ยัน2พม่าฆาตกรตัวจริง

แจงมือถือถูกฉกของผู้ชาย

สื่อนอกรุมตั้งแง่ยัดข้อหา

ความคืบหน้าคดีฆาตกรรม น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอร์ริดจ์ และ นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายน ซึ่งในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนและทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวพม่า 2 ราย คือ นายเวพิว หรือ วิน อายุ 21 ปีสัญชาติพม่า และนายซอ ลิน หรือโซเรน อายุ 21 ปี ไว้ได้แล้วนั้น

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งใช้เป็นสถานที่สรุปสำนวนคดีดังกล่าว โดยมี พล.ต.ต.ประวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เป็นหัวหน้าชุดดูแลงานสอบสวนสำนวนคดี ซึ่งเข้าร่วมประชุมสรุปสำนวนกับทีมสอบสวนตั้งแต่เช้า เพื่อเร่งสรุปสำนวนคดี ส่งพนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย และส่งฟ้องศาลจังหวัดเกาะสมุย ให้ทันในช่วงบ่ายวันเดียวกันหรือวันถัดไป โดยที่ พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้กำชับให้เร่งสรุปสำนวนอย่างรัดกุมที่สุด เพราะคดีนี้เป็นที่จับตามองของสื่อต่างประเทศ รวมทั้งสังคมยังคงมีข้อสงสัยในการจับกุมผู้ต้องหา ว่าอาจจะไม่ใช่คนร้ายตัวจริง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันผลตรวจดีเอ็นเอ ของ 2 ผู้ต้องหาชาวพม่าว่า ตรงกับเชื้ออสุจิในช่องคลอดของนักท่องเที่ยวหญิงที่เสียชีวิต เป็นการยืนยันว่า ไม่มีการจับแพะอย่างแน่นอน แต่ก็ยังมีข้อสงสัยเกิดขึ้นหลายประการและมีการวิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลมีเดียว่า จับผิดตัว หรือเป็นการจับแพะหรือไม่

จากข้อสงสัยดังกล่าว ทำให้ เฟซบุ๊ก Thailand Police Story ได้มีการโพสต์ข้อความในหัวข้อ “ตอบข้อสงสัยคดีฆ่าเกาะเต่า” เพื่อชี้แจงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยดังกล่าว โดยระบุว่า คำถามข้อที่ 1 ถามว่า ตำรวจแถลงว่าโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ถูกทุบทิ้งแล้วโยนไว้หลังบ้านพักชาวพม่า แต่ทำไมถึงมีรูปหลุดมาว่าโทรศัพท์ของ น.ส.ฮานน่าห์ ยังอยู่บนโต๊ะรับแจ้งความนั้น ขอตอบว่า มือถือที่ชาวพม่าขโมยไปแล้วทุบทิ้งเป็นของผู้ตายคือ นายเดวิด ครับ ไม่ใช่ของนางสาวฮานน่าห์

คำถามข้อ 2 ถามว่า ภาพนายเมาเสื้อขาวที่ออกสื่อมีทรงผมหยิก ๆ ฟู ๆ แต่ทำไมในกล้องวงจรปิด พบคนที่มีผมเรียบตรง เหมือนไม่ใช่นายเมา ขอตอบโดยยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันภาพการจับกุมนายเมา(วันที่ใส่เสื้อเหลือง) ก็มีผมเรียบตรงเหมือนกัน (ขึ้นอยู่กับการหวีผมในแต่ละวัน)

คำถามข้อ 3 คือ ภาพศพของนายเดวิดมีรอยแตกปริเหมือนโดนมีด มากกว่าที่จะโดนจอบในการฆ่า ซึ่งทางตำรวจได้ตอบว่า ที่จริงมีภาพศพ น.ส.ฮานน่าห์ระยะใกล้ แต่ไม่อยากลงเพราะใบหน้าศพเละมาก หน้าผากถูกจอบกระทุ้งสับระหว่างนอน แผลจึงแตกเป็นรูกว้าง แต่นายเดวิดถูกเหลี่ยมจอบเหวี่ยงใส่หัวและใบหน้าระหว่างเดิน เหลี่ยมจอบทำให้เป็นรอยแตกปริ

และข้อ 4 ตำรวจขอชี้แจงว่า คนต่างด้าวในเกาะเต่ามีที่ลงทะเบียนถูกต้อง 4,000 คน ยังไม่ลงทะเบียนอีก 3,000 คน ไม่สามารถตรวจให้ครบทุกคนได้ในช่วงแรก แต่เมื่อได้พยานหลักฐานมากขึ้น จึงรู้ตัวอย่างเจาะจงและดีเอ็นเอคนร้ายคือหลักฐานที่ศาลจะเป็นคนตัดสินเอง

ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานการขอขยายเวลาฝากขัง 2 ผู้ต้องหาชาวพม่า ซึ่งถูกแจ้งข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเรา ลักทรัพย์ และฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คน บนเกาะเต่าว่า การจับกุม เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตำรวจไทยถูกกดดัน และถูกวิจารณ์ถึงประสิทธิภาพการทำงาน

นอกจากนี้ รอยเตอร์ส ยังหยิบยกคดีข่มขืนและฆ่า น.ส.คริสตี โจนส์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 23 ปี ในประเทศไทยเมื่อปี 2543 ขึ้นมาอ้างอิง ว่าในครั้งนั้น ตำรวจไทยได้จับกุมไกด์ชาวกะเหรี่ยงมาทำร้าย และพยายามบังคับให้รับสารภาพ พร้อมกันนี้ รอยเตอร์สรุปว่า ทางการไทยมักจะใช้แรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะชาวพม่ามาเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาใหญ่ๆ ที่สะสางไม่ได้