แพทย์เผยป้าสังเวียนทรุด น่าเปนหวง
‘ไข้สง-ติดเชื้อ’ต้องจับตา
ผู้ว่าฯยันเคลียร์แล้ว
จบเรื่องหนี้1.5ล้าน
ตร.ถกล้างแก๊งเงินกู้
เปิดสายด่วน 1599
นพ.พลเลิศ พันธุ์ธนากุล ผู้อำนวยการ รพ.วชิรพยาบาล เปิดเผย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ถึงความคืบหน้าอาการของนางสังเวียน รักษาเพ็ชร อายุ 52 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากการจุดไฟเผาตัวเอง ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา ว่า ล่าสุด มีอาการไข้ขึ้นสูงกว่าวันที่ผ่านมา จาก 38.2 เป็น 39.2 องศาฯ ซึ่งทีมแพทย์ผู้รักษาจะทำการวินิจฉัยอีกครั้ง คาดว่าอาการดังกล่าวน่าจะมาจากการติดเชื้อ จึงได้เจาะเลือดส่งไปเพาะเชื้อที่ห้องปฏิบัติการ คาดว่าจะทราบผลใน 48 ชั่วโมง ก่อนจะประเมินการรักษาอีกครั้ง ขณะที่ผลอารเอ็กซเรย์ปอดมีอาการปกติ
น่าห่วง-ติดตามใกล้ชิด
ทีมแพทย์ยังได้เจาะเลือดส่งตรวจจำนวนเม็ดเลือดขาวในร่างกายที่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ พบว่า มีจำนวนที่น้อยกว่าปกติ จากวานนี้ 24,000 เซลล์ โดยวันนี้มีเพียงประมาณ 4,000 เซลล์ เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดี ทั้งนี้ แพทย์ยังไม่สามารถประเมินการรักษาได้ เนื่องจากคนไข้ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ไม่สามารถพูดตอบสนองได้ จึงจำเป็นต้องรอให้อาการดีขึ้นก่อน เมื่อเปรียบเทียบอาการจากวันที่ผ่านมา พบว่ามีความน่าเป็นห่วงอย่างมาก คณะแพทย์จึงต้องติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิดวันต่อวัน
ผู้ว่าฯลพบุรียันคลียร์หนี้จบแล้ว
เมื่อเวลา 12.00 น. นายธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า ได้เข้าเจรจากับเจ้าหนี้ของนางสังเวียนจนยกหนี้สินทั้งหมดจำนวน 1.5 ล้านบาท และมีการเซ็นบันทึกข้อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย โดยสามีของนางสังเวียนได้ดูเอกสาร และเป็นที่เข้าใจทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ส่วนราชการอาจจะทำงานล่าช้าจนเป็นเหตุให้นางสังเวียนเครียดจนก่อเหตุเผาตัวเอง แต่เรื่องก็น่าจะจบด้วยดีแล้วเพราะทางเจ้าหนี้ก็ได้ทำการยกหนี้ให้แล้ว แต่น้องสาวของป้าสังเวียนกับออกมาพูดว่าเจ้าหนี้จะยกหนี้ให้จริงไหมเพราะยังไม่เห็นเอกสาร รวมถึงให้สัมภาษณ์ต่อว่าตนว่าไม่ใส่ใจที่จะช่วยเหลือช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ตนเองถูกมองไปในทางไม่ดี ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยพบกับนางสังเวียนและน้องสาวมาก่อน
“ผมจำเป็นต้องออกมาเพื่อแก้ไขว่าไม่มีข้าราชการระดับไหนทั้งนั้นที่พูดแบบนี้ เพราะตนเองก็เป็นราชการที่ต้องดูแลประชาชน เมื่อประชาชนเดือดร้อนก็ต้องดูแลจึงอยากฝากไปถึงน้องสาวป้าสังเวียนว่าหากไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนก็อย่าไปกล่าวหาใครโดยเฉพาะข้าราชการเพราะอาจทำให้ข้าราชการเสียกำลังใจในการทำงานได้” ผู้ว่าฯ ลพบุรี กล่าว
วันเดียวกัน นางจันทร์จ๋า ทองอร่าม น้องสาวของนางสังเวียน พร้อมนายธงชัย รักษาเพ็ชร์ สามีนางสังเวียน ได้เดินทางเข้าขอขมา นายธนาคม แล้ว โดยระบุว่า เป็นความเข้าใจผิด
ตร.ถกแผนปราบผู้มีอิทธิพล
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร. พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอร.ตร. เป็นประธานการประชุมศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอร.ตร.) ผ่านระบบทางไกล ร่วมกับกองบัญชาการต่างๆ โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รรท.ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
“วรพงษ์”สั่งทุกหน่วยทำงานเข้ม
โดย พล.ต.อ.วรพงษ์ ได้เน้นย้ำการปฏิบัติเกี่ยวกับการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย ให้เป็นไปตามมาตรการและแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ได้กำหนดไว้โดยเคร่งครัด และกำชับการปฏิบัติเพิ่มเติมได้แก่ 1.ทุกหน่วยต้องให้ความสำคัญกับการกดดัน สืบสวน ปราบปราม จับกุม บุคคล กลุ่มบุคคล หรือนิติบุคคล ที่เป็นนายทุนปล่อยเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (เงินกู้นอกระบบ) รวมทั้งผู้นำเงิน หรือทรัพย์สินไปให้กู้ และผู้ติดตามทวงหนี้โดยมีพฤติการณ์ข่มขู่ ประทุษร้าย ใช้ความรุนแรงอย่างเข้มข้นและจริงจัง
กำหนดมาตรการเชิงรุก
2.สถานีตำรวจทุกแห่งต้องมีฐานข้อมูลผู้มีพฤติการณ์ ตามข้อ 1. รวมทั้งข้อมูลบุคคลตามหมายจับ บุคคลพ้นโทษ หรือผู้ต้องหาในความผิดดังกล่าว โดยสืบสวนหาข่าวจากเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อเงินกู้ในพื้นที่รับผิดชอบ และกำหนดแนวทางมาตรการเชิงรุกในการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
สืบสวนจับกุมขบวนการเงินกู้
3.กองกำกับการสืบสวนสอบสวน บก.น.1-9 และ ภ.จว.ทุกแห่ง สืบสวนจับกุมการปล่อยเงินกู้ที่มีลักษณะเป็นขบวนการมีเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่าง สน./สภ. ใน บก.น./ภ.จว. เดียวกัน และ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น./ภ.1 - ภ.9/ศชต. สืบสวนจับกุมการปล่อยเงินกู้ที่มีลักษณะเป็นขบวนการมีเครือข่ายเชื่อมโยงระหว่าง บก.น./ภ.จว. ใน บช./ภ./ศชต. เดียวกันโดยให้ ศปอร.บช.น./ภ.1 - ภ.9/ศชต. เป็นฝ่ายอำนวยการสนับสนุนข้อมูลและการปฏิบัติของหน่วยในสังกัด
แจ้งสายด่วนเงินกู้นอกระบบ
ทั้งนี้ ศปอร.ตร. จะรับผิดชอบการปฏิบัติในภาพรวม และดำเนินการกับนายทุนเครือข่ายที่กระทำความผิดรายใหญ่ หรือผู้มีอิทธิพลที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังและเกินขีดความสามารถของหน่วยพื้นที่ โดยให้ ผอ.สยศ.ตร. เป็นฝ่ายอำนวยการกลาง และ บก.ป. เป็นศูนย์ข้อมูลและฝ่ายปฏิบัติการหลัก ส่วน ปคบ. และ คด. เป็นฝ่ายกฎหมายและสอบสวน สนับสนุนดำเนินการของ บช.น., ภ.1-ภ.9 และ ศชต. โดยให้ทุกหน่วยประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน
สำหรับประชาชนที่ทราบเบาะแส หรือข้อมูลข่าวสาร หรือได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำผิดในลักษณะการปล่อยเงินกู้นอกระบบโดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งสายด่วน ปคบ. 1135 และ สายด่วน 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี