19 ก.พ.58 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเปิดเผยพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เกี่ยวกับการต้องอาบัติปาราชิกของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า พระลิขิตทั้ง 6 ฉบับของสมเด็จพระสังฆราช เคยถูกนำไปพิจารณาในมหาเถรสมาคมมาแล้วตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งในลิขิตฉบับที่ 3 มีกล่าวถึงเรื่องปาราชิก โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) มหาเถรสมาคมจะมีการประชุม ที่คาดว่าจะมีการพิจารณาในเรื่องพระลิขิต และเรื่องของวัดพระธรรมกาย และตัวพระธัมมชโยด้วย จึงต้องดูผลการประชุมว่าจะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ เรื่องนี้แบ่งเป็นสองเรื่องคือเรื่องที่ดิน ที่มีการฟ้องร้อง และเรื่องที่ว่าความผิดส่วนนี้ต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ ซึ่งขณะนั้นทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เคยพิจารณาเรื่องที่ดินที่มีการฟ้องร้องแล้ว โดยมีมติว่าขณะนั้นกำลังเป็นคดีความอยู่ จึงขอให้คดีสิ้นสุดก่อน ซึ่งต่อมาได้มีการถอนฟ้องไปในปี 2549

"การปาราชิกเป็นโทษประหารชีวิตสำหรับพระสงฆ์ ใครต้องโทษปาราชิกแล้วไม่สามารถกับมาบวชได้อีก และไม่ใช่ที่ทางฆราวาสหรือใครจะไปชี้ เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่จะต้องชี้ความผิดต่างๆ ทางฝ่ายอาณาจักร (รัฐบาล) ก็มีหน้าที่อำนวยความสะดวก มีหน้าที่ในการส่งเสริมและปกป้องพุทธศาสนา อะไรที่จะทำให้พุทธศาสนาเสียหายเราต้องป้องกันและแก้ไข และส่งเสริมให้ได้รับความศรัทธาและเชื่อถือ" นายสุวพันธุ์ กล่าว

ส่วนกรณีที่พระธัมมชโย รับเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ถือเป็นปาราชิกหรือไม่ นายสุวพันธ์ ระบุว่า ตนพูดเต็มที่ไม่ได้ เพราะไม่เห็นเรื่องราวทั้งหมด แต่คิดว่าเจ้าของคดีกำลังดำเนินการอยู่ ก็ต้องไปดูตรงนั้นว่าในทางสงฆ์จะผิดอะไรหรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่ส่งเสริมและปกป้องพุทธศาสนาให้ดีที่สุด ทุกอย่างต้องมีข้อยุติ ซึ่งก็เชื่อด้วยว่าพระผู้ใหญ่หล่ายท่านก็ไม่ต้องการให้พุทธศาสนาเสื่อมเสีย