ตร.แย้มได้หลักฐานเด็ด
อีก3วันจับ!
วาดะห์ปัดเอี่ยวบึ้มสมุย
ซัดจัดฉากชิงผลประโยชน์
“ไก่อู”ย้ำชัดระเบิดการเมือง
ชี้โยงถึงใครเรียกสอบหมด
ทหารยัน1ในทีมรปภ.รู้เห็น
เมื่อวันที่ 16 เมษายน นายซูการ์โน มะทา อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และแกนนำ ส.ส.กลุ่มวาะห์ น้องชาย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ได้ออกมาเปิดใจถึงกรณีลอบวางระเบิดที่ห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจย้ำว่ามีหลักฐานชี้ไปถึงกลุ่มนักการเมืองในภาคใต้ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มอำนาจเก่า อาจเป็นผู้สั่งการวางระเบิดครั้งนี้
โดย นายซูการ์โน กล่าวว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรงพื้นที่ภาคใต้ พวกตนมักถูกใส่ร้ายป้ายสีมาโดยตลอด แต่ก็อาศัยข้อเท็จจริง จนสามารถผ่านกระบวนการยุติธรรม และชนะคดีทุกครั้ง ตนรู้ดีว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนในพื้นที่ต่างไม่สบายใจ เพราะเกิดความเดือดร้อนจากผลกระทบของเหตุการณ์ร้ายโดยตลอด
ไม่เชื่อบึ้มสมุยฝีมือโจรใต้
สำหรับเหตุระเบิดที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย นายซูการ์โน ตั้งข้อสังเกตุว่า หากเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ เขาจะได้อะไรกับเหตุการณ์ดังกล่าว เขาต้องการแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัด แล้วทำไมต้องไปก่อเหตุนอกพื้นที่อย่างเกาะสมุย ซึ่งการเดินทางมีความยากลำบาก ระยะทางกว่า 500 กม. มีการตรวจตรา มีด่านต่างๆ กว่า 100 ด่าน ทำไมเขาต้องเสี่ยง แทนที่จะเลือกก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัด ซึ่งจะมีผลต่อสถานการณ์มากกว่า
ซัดจัดฉากแย่งผลประโยชน์
นายซูการ์โนยังตั้งข้อยังสงสัยว่า รัฐบาลปัจจุบัน ได้ไปทำอะไรในพื้นที่ จ.สุราษร์ธานี กระบี่ พังงา หรือภูเก็ต อันทำให้เกิดผลกระทบกับผู้มีผลประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวบ้าง อันนี้รัฐก็ต้องมาดูว่า กลุ่มคนที่มีผลประโยชน์จะมีความรู้สึกกับรัฐบาลนี้มากน้อยเพียงใด น่าจะมีความเป็นไปได้มั้ยว่า กลุ่มเหล่านี้จะทำเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลหรือไม่อย่างไร ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นการก่อเหตุร้ายจากกลุ่มในพื้นที่ หรือการจัดฉากสร้างสถานการณ์เพื่อรักษาผลประโยชน์ในพื้นที่หรือไม่
โอ่ยึดถือความดี-ไม่ทิ้งปชช.
“ผมเป็นนักการเมืองมา 40 กว่าปี ติดตามพี่ชายมาโดยตลอด เป็น ส.ส. 1 สมัย เป็นผู้ทำงานทางการเมือง ทั้งเป็นรองเลขาธิการรองนายกฯ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นเลนานุการประธานรัฐสภา จึงไม่ท้อกับการถูกใส่ร้าย เพราะตนเองอาศัยความดีที่ได้ทำมา เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ และที่สำคัญตนจะทิ้งประชาชนในพื้นที่ไม่ได้ จึงคิดว่าต้องทำงานการเมืองกันต่อไป ให้สมกับที่เป็นนักการเมืองอาชีพ” นายซูการ์โน กล่าว
อดีตสส.ชี้ความมั่นคงล้มเหลว
ด้าน นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ อดีต ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความบกพร่องของฝ่ายความมั่นคงมากกว่า ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ต้องปรับย้ายบุคลากรด้านความมั่นคงชุดปัจจุบันออกไป เพราะขณะนี้รัฐบาลใช้อำนาจพิเศษในการบริหารประเทศ แต่ไม่สามารถทำให้เกิดความเป็นเอกภาพในการทำงาน ต่างคนต่างทำ ตำรวจไปอีกทางหนึ่ง ทหารไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นความล้มเหลวที่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ไก่อูย้ำคาร์บอมบ์โยงการเมือง
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีเดียวกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับรายงานตลอดเวลา และเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ที่ได้ชี้แจงอย่างมีเหตุผล ทำให้สังคมรับทราบข้อมูลอย่างต่อเนื่องว่า การที่พิจารณาโยงไปถึงกลุ่มการเมืองไม่ได้เป็นการกล่าวหาลอยๆ แต่มีหลักฐานหลายประการเชื่อมโยงถึง และจากพยานหลักฐานมีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงทำให้สังคมสบายใจว่าเป็นเรื่องของการสร้างสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียประโยชน์ทางการเมือง
หลักฐานถึงใครเรียกสอบหมด
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่ รอง ผบ.ตร.ระบุว่า พบนักการเมืองเข้าไปในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะเกิดเหตุ พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ขอไม่ตอบรายละเอียด แต่ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงเป็นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง กอ.รมน. เป็นผู้บูรณาการ และนายกฯ เองรับทราบเรื่องนี้มาโดยตลอด ส่วนหลักฐานจะเกี่ยวข้องไปถึงใคร หากพาดพิงถึง เจ้าหน้าที่จะต้องเชิญตัวมาสอบปากคำ ขอให้เกิดความสบายใจได้ว่าไม่ได้ละเว้นคนไหน
ผบ.ทบ.มั่นใจไม่กระพือไฟใต้
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการ คสช. ว่า ค่อนข้างมั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ขยายผลต่อความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเหตุผลอื่น แต่เราก็จะไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง ส่วนผลการสอบสวนกำลังติดตามผลความเชื่อมโยงนั้น ทาง พล.ต.อ.สมยศ จะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารก็เข้าไปร่วมดำเนินการด้วย เราพยายามดำเนินการอย่างจริงจัง แต่จะต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งก่อน เพราะการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นนั้น เราจะไม่ทำอะไรให้ผิดพลาด ประกอบกับทุกคนตั้งใจทำงานอยู่แล้ว เพราะอยากให้กรณีนี้คลี่คลายโดยเร็วที่สุด
โต้นักวิชาการอ้างข้อมูลเท็จ
เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองและความมั่นคงตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่ออ้างความชอบธรรมในการใช้มาตรา 44 นั้น พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์ที่ไม่ใช้ความจริงเลย เจ้าหน้าที่รัฐจะไปทำเช่นนั้นทำไม ทำไปก็เป็นการทำลายความหน้าเชื่อถือเปล่าๆ เพราะฉะนั้นการวิเคราะห์ในเชิงนี้ จึงไม่ถูกต้อง ขออย่าไปฟังเลย เพราะเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นจริง ขอให้มาช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อยจะดีกว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง และไม่ต้องการอ้างความชอบธรรมในการใช้มาตรา 44 เลย เพียงแต่วัตถุประสงค์หลักคือต้องดำเนินการไปตามกรอบโรดแม็ปที่วางไว้เท่านั้น
แนะกลุ่มเห็นต่างเลิกต่อต้าน
“ก็มีบางส่วนที่คิดไปเอง ถ้าความเรียบร้อยเกิดขึ้น บางคนจะเสียประโยชน์ หรืออาจคิดว่ารัฐบาลได้บรรลุผลสำเร็จ ก็จะทำให้บางกลุ่มเสียผลประโยชน์นั้น คิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะความสำเร็จของรัฐบาลก็คือความสำเร็จของชาติ ไม่ว่าจะกลุ่มใดก็ตามทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถ้ารัฐบาลทำได้สำเร็จผลจริง ทุกคนก็ถือว่าจะสำเร็จผลไปด้วยกัน ส่วนบุคคลที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน คิดว่าควรจะคิดให้ดี อย่าไปคิดต่างเลย แล้วหันมาร่วมมือกันจะดีกว่า” พล.อ.อุดมเดช กล่าว
ระบุชัด1ในรปภ.ร่วมเอี่ยว
ด้าน พล.ต.เกื้อกูล อินทรนาจักร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ควบคุมตัว หัวหน้าพนักงานรักษาความปลอดภัย(รปภ.) ของทางห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล พร้อมพวกรวม 5 คน มาเก็บตัวอยู่ที่ค่ายวิภาวดีรังสิต ตาม ม.44 มีอำนาจควบคุมตัวได้ 7 วัน ซึ่งทั้งหมดให้ความร่วมมือต่อการตอบข้อซักถามเป็นไปอย่างดี และเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำทั้งหมดพบว่า 1 ใน 3 รปภ.ที่ถูกคุมตัวในช่วงแรกมีส่วนพัวพันต่อเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้น และหลังจากครบ 7 วัน ทางทหารจะส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนต่อไป
ส่งหลักฐานไปพิสูจน์15วันรู้ผล
สำหรับประเด็นการก่อเหตุยังอยู่ใน 3 เรื่องที่ทาง ผบ.ตร ตั้งไว้ ยังไม่ทิ้งน้ำหนักไปทางใดทางหนึ่ง ส่วนการโยงการเมืองหรือไม่มุ่งไปที่หลักฐาน รอผลยืนยันแน่นอน ข้อมูลปัจจุบันยังไม่สามารถเชื่อมต่อได้ เหตุการณ์ที่เกาะสมุย และโคออปยังไม่สามารถเชื่อมโยงกันได้ต้องรอการยืนยันจากพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง ได้นำพยานหลักฐานที่สำคัญหลายชนิด จำนวน 1 กล่องใหญ่ เตรียมนำขึ้นเครื่องบินไปตรวจพิสูจน์หาคราบน้ำมัน และสิ่งแปลกปลอม เพื่อสรุปหาสาเหตุการเกิดระเบิดอย่างแท้จริง ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลในเวลา 15 วัน
ผู้ว่าฯเผยคดีคืบ-ใกล้รู้ตัวมือบึ้ม
นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กล่าวถึงการดูแลและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เกาะสมุย ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทางจังหวัดก็ได้บูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เฝ้าดูแลสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสมุยให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ในส่วนของการทำงานด้านคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานคืบหน้าไปมากแล้ว คาดว่าประมาณ 2-3 สัปดาห์ น่าที่จะรู้ว่าการก่อเหตุมาจากกลุ่มใดแน่ สำหรับการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต้องสงสัยต่างๆในพื้นที่นั้น เจ้าหน้าที่ยังคงทำอยู่อย่างต่อเนื่อง
ตร.เร่งประชุมคลี่คลายคดี
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการคลี่คลายคดีเหตุคาร์บอม สภ.บ่อผุด เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีคาร์บอมลานจอดศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดยเฉพาะการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อติดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี รวมทั้งติดตามรถกระบะมิตซูบิชิไทรตันสีขาวอีกคันที่สงสัยว่าเป็นรถนำรถคาร์บอมบ์คันก่อเหตุ
ให้สตช.เป็นผู้แถลงข่าว
เช่นเดียวกับที่ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ เป็นประธานการประชุมร่วมตำรวจสืบสวนภาค 8 ตำรวจกองปราบปราม และทหารกองทัพภาคที่ 4 เพื่อเร่งรัดความคืบหน้าของคดี จากนั้น ได้ให้สัมภาษณ์ว่า รถคันที่ก่อเหตุคาร์บอมบ์ จะมาประกอบระเบิดที่ จ.นครศรีธรรมราช หรือไม่นั้นยังตอบไม่ได้ ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบโรงแรมม่านรูดใน ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช แล้ว ส่วนปัญหาที่มีการขัดแย้งทางกลุ่มทางการเมือง ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นนักการเมืองกลุ่มไหน อยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนการแถลงข่าวความคืบหน้าของคดีนี้จะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เป็นผู้แถลงข่าวเท่านั้น
คาด3วันจับมือบึ้ม-จอมบงการ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวในชุดคลี่คลายคดีของตำรวจเปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพนักงานขับรถของ อบต.ละแอ เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก และสามารถเชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคน นอกจากนี้ ได้ค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญจำนวนมาก แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยหลักฐานดังกล่าวอาจจะนำไปสู่การคลี่คลายคดีได้ คาดว่าภายใน 3 วันนี้น่าจะมีข่าวดี และน่าจะมีการออกหมายจับ และจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ร่วมขบวนการคาร์บอมบ์นี้ได้อย่างแน่นอน รวมทั้งนักการเมืองเก่าบางคนที่อยู่เบื้องหลังด้วย
วงจรปิดจับเส้นทางละเอียดยิบ
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบชัดเจนแล้วว่ารถคันที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถกระบะมาสด้า 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กข4892 ยะลา ที่ถูกปล้นจาก อ.ยะหา จ.ยะลา มีการเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนและติดแผ่นเคฟล่าสีดำที่กระโปรงรถ โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเส้นทางของรถยนต์คาร์บอมบ์ในวันที่ 9 เมษายน ซึ่งคนร้ายได้ใช้เส้นทางสาย 418 ผ่านสี่แยกพระพุทธ อ.เทพา จ.สงขลาในเวลา 14.45 น สามแยกหอนาฬิกา อ.จะนะเมื่อเวลา 15.11 น. ห้าแยกบ้านน้ำกระจาย อ.เมือง จ.สงขลาเมื่อเวลา 15.46 น. หน้าตลาดสิงหนครเมื่อเวลา 16.01 น. และผ่านสี่แยกม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลาเมื่อเวลา 16.17 น. กระทั่งวันที่ 10 เมษายน พบภาพอีกครั้งที่ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่รถกระบะคาร์บอมบ์กำลังขึ้นเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุย ทั้งนี้ ตลอดเส้นทาง ได้มีรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน 4031 วิ่งนำ แต่ไม่ได้ลงเรือด้วย
“ถาวร”ฟันธงไม่เกี่ยวไฟใต้
ด้าน นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ กปปส. กล่าวว่า มีหลายฝ่ายต่างวิเคราะห์ไปแนวเดียวกันว่าผู้อยู่เบื้องหลังของการว่าจ้างให้คนร้ายวางระเบิดครั้งนี้ คือกลุ่มการเมืองที่เป็นฝ่ายตรงข้าม คสช. เพราะนายใหญ่ และตัวเอง กำลังถูกตรวจสอบ และอาจจะถูกดำเนินคดีมากขึ้น จึงหาวิธีการโต้ตอบเพื่อดึงองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาแก้ไขปัญหาในประเทศไทย รวมถึงแนวทางยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศไทย ทั้งนี้ ตนเสนอว่า การเก็บกู้ภาพของ CCTV ตามเส้นทางที่รถคนร้ายผ่าน จะต้องรีบดำเนินการ ซึ่งจะเป็นกุญแจที่สำคัญในการคลี่คลายคดี และฟันธงว่าเหตุดังกล่าวไม่ใช่การกระทำอันเป็นวัตถุประสงค์ของกลุ่มคนร้าย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะถ้าเป็นกลุ่มดังกล่าวก็น่าจะวางระเบิดในพื้นที่เศรษฐกิจ เช่น หาดใหญ่ หรือ อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งชัดเจนว่าคนร้ายไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดการตายขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี