25 ต.ค.57 นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการระงับข้อพิพาท กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม  กล่าวว่า รัฐบาลต้องการช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรที่เป็นหนี้นอกระบบในรายที่มียอดหนี้รวมไม่เกิน 1แสนบาท โดยมีแนวความคิดเรื่องมาตรการการปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์  โดยมีหน่วยงานหลักที่เป็นกลไกการทำงานร่วมกัน ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ ในส่วนของการทวงหนี้โหด รวมทั้งการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฏหมายกำหนด ถือเป็นความผิดซึ่งหน้าซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองต้องดำเนินการให้เกิดความถูกต้อง แต่ที่ผ่านมาประชาชนไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร ดังนั้น จึงเป็นที่มาทหารโดยกองพันทหารม้าจ.เพชรบรูณ์  ปตอ.ที่ 10 นายอำเภอชนแดน ได้สำรวจข้อมูลลูกหนี้เงินกู้นอกระบบ เพื่อช่วยเหลือไกล่เกลี่ยหนี้หวังช่วยเกษตรกรไม่ให้ถูกยึดที่ดินทำกิน

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ครั้งแรกจัดขึ้นในวันที่ 12 พ.ย.นี้ ที่ต.ดงขุย จ.เพชรบรูณ์ ซึ่งจะได้เชิญเจ้าหนี้ตามที่ได้ทำข้อมูลไว้และลูกหนี้ มาทำการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธกส.)  ตลอดจนเจ้าหน้าที่กรมสรรพกร นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ  ที่จะมาร่วมเป็นพยาน ขณะที่ทางธกส.จะมาดำเนินการรับทำเอกสารเพื่อซื้อโอนหนี้จากลูกหนี้ในวันเดียวกัน ส่วนครั้งที่ 2 จัดขึ้นประมาณปลายพ.ย.นี้ ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ต.บางรักพัฒฯ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

"ทางธนาคารจะจ่ายเงินให้เจ้าหนี้โดยตรง ขณะที่ลูกหนี้ต้องทำปฏิญาว่าจะไม่เป็นหนี้เพิ่ม ส่วนและเจ้าหนี้จะไม่ปล่อยเงินให้กู้เพิ่มอีก หากรายใดผิดคำปฏิญาก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือ" นายเกิดโชคกล่าว

นอกจากนี้ มีข้อมูลจาก จ.ศรีสะเกษ ส่งเรื่องมายังกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอรับความช่วยเหลือเรื่องเป็นหนี้ทำให้ถูกยึดที่ดินทำกินจำนวน 600 ราย ซึ่งศาลตัดสินและมีผลบังคับคดีแล้ว ซึ่งทางกระทรวงการคลังได้ตั้งเป้าให้เป็นจังหวัดนำร่องที่กระทรวงยุติธรรม ให้ความช่วยเหลือต่อไป รวมทั้งยังมีชาวบ้านที่เป็นหนี้นอกระบบอีกประมาณพันราย ที่ต้องใช้มาตรการนาโนไฟแนนซ์ เข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางภาครัฐโดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สำนักงานที่ดิน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ธนาคารแห่งประเทศไทย จะนำกฏหมายมาบังคับใช้กับเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบโหด ทั้งในด้านการเรียกเก็บภาษี การยึดทรัพย์สิน เพื่อออกขายตลาดตามกฎหมายต่าง ๆ อาทิ  พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 มาตรา 121ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท รวมทั้งความผิดตามประมวลรัษฎากร ซึ่งการพิจารณาโทษจะตัดสินความผิดแต่ละกระทง เช่นมีลูกหนี้กี่รายก็คูณจำนวนเงินปรับและอัตราโทษจำคุก ที่สำคัญ เรื่องการตรวจสอบเสียภาษีย้อนหลังซึ่งบางรายจ่ายต้องจ่ายหลักสิบล้านบาท