บึ้ม!ชายแดนใต้ทั้งคืน
สังเวย6ศพ
สุไหงโกลก-ปาดังเบซาร์
แฉโจรใช้จยย.บอมบ์
ถล่มธารโตจนไฟดับ
เหี้ยมไม่สนรอมฎอน
3 จังหวัดชายแดนใต้ระอุอีกครั้ง หลังผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุลอบวางระเบิด-วางเพลิงติดต่อกันหลายจุดเริ่มตั้งแต่เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 10 กรกฎาคม กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุระเบิด 4 จุด ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสจุดแรกคนร้ายขว้างระเบิดเข้าไปในร้านครัวเจนนี่ ริมถนนลูกเสืออนุสรณ์ 4 ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก แรงระเบิดทำให้ทรัพย์สินภายในและหน้าร้านเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย จุดที่ 2 คนร้ายขว้างระเบิดเข้าไปในร้านพัฒน์เนื้อกระทะ ถนนลูกเสืออนุสรณ์ 5 ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย
จุดที่ 3 คนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้ในกระถางต้นไม้หน้าร้านคาราโอเกะ ซอยประชาวิวัฒน์ 2 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ก่อนจุดชนวนระเบิด มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และจุดที่ 4 เกิดเหตุระเบิดที่บริเวณหน้าโรงเรียนผดุงวิทยา ในเขตอำเภอสุไหงโก-ลก มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย รวมผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 8 ราย ประกอบด้วย 1.น.ส.วรดา บุดตรี 2.นายมูฮัมหมัดกัลดาฟีห์ ดอเลาะ 3. น.ส.วิไล จันดารา 4. นางเวทีนี บัวบาน 5. น.ส.กัญญารัตน์ วันทอง 6.น.ส.นารี มณีวรรณ 7.น.ส.แอนนี่ เอี่ยมศรี และ 8.นางอุมา พู่ทอง
จยย.บอมบ์ที่ปาดังเบซาร์
คืนเดียวกัน เวลา 20.50 น. คนร้ายใช้ จยย. ซุกระเบิดไว้ภายใน นำไปจอดไว้ที่หน้าร้านครกทองคาราโอเกะ ถ.วงศ์ท่าเรือ เขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ก่อนจุดชนวนระเบิด แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ น.ส.นุจรินทร์ นันเชียงเครือ อายุ 28 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 2.นางอะรอน ธรรมขันธ์ อายุ 42 ปี ชาว จ.หนองคาย ถูกนำตัวส่ง รพ.ปาดังเบซาร์ และ 3.น.ส.นันทิสา อานาม อายุ 40 ปี ส่งต่อ รพ.สงขลานครินทร์ แต่ทั้งคู่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย คือ 1.นางพัชราภรณ์ ทีวงค์ อายุ30 ปี ชาว จ.นครพนม ส่งต่อ รพ.หาดใหญ่มีแผลฉีกขาดที่ใบหน้าและกระดูกใบหน้าหัก 2.น.ส.ปิยธิดา ไชยพรม อายุ31ปี ชาว จ.ศรีษะเกษ รักษาตัวที่ รพ.ปาดังเบซาร์ มีบาดแผลถลอกและฉีกขาดที่หัวเข่า และ 3.น.ส.ปนัดดา จันทะเกษ อายุ 30ปี ชาว จ.อุบลราชธานี หูอื้อแพทย์ให้กลับบ้านได้ โดยทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทำงานอยู่ในร้านคาราโอเกะที่เกิดเหตุ
โก-ลกบึ้มกลางดึกอีกรอบ
ต่อมาเวลาประมาณ 00.10 น. วันที่ 11 ก.ค. 2558 ที่ อ.สุไหงโก-ลก เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดระลอก 2 รวม 4 จุด คือ 1.ที่ร้านสมชายอะไหล่ยนต์ เลขที่ 226 ถ.ประชาวิวัฒน์ ซึ่งมีนายสมชาย ลือเดชวุฒิไกร อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของ โดยระเบิดที่เกิดขึ้นอยู่ที่บริเวณด้านในชั้นล่างของประตูเหล็กทางเข้าร้าน ส่งผลทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และได้ลุกลามไปยังสินค้าที่ส่วนใหญ่เป็นทินเนอร์ ถังสี และวัสดุที่ติดไฟง่ายทั้ง 4 ชั้น อาคารวอดทั้งหลัง
2.ที่ร้านค้า ถ.ประชาวิวัฒน์ ชอย 1 หรือซอยดาร์ริ่ง 3.ที่ร้านแสงเจริญ อยู่ด้านหลังตลาดสดเก็นติ้ง ส่งผลให้เพลิงลุกไหม้พร้อมๆ กันทั้ง 2 จุด เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงจากพื้นที่อำเภอใกล้เคียงกว่า 10 คัน แยกย้ายกันสกัดกั้นต้นเพลิง เมื่อเพลิงสงบลงพบอาคารได้รับความเสียหายกว่า 10 คูหา และ 4.ร้านคาเธ่ย์ ซึ่งอยู่ใกล้กับ สภ.สุไหงโกลก จุดนี้เกิดระเบิดขึ้นแต่ไม่เกิดเพลิงไหม้
หลังเกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนายถวัลย์ โกศลพิทักษ์ อายุ 74 ปี กับนายฉ้าย แซ่โค้ว อายุ 65 ปี และยังมีผู้สูญหายอีก 1 ราย คือ น.ส.มาลินี โกศลพิทักษ์ อายุ 35 ปี
ระเบิดเสาไฟ 8 ต้นที่ยะลา
เช้าวันที่ 11 ก.ค. 2558 พ.ต.ท.สมพร ดำราษฎร์ สวญ.สภ.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง รุดไปตรวจสอบเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย บริเวณทางหลวงสาย 410 (ยะลา-เบตง) รอยต่อพื้นที่บ้านบูโละสนิแย หมู่ 4 ต.บ้านแหร กับบ้านฆอแย หมู่ 5 ต.แม่หวาด
พบเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ตั้งอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือโค่นล้มระเนระนาดติดต่อกันไป และบางช่วงสายไฟฟ้าแรงสูงขาดได้รับความเสียหาย รวมจำนวน 8 ต้น ตรวจสอบต่อมาพบเศษชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เศษโลหะปนเปื้อนดินระเบิดและคราบดินระเบิดอยู่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าที่ล้มไล่ๆ ติดต่อกัน จำนวน 5 ต้น ไม่พบสะเก็ดระเบิดแต่อย่างใด
เบื้องต้นทราบว่า เวลาประมาณ 02.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านฆอแย พร้อมกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ จู่ๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังติดต่อกัน 5 ครั้ง หลังจากนั้นกระแสไฟฟ้าดับลงมืดมิด และดับติดต่อกันไปจนถึง อ.เบตง ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ ฉวยโอกาสช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนสิ้นเดือนรอมฎอนก่อเหตุดังกล่าว
คาดคนร้ายชุดเดียวกับปี’57
พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จ.สงขลา เปิดเผยว่า พบเบาะแสสำคัญจากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ที่ใช้วางระเบิด ซึ่งเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีแดงขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ถูกขโมยมาจากพื้นที่ สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2557 และถูกนำมาสวมป้ายทะเบียนใหม่เป็น 629-ปัตตานี
ซึ่งเป็น จยย.คันเดียวกันกับที่คนร้ายขับไปรับมือวางระเบิดคาร์บอมบ์ภายใน สภ.หาดใหญ่ หลบหนี เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2557 ก่อนที่จะถูกนำมาประกอบระเบิด และนำมาก่อเหตุระเบิดที่ปาดังเบซาร์ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะหนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลอบวางระเบิด 2 จุด ที่ อ.หาดใหญ่ เมื่อปี 2557 ทั้งที่ สภ.หาดใหญ่ และหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอิเลฟเว่น สาขา ถ.พลพิชัย ที่ขณะนี้ยังหลบหนีการจับกุมอยู่
ผบก.ภ.จว.สงขลา เผยอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนพยานแวดล้อมไปแล้วกว่า 10 ปาก ซึ่งได้เบาะแสสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะคนร้ายที่ขับรถจักรยานยนต์มาจอดนั้น เป็นชายสวมหมวกไหมพรมขับรถมาจอดในช่วงเย็น และยังบอกกับเจ้าของร้านว่าขอฝากรถไว้ชั่วคราว ก่อนที่จะเดินออกไป และเกิดระเบิดขึ้นในช่วงค่ำ
วางมาตรการรปภ.เข้มงวด
หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดดังกล่าวขึ้น ทำให้หลายพื้นที่เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุด โดยกองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่เสี่ยงทั้ง 7 อำเภอ ของ จ.สงขลา ทั้ง อ.เมืองสงขลา อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ
ขณะที่ นายเดชรัฐ สิมศิริ ผวจ.สตูล กล่าวว่า แม้จังหวัดสตูลจะไม่เคยมีเหตุร้ายเหมือนอย่าง 4 จว.ชายแดนภาคใต้ แต่เพื่อเป็นการป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ จึงกำชับให้ทุกชุดป้องกันและรักษาความปลอดภัยทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง เพิ่มมาตรการเข้มข้นด้านการข่าว ตั้งแต่ก่อนเดือนต้อนรับรอมฏอน ยาวไปตลอดทั้งเดือน เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน
ด้าน นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผอ.ฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เหตุระบิดที่เกิดขึ้นทำให้การรถไฟฯ ต้องเฝ้าติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดขึ้น เพื่อให้ความปลอดภัยกับผู้โดยสาร แต่ยืนยันว่ามาตรการการรักษาความปลอดภัยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้
สรุปบึ้ม 8 จุดตาย 6 ศพ
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ห้องประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิริธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้แถลงข่าว กรณีเหตุการณ์คนร้ายได้ก่อเหตุความรุนแรงด้วยระเบิดและวางเพลิง ในเขตพื้นที่เมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลาและพื้นที่อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ผ่านมา รวม 8 จุด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดเจ็บ 11 ราย
ชี้สุดเหี้ยมไม่สนรอมฎอน
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่าเหตุการที่เกิดขึ้น คนร้ายมุ่งหวังให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นสำคัญ และยังลงมืออย่างเหี้ยมโหด ไม่สนว่าเป็นช่วงเดือนรอมฎอน อันเป็นช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ที่ศาสนิกชนกำลังบำเพ็ญตน
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่า เป็นลักษณะการก่อเหตุระเบิด เพลิงไหม้หลายจุดในคืนเดียวกัน มุ่งหวังให้เกิดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก ทาง กอ.รมน. ขอประณามผู้วางแผนสั่งการและผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ ที่ไม่คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์แต่อย่างใด ประกอบกับห้วงเดือนนี้เป็นเดือนถือศีลอด เป็นเดือนแห่งศรัทธา ศาสนิกทุกคนต่างบำเพ็ญตนตามหลักศาสนา แต่ในห้วงท้ายเดือนอันศักดิ์สิทธิ์นี้ กลับมีคนบางกลุ่มที่นิยมความรุนแรงยังคงพยายามก่อเหตุร้ายอยู่ ซึ่งถือว่าขัดต่อหลักศาสนาอย่างชัดเจน” พ.อ.บรรพต กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี