ้นเคยกันให้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เป็นมาในอดีต

เกียรติยศ ศรีสกุล