11 พ.ค.58 หลังจากที่กระแสข่าววิธีการฉ่อโกงทองคำแท่ง ด้วยวิธีหลอกเหยื่อเจ้าของร้านทองของกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ใช้วิธีการโทรศัพท์สั่งซื้อทองคำแท่ง หนัก 10 บาท จำนวน 12 แท่ง เป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะนำไปใช้ในงานแต่งงาน และเลือกในช่วงเวลา 16.00 น.ซึ่งเป็นเวลาที่ธนาคารปิดตามเวลา 15.30 น. และเลือกวันศุกร์ เนื่องจากธนาคาร จะหยุดทำการวันเสาร์และอาทิตย์ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบการอายัดของบัญชีได้ กลุ่มมิจฉาชีพ จึงหลบหนีได้อย่างลอยนวล ซึ่งในโลกสื่อสังคมออนไลน์ ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงการกระทำกันเป็นกระบวนการณ์และรู้วิธีการสั่งจ่ายเช็คอายัดเช็ค และการส่ง SMSแจ้งผลการอนุมัติเงินมีวงเงินเข้ายังสมุดบัญชี
ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังร้านทองดังกล่าวมีชื่อว่า ร้านทองพรพรรณ ตั้งอยู่เลขที่ 98-100 ในเขตตลาดเทศบาลโพธาราม อ.โพธาราม จังหวัดราชบุรี และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับป้อมที่พักสายตรวจ สภ.โพธาราม พบกับนางสาวรพี ผาสุก อายุ 68 ปี เจ้าของร้านทอง เล่าให้ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 7 พ.ค. 58 ได้มีโทรศัพท์จากลูกค้า ทราบเพียงชื่อ นางอุไรวรรณ ซึ่งในตอนนั้นคิดว่า เป็นชื่อเดียวกับลูกค้าขาประจำของทางร้าน โทรเข้ามาสอบถามราคาทองคำแท่ง เพื่อนำไปใช้ในงานแต่งงาน โดยตอนแรกสอบถามว่า มีทองคำแท่งถึง 50 บาท หรือไม่ ตนก็บอกว่ามี แต่ทางลูกค้าบอกว่าอยากได้ถึง 12 แท่ง จึงได้มีการตกลงซื้อขายกันในราคา 2,250,000 บาท โดยทางลูกค้าจะขอจ่ายเงินโดยการโอนเข้าบัญชีธนาคารทหารไทย ต่อมาเวลา 13.57 น. ก็มี sms จากธนาคารส่งเข้ามาทางโทรศัพท์มือถือว่า มีเงินเข้าบัญชี จำนวน 2,250,000 บาท ตนก็รีบนำสมุดธนาคารไปปรับ ก็พบว่า มียอดเงินดังกล่าวจริง จึงติดต่อให้มารับทองไปได้
จากนั้น นางอุไรวรรณ แจ้งว่าจะให้ญาติๆ ไปรับเป็นผู้ชายสวมเสื้อสีน้ำเงิน จากนั้นไม่นาน ก็มีชายคนดังกล่าวมารับทองคำแท่งไป พร้อมกับนำสำเนาใบฝากเงินและสำเนาเช็คธนาคารอีกแห่งมาให้ด้วย ต่อมาในวันที่ 8 พ.ค. 58 ทางธนาคารทหารไทย สาขาบางขุนนนท์ โทรศัพท์มาแจ้งว่า เช็คที่เข้าบัญชีนั้นถูกอายัด ขอให้มาติดต่อกับทางธนาคาร ตนก็รีบนำสมุดธนาคารไปยังธนาคารทหารไทยอีกครั้งเพื่อขอเบิกเงินสดออกมาจากบัญชี แต่พบว่า ไม่มีเงินดังกล่าวจึงได้ขอตรวจสอบเช็คที่ธนาคารแจ้งว่าถูกอายัดพบว่า เป็นเช็คของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชื่อเจ้าของเช็คคือ นายสมชาย สาฆอ ก็สอบถามทางธนาคารว่า เมื่อเงินเข้าบัญชีมาแล้วจะอายัดได้อย่างไร และ SMS ที่แจ้งเข้ามาก็ เป็นข้อความมาจากธนาคาร TMBBank โดยมีข้อความว่า ฝาก 2,250,000 บาท เข้าบ/ชxx4655 เหลือ 302,706.66 บ.07/05/15@13.57 ซึ่งทางธนาคารก็บอกว่า ทางเจ้าของเช็ค ไม่มีเงินเข้ายังธนาคาร ทำให้ไม่สามารถนำเงินเข้าบัญชีให้ลูกค้าได้ และให้ไปแจ้งความเรียกร้องเอาเอง ทำให้ตนรู้ว่า ถูกหลอกแน่ แต่ไม่เข้าใจในระบบของธนาคารว่า เมื่อมีการโอนเข้าบัญชีมาแล้ว กลับมีการอายัดถอนเงินกลับออกจากบัญชีได้อย่างไร จากนั้น จึงได้ไปแจ้งความไว้กับ ร.ต.ท.ไพศาล ชูสิทธิสกุล พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายรายนี้ เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการทำกันเป็นขบวนการ
ด้าน ร.ต.ท.ไพศาล ชูสิทธิสกุล พนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เผยว่าคดีนี้ เบื้องต้นยังไม่ได้มีการดำเนินคดีใดๆ กลับกลุ่มคนร้ายรายนี้ โดยในวันนี้ จะเดินทางพร้อมผู้เสียหายไปที่ ธนาคารทหารไทย สาขาบางขุนนนท์ เพื่อขอตรวจสอบบัญชีเงินฝากของผู้เสียหาย และขอความรู้ในเรื่องของการโอนเงินเข้าบัญชีและการอายัดเงินกลับจากบัญชี ในกรณีการสั่งจ่ายเช็ค พร้อมทั้งจะประสานขอดูภาพวงจรปิดและประวัติของผู้ต้องสงสัยที่มีชื่อในการสั่งจ่ายเช็คที่นำมาขึ้นเงินกับทางธนาคาร พร้อมทั้งขอให้ทางธนาคารทำหนังสือเพื่อยืนยันของกลุ่มคนร้ายรายนี้ เพราะเชื่อว่ามีการทำกันเป็นขบวนการ โดยเฉพาะจะรู้ระบบการสั่งเช็ค การนำเช็คไปขึ้นเงินเข้าบัญชีและให้ธนาคารอายัดเช็ค นอกจากนี้ยังเลือกใช้เวลาวันหยุดของธนาคารเพื่อให้เสียเวลาในการตรวจสอบ เพื่อที่จะนำหลักบานที่ได้มาทำการดำเนินดีต่อไป
และในเบื้องต้นได้มีการติดต่อไปยัง นายสมชาย สาฆอ ที่เป็นคนเซ็นสั่งจ่ายเช็คใบดังกล่าว ได้การว่า ตนได้ปิดบัญชีเงินฝากไปนานแล้ว จากการตรวจสอบพบว่า ยังไม่มีการอายัดบัญชีแต่อย่างใด บัญชียังสามารถใช้งานได้ตามปกติ มีแต่การอายัดเช็คเกิดขึ้นเท่านั้น หากมีการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการเชิญตัว นายสมชาย สาฆอ มาทำการสอบสวน เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมจะติดตามตัว นางอุไรวรรณ ว่ามีชื่อนี้จริงหรือไม่ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป เพราะคดีนี้เป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนที่ติดตามอย่างใกล้ชิด
ด้านนางสาวรพี ผาสุก เจ้าของร้านทอง ออกมาเตือนกลับผู้ประกอบการร้านทองต่างๆ อย่าได้หลงเชื่อกลับกลุ่มคนร้ายรายนี้ ถ้ามีการโทรศัพท์มาสั่งซื้อและมีการโอนเงินมาในช่วงที่วันหยุดธนาคาร อย่าได้นำทองคำให้ไปก่อนที่เราจะได้รับเงินสดเสียก่อน เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายกลุ่มนี้ เหมือนอย่างกับตน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี