8 ธ.ค.57 ราษฎรชาวบ้านแม่เย็นหมู่ 1 ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย กลุ่มนักธุรกิจที่พักโรงแรมและร้านอาหาร ร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม , ผบ.ฉก.ร.7 , ผบ.ร.7 พัน.5 ,นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ฮี้, กำนันตำบลแม่ฮี้ และผู้ใหญ่บ้าน บ้านแม่เย็นหมู่ 1 ตำบลแม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ขอความช่วยเหลือ หลังจากได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากผับอิทธิพลที่มีตำรวจหนุนหลัง เปิดเพลงเสียงดัง เปิดเกินเวลา และมีการจำหน่ายสารเสพติด ส่งผลให้ภาพลักษณ์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกพังเสียหาย
นางจุไรรัตน์ จันทร์พรมมินทร์ ผู้ใหญ่บ้านแม่เย็น หมู่ 1 ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตนได้รับหนังสือร้องเรียนส่งทางไปรษณีย์ จาก นายวิรัช พรมเขียว ราษฎรหมู่ 2 ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เรื่องร้านซันเซ็ทบาร์ เปิดบริการเกินเวลาและเปิดเครื่องเสียงดังในยามวิกาล โดยในหนังสือร้องเรียนดังกล่าว ระบุโดยรวม ความว่า ผับดังกล่าว เปิดเพลงผ่านเครื่องขยายเสียงในยามวิกาล ส่งผลให้ประชาชน ที่นักท่องเที่ยนวที่พักผ่อนในรัศมี 1 กิโลเมตร ได้รับความเดือดร้อน โดยผับดังกล่าว ได้เปิดบริการตั้งแต่เวลา 18.00 น. ไปจนถึงเวลา 07.00 น. ในวันรุ่งขึ้น และก่อนให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา อาทิ อุบัติเหตุ ตอ่นักท่องเที่ยวด้วยกัน รวมทั้งชาวบ้าน คนท้องถิ่น ซึ่งชาวบ้านได้เคยร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด
นางสุกัญญา ไชยประเสริฐ เจ้าของกิจการที่พักบ้านอิงนา และนายณัฐกิต มาลัยไชยสงค์ เจ้าของกิจการที่พัก สไปซี่ปาย แบคแพคเกอร์ ( Spicypai Backpackers ) ระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า ได้รับผลกระทบจากผับดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเปิดบริการเกินเวลา ไปจนถึงรุ่งเช้า และ เสียงที่ดังเกินกำหนด ส่งผลให้แขกที่เข้ามาพัก ต่างยกเลิกการเข้าพักก่อนกำหนด และหนีไปพักที่สถานที่แห่งอื่นๆ ทำให้ตนและครอบครัวขาดรายได้และได้รับผลกระทบจากเสียงดังทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ
แหล่งข่าวในพื้นที่บ้านแม่เย็น ต.แม่ฮี้ อ.ปาย ที่ได้รับผลกระทบจากผับดังกล่าว ระบุว่า มีราษฎรในหมู่บ้านแม่เย็นกว่า 1,000 ราย และรีสอร์ท ที่พัก รวมไปถึงร้านอาหาร ได้รับผลกระทบจากผับดังกล่าว อย่างหนัก โดยเมื่อประมาณต้นปี ผับดังกล่าว ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย เข้าทำการจับกุมและส่งเรื่องฟ้องศาล จนศาลสั่งปรับเป็นเงินกว่า 5 หมื่นบาท และได้หยุดกิจการลง ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผับดังกล่าว คือ ซันเซ็ทบาร์ ก็ได้หวนกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกครั้ง และส่งเสียงดังมากกว่าเดิม ซึ่งเมื่อราษฎรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไป พอตำรวจมาก็เงียบเบาเสียงลง แต่พอตำรวจเดินทางกลับไปก็เปิดเสียงดังอีกตามเดิม ไม่พอเวลาร้านอาหารในตัวเมืองปายปิดแล้วหลังตี 1 มีการใช้รถหลวงของหน่วยงานหนึ่ง ไปรับนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ผับดังกล่าวอีกด้วย โดยเจ้าของผับดังกล่าว มีด้วยกัน 3 คน คือ เป็นตำรวจท่องเที่ยว 2 คน และอีกคนเป็นตำรวจ สภ.อ.ปาย ซึ่งเคยอ้างว่า มีนายเส้นใหญ่ในภาค 5 ให้การดูแล และตำรวจในท้องที่ไม่สามารถทำอะไรตนได้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้น สวป.สภ.ปาย ได้นำกำลังไปจับกุมและส่งคดีจนถึงศาล แต่ก็ถูก "นาย" กดดันจนต้องถอย และไม่กล้าเข้าไปดำเนินการกับผับดังกล่าวอีกต่อไป ล่าสุด จนถึงทุกวันนี้ ผับดังกล่าว ยังคงเปิดเสียงดัง และเปิดเกินเวลาโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น
กลุ่มกิจการที่พัก เกสเฮ้าท์ และร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากผับ "ซันเซ็ทบาร์" ได้แก่ 1.สไปซี่ปาย แบคแพกเกอร์ รองรับผู้เข้าพัก 50 ราย, 2.ปายภูฟ้า ห้องพัก 20 ห้อง, 3.รีสอร์ทคุณนายตื่นสาย ห้องพัก 7 ห้อง, 4.เรนโบว์เฮ้าท์ จำนวนห้องพัก 20 ห้อง, 5.บ้านระเบียงปาย จำนวนห้องพัก 25 ห้อง, 6.ดิเอียปาย จำนวนห้องพัก 30 ห้อง, 7.ปายดูซี รองรับผู้เข้าพัก 25 ราย, 8. ร้านอาหารฟู๊ดแฟกตอรี่, 9.ปายไฮแลนด์ จำนวนห้องพัก 15 ห้อง, 10.บัวตองเฮ้าท์ จำนวนห้องพัก 7 ห้อง, 11.บ้านตะวัน จำนวนห้องพัก 20 ห้อง, 12.สวัสดีปาย จำนวนห้องพัก 15 ห้อง, 13.โกลเด้นท์เฮ้าท์ จำนวนห้องพัก 10 ห้อง, 14.ปายจันทร์ คอตเทจ จำนวนห้องพัก 10 ห้อง และ 15.เดอะซัน ฮัท จำนวนห้องพัก 12 ห้อง ซึ่งที่พักและร้านอาหารที่กล่าวมาข้างต้น นักท่องเที่ยวที่เข้าพัก 100 เปอร์เซ็นต์ได้รับผลกระทบจากผับดังกล่าว และในจำนวนผู้เข้าพักทั้งหมด มีถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เช็คเอ้าท์ออกไปทั้งที่ได้จองที่พักไว้อย่างต่ำ 3 วัน
อนึ่ง ผับดังกล่าว เดิมมี นางชนากานต์ ฮาร์เทิล อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/1 ถนนเชียงใหม่ – ฝาง หมู่ที่ 5 บ้านทรายมูล ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้แต่งงานกับชาวต่างชาติ ได้ทำเรื่องขอเช่าที่ดินเพื่อสร้างบังกะโลที่พักรองรับนักท่องเที่ยว โดยมีการทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 10 ปี เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2565 ซึ่งเริ่มทำสัญญาเช่าเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 กับนางยอดเฮือน ภีระตุ้ย ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ต่อมา พบผู้เช่าได้ให้คนอื่นเช่าช่วงต่อและมีการเปิดผับชื่อ ซันเซ็ทบาร์ และมีการเปิดให้บริการเกินเวลาของทางราชการและมีผลกระทบต่อราษฎรทางเสียง โดยกระทบถึงผู้ให้เช่าเอง อีกด้วย ทำให้นางยอดเฮือน ภีระตุ้ย ได้ทำหนังสือบอกเลิกสัญญา ไปถึงผู้เช่า คือ นางสาวชนากานต์ ฮาร์เทิล เพื่อขอยกเลิกสัญญา เนื่องจากในสัญญาเช่าดังกล่าว ได้ระบุไว้ว่า จะเช่าเพื่อสร้างบังกะโล , จะไม่ดำเนินการขุดคู คลองหรือบึงในพื้นที่ และ จะไม่ให้ผู้อื่นเช่าช่วงต่อ แต่ปรากฏว่าผู้เช่า ได้ทำผิดเงื่อนไขในสัญญา คือผู้เช่าได้ให้ผู้อื่นเช่าช่วงทำกิจการต่อ หรือร่วมหุ้นทำธุรกิจเปิดผับ บาร์ ร้านอาหาร ตัดต้นไม้และสร้างห้องน้ำเกินบริเวณขอบเขตที่ให้เช่า โดยไม่ได้ได้แจ้งให้แก่เจ้าของที่ดินให้ทราบและไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ จึงได้ทำหนังสือขอยกเลิกสัญญากับ นส.ชนากานต์ ผู้เช่า โดยได้มีการส่งหนังสือไปถึง นส.ชนากานต์ ฮาร์เทิล จำนวน 2 ฉบับคือ ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2557 และ ฉบับที่ 2 เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 แต่ปรากฏว่า ผู้เช่ากลับไม่มีการดำเนินการใดๆ หรือติดต่อกลับมาหาผู้ให้เช่า ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินแต่อย่างใด ซึ่งทางเจ้าของที่ดินกำลังอยู่ระหว่างการปรึกษากับทนายเพื่อฟ้องผู้เช่าอยู่ในขณะนี้
สำหรับอำเภอปาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทาง เข้ามาท่องเที่ยวในแต่ละปีหลายแสนคน และ เป็นเมืองที่มีการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจาก เกาะสมุย ที่มีการแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นอันดับ 1 เมืองแห่งการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวต้องการความสงบ เรียบง่าย เหมือนกับวิถีชีวิตชาวเมืองปาย แต่จากการท่องเที่ยวที่คึกคัก ก็ทำให้มีกลุ่มทุน จากนอกพื้นที่ และคนมีสี เข้าไปลงทุนทำธุรกิจสีเทา เป็นจำนวนมากเช่นกัน ในพื้นที่อำเภอปาย โดยเฉพาะบริเวณแหล่งพักของนักท่องเที่ยว ได้แก่บ้านแม่เย็น หมู่ 1 ต.แม่ฮี้ กับ บ้านป่าขาม หมู่ 1 ต.เวียงใต้ มีผับและสถานบริการ ไม่ต่ำกว่า 5 แห่ง ที่มีการนำเห็ดขี้ควาย และยาเสพติดชนิดอื่นๆ มาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ส่งผลกระทบต่อประชาชนและการท่องเที่ยวในภาพรวม ภาพที่ชาวบ้านที่เคยอยู่อย่างสงบ พบเห็นก็คือ ภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เมาอย่างขาดสติ ส่งเสียงโวยวาย และก่อเหตุทะเลาะกันทุกวัน, ภาพนักท่องเที่ยวขับรถจักรยานยนต์ชนกับชาวเมืองปาย ได้รับบาดเจ็บและตายไปก็หลายราย, ภาพกลุ่มนายทุนที่อาศัยอำนาจเงิน และอิทธิพลของนักการเมือง ปิดปากข้าราชการและรุกที่สาธารณประโยชน์, ภาพนักการเมืองที่เข้าไปลงทุนทำธุรกิจ โดยอาศัยอำนาจอิทธิพลรุกล้ำที่สาธารณะ, ภาพกลุ่มธุรกิจนอกกฎหมายค้ายาเสพติดที่มีอิทธิพล ตั้งร้านหน้าวัดและจำหน่ายยาเสพติดในวัดแถบโซนป่าขาม และ ภาพอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งภาพเหล่านั้น หากข้าราชการในพื้นที่ ปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่และข้อกฎหมายแล้ว รวมไปถึงนึกแต่คำที่ว่าบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่ราษฎร ปัญหาเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ คงจะไม่เกิดอย่างแน่นอน
ล่าสุดหน่วยทหารได้ส่งกำลังลงตรวจสอบพื้นที่บ้านแม่เย็นเรื่องการร้องเรียนดังกล่าวแล้ว แต่ทางด้านอำเภอและตำรวจภูธรปาย ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และผับดังกล่าวยังคงเปิดบริการเกินเวลาจนถึงรุ่งเช้าและส่งเสียงดังตลอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี