เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ต.อ.ชาติชาย ชนะสิทธิ์ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา พร้อมด้วย ร.ต.ท.เชาวลิต แก้วห่อทอง พนักงานสอบสวน สภ.บันนังสตา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ศรศึก-ศรชัย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่ 10 เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายซุ่มยิงอาสาสมัคร (อส.) ประจำหมู่บ้านบันนังกูแว บริเวณทางเข้าบ้านบันนังกูแล หมู่ 4 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบร่องรอยกระสุนปืนเอชเค และปืนเอ็ม 16 จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีร่องรอยกระสุนปืนที่รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กว 4008 สงขลา ของนายอับดุลฮากิม ดาราเซะ อส.ชป.สิงห์ดำ ได้รับความเสียหาย

สอบสวนทราบว่า ขณะที่ นายอับดุลฮากิม พร้อมลูกน้องชุด อส.ชป.สิงห์ดำ 5 คน เดินทางกลับจากร่วมงานแต่งงานในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ดักซุ่มรอ ก่อนใช้ปืนสงครามกระหน่ำยิงใส่ โดยที่นายอับดุลเลาะ มะยี และนายอารือฟี ยามา ได้ใช้ปืนยิงต่อสู้ จนเกิดการปะทะกันนานกว่า 10 นาที ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยไป

อย่างไรก็ดี จากการปะทะกันครั้งนี้ ส่งผลให้ อส.ชุดดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ประกอบด้วย นายการียา มะยี อายุ 47 ปี โดนยิงซี่โครงขวา 2 นัด นายอับดุลเลาะ มะยี อายุ 25 ปี นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ อายุ 18 ปี นายมะนัน ปูเต๊ะ อายุ 31 ปี ถูกยิงตามลำตัวอาการสาหัส นายอารือฟี ยามา อายุ 24 ปี และนายโซบรี เฮงดาดา อายุ 29 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งหมดถูกนำส่ง รพ.บันนังสตา และส่งต่อ รพ.ศูนย์ยะลา

สำหรับสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะต้องการลอบทำร้ายนายอับดุลฮากิม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีการยิงปะทะกันมาแล้ว โดยกลุ่มคนร้ายได้ลอบวางระเบิดรถยนต์ของนายอับดุลฮากิม และใช้ปืนยิงใส่ป้อม ชรบ.ที่นายอับดุลฮากิม ปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่ก็รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

ด้านความคืบหน้าเหตุเจ้าหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้นโรงเรียนดารุลบารอกะฮ์ หมู่ 1 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี จนเกิดการยิงปะทะกัน ส่งผลให้ นายมาฮามะซู เจะหะ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา คดีความมั่นคง 2 หมาย และหมายจับตาม พ.ร.ก.อีก 2 หมาย ถูกวิสามัญฆาตกรรม พร้อมกันนั้นสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 2 ราย นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนดังกล่าวยังคงเปิดทำการโดยเตรียมรับนักเรียนมาเรียนหนังสือช่วงปิดเทอม โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระดับผู้บังคับบัญชา มาให้กำลังใจ และดูแลความสงบเรียบร้อย

ขณะที่ นายวศิน สาเมาะ ผอ.โรงเรียนและบุคลากรของโรงเรียนแห่งนี้ ระบุถึงความจำเป็นและเข้าใจสถานการณ์ในการปฏิบัติภารกิจของหน่วยกำลังกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ติดใจและอยากให้การปฏิบัติของฝ่ายเจ้าหน้าที่ครั้งนี้เป็นตัวอย่างกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า

นายวศิน กล่าวว่า การที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่มีแบบแผนการปฏิบัติชัดเจน มีการบอกกล่าวให้ทราบถึงภารกิจล่วงหน้า ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจ และพร้อมที่จะปฏิบัติไปร่วมกัน เป็นการลดความคลางแคลงใจและการเข้าใจผิด

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ได้นำจักรยานยนต์ 5 คัน ที่ผู้ต้องสงสัยจอดทิ้งไว้ในโรงเรียนดังกล่าว ก่อนจะหลบหนี ไปตรวจสอบโดยพบว่ามีการดัดแปลงสภาพ ปิดบังป้ายทะเบียนรถ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ในการผ่านจุดตรวจต่างๆ ซึ่งข้อมูลจากขนส่ง พบว่ารถ 2 ใน 5 คัน เป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาในพื้นที่ จ.ปัตตานี สำหรับ 2 ผู้ต้องสงสัยที่คุมตัวไว้ได้ถูกนำเข้าสู่กระบวนการซักถามและตรวจดีเอ็นเอ ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ทันที

จากการตรวจสอบประวัติและความเชื่อมโยงกับเหตุความไม่สงบ ปรากฎว่า 1 ใน 2 เป็นมือประกอบระเบิด 14 ลูก ที่ใช้ในการก่อเหตุลอบวางระเบิด 27 จุด ในเขต อ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 และต้องสงสัยว่าก่อเหตุลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารชุด ฉก.ปัตตานี 25 เสียชีวิต 4 นาย ในพื้นที่ อ.มายอ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2555 โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่แยกบุคคลทั้งสอง เพื่อซักถามอย่างละเอียด เชื่อว่าน่าจะมีการเปิดเผยเบาะแสกลุ่มก่อเหตุต่างๆ ในพื้นที่ รวมถึงกลุ่มที่ก่อเหตุนอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะผู้ต้องสงสัยอีก 3 คนที่หลบหนีไปได้

นอกจากนี้จะมีการขยายผลกรณีนายมาฮามะซู ที่เสียชีวิต และมือประกอบระเบิด ว่าอาจมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ห้างเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย