จับสาวสุดโหด!

ลวงฆ่าน้องชายผบช.ปส.

ผสมยาฆ่าแมลงมีดแทงคอ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 เมษายน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ พ.ต.อ.เทียนชัย วิเศษเกรียงไกร ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมพ.ต.ท.จิระศักดิ์ มหึเมือง รอง ผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันสอบปากคำน.ส.รสรินทร์ ฉันทะกูล อายุ 28ปี กับนายอดิศร ขจรเกียรติสกุล อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่านายรภิณ กลิ่นเกษร อายุ 56 ปี ครูโรงเรียนวัดพนมเศษ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ และเป็นน้องชายแท้ๆของ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส.

ทั้งนี้คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา มีผู้พบรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีขาว ทะเบียน กฉ 2386 นครปฐม ถูกไฟเผาวอดทั้งคัน ที่หมู่ 4 ต.ตาขีด อ.บรรพตพิสัย ทราบว่าเป็นรถยนต์ของนายรภิณแต่ไม่พบตัวเจ้าของรถ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนจนสามารถจับกุมน.ส.รสรินทร์เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นำตัวมาสอบสวนจนยอมรับสารภาพว่า ร่วมกับเพื่อนชายวางแผนฆ่านายรภิณจนเสียชีวิต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดยพล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร ผบช.ปส. พล.ต.ต.เฉลิม สุวรรณรัตน์โอสถ ผบก.สส.ภ.6 พ.ต.อ.ดำรงค์ เพชรพงศ์ ผบก.ประจำ ภ.6 พ.ต.อ.เทียนชัย วิเศษเกรียงไกร ผกก.กก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์ และพ.ต.ท.จิระศักดิ์ มหึเมือง รอง ผกก.กก.สส. ลงพื้นที่ต.ป่าพุทรา อ.ขาณุวรลักษบุรี นำน.ส.รสรินทร์ไปค้นหาศพนายรภิณ และพบศพในสภาพนอนหงายอยู่ในพงหญ้ารกร้างใกล้กองขยะบนเชิงเขากระล่อน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุดนำกำลังไปติดตามจับกุมนายอดิศร ขจรเกียรติสกุล เด็กรับรถของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครสวรรค์ ซึ่งน.ส.รสรินทร์ให้การซัดทอดว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านายรภิณ จากการสอบสวนนายอดิศรรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือฆ่านายรภิณ แล้วนำศพไปทิ้งบริเวณกองขยะบนเชิงเขากระล่อน อ.ขาณุวรลักษณ์ ก่อนนำรถยนต์ไปเผาทิ้งเพื่อทำลายหลักฐานที่หมู่ 4 ต.ตาขีด อ.บรรพตพิสัย

โดยน.ส.รสรินทร์ ให้การว่า วันเกิดเหตุผู้ตายทวงเงินที่ติดหนี้ไว้ 30,000 บาท ตนจึงออกอุบายว่าต้องไปเอาเงินจากบิดาซึ่งบวชเป็นพระอยู่ที่วัดเกาะฝ้าย อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ผู้ตายจึงให้ขับรถเก๋งพาไป กระทั่งถึงวัดจึงนำเครื่องดื่มชาเขียวที่ผสมยาฆ่าแมลงชนิดผงสีฟ้าไม่มีกลิ่นมีรส ที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้มาให้ผู้ตายดื่มจนเกิดอาเจียนอย่างรุนแรงและหมดสติ

น.ส.รสรินทร์ ให้การอีกว่า จากนั้นตนโทรศัพท์ไปตามนายอดิศรให้เดินทางมาจัดการกับนายรภิณ โดยนำผู้ตายไปที่บ่อขยะในพื้นที่ใกล้เคียงก่อนที่นายอดิศรจะใช้มีดแทงที่คอ และฟันตามร่างกายของผู้ตายแบบไม่ยั้งจนเสียชีวิตคาที่ แล้วปลดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทและเงินในกระเป๋าสตางค์อีกจำนวนหนึ่งของผู้ตายหลบหนีไป

ทั้งนี้สาเหตุที่ต้องฆ่านายรภิณ เพราะไม่สามารถหาหนี้มาใช้คืนผู้ตายได้ ประกอบกับอยากได้สร้อยคอทองของผู้ตาย เพราะกำลังร้อนเงินอย่างหนัก ติดหนี้เพื่อนหลายคนจึงวางแผนฆ่าดังกล่าวโดยเรื่องนี้มารดาตนไม่เกี่ยวด้วยหลังเกิดเหตุได้นำสร้อยทองไปขายก่อนจะมารับมารดาไปไหว้พระที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วก็มาถูกจับในที่สุด

ด้านนายอดิศร ให้การอ้างว่า สนิทกับน.ส.รสรินแบบพี่น้องวันเกิดเหตุไม่ทราบมาก่อนว่าจะต้องลงมือฆ่านายรภิณ เนื่องจาก น.ส.รสรินโทรศัพท์มาตามให้มาหาที่วัด เมื่อไปถึงเห็นนายรภินอยู่ในอาการอาเจียนอย่างหนักและค่อยๆหมดแรง จากนั้นน.ส.รสรินสั่งให้ฆ่าอ้างว่าถูกนายรภิณขู่ฆ่า และยังอ้างว่าตำรวจจับไม่ได้เพราะรู้กันแค่นี้ ตนจึงลงมือฆ่าผู้ตาย โดยที่ไม่รู้จักและไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นน้องชายของผบช.ปส.

นายอดิศร ให้การด้วยว่า ส่วนกระเป๋าสตางค์และเอกสารส่วนตัวผู้ตายนั้น ตนนำไปเผาทิ้งที่ในซอยข้างศาลอุทธรณ์ภาค 6 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ สำหรับเงินสดและสร้อยคอทองคำ น.ส.รสรินทร์นำไปขายให้เพื่อนชื่อน.ส.เฟิร์น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ น.ส.รสริน และนายอดิศรข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตตา และไตร่ตรองไว้ก่อน

ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวน.ส.เฟิร์นมาสอบปากคำ โดยน.ส.เฟิร์นให้การว่าน.ส.รสรินทร์โทรมาบอกว่าเดือดร้อนเรื่อเงิน มีสร้อยคอทองคำอยู่ 3 เส้น ว่าจะไปขายที่เยาวราช แต่ไม่มีเวลา ให้ช่วยซื้อไว้ก่อนในราคา 2 หมื่นบาท ตนเองจึงรับซื้อไว้แต่เมื่อนำสร้อยคอทองคำไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งในเยาวราช ปรากฏว่าทางร้านไม่รับซื้อแล้วบอกว่าเป็นสร้อยคอทองคำปลอม

นอกจากนี้ยังมีเจ้าหนี้อีกรายเดินทางมาดูตัว น.ส.รสรินด้วย ซึ่งทราบว่า น.ส.รสรินติดหนี้ถึง 800,000 บาท สำหรับศพของนายรภิณถูกเคลื่อนย้ายจากโรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ส่งไปตรวจพิสูจน์ศพอย่างละเอียดยังโรงพยาบาลที่ จ.พิษณุโลกแล้ว กระทั่งเวลา14.00 น. เคลื่อนย้ายศพมาตั้งไว้ที่วัดพนมเศษเหนือต.พนมเศษ อ.ท่าตะโกเพื่อทำพิธีตามศาสนาต่อไป