‘อ๊อด’ยังอยู่ไทย
ป้วนเปี้ยนแถวภาคกลาง
ตร.จ่อรื้อชุดสืบล่า15แก๊งบึ้ม
ส่งฟ้องอาเดม-ยูซูฟูใน24วัน
ปปง.แกะรอยพบคนเอี่ยวเพิ่ม
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ตุลาคม พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาการแทนที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 (สบ10) และรักษาการโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีการวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า สำหรับการติดตามตัว นายอ๊อด พยุงวงษ์ หรือ นายยงยุทธ พบแก้ว หนึ่งในผู้ต้องหาคดีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ปูพรมติดตามตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะยังหลบหนีอยู่ในภาคกลาง เนื่องจากมีญาติและเพื่อนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายอ๊อดนั้น คาดว่าน่าจะไม่มี เนื่องจากเป็นบุคคลไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน จึงไม่อาจจะเปิดบัญชีทางการเงินได้ ซึ่งเป็นไปได้ว่า อาจจะมีบุคคลที่สนับสนุนนำเงินค่าจ้างมาให้ นายอ๊อด เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์เพื่อประกอบระเบิด ขณะที่การตรวจสอบใบหน้า นายอ๊อด ในข้อมูลไบโอแมทริกซ์กับรูปภาพการ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ก็อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า การสรุปสำนวนคดีส่งฟ้อง นายอาเดม คาราดัก หรือ บิลาล เติร์ก และ นายไมไลรี ยูซูฟู สองผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังอยู่นั้น คาดว่าจากนี้ไม่เกิน 24 วัน ก็น่าจะเสร็จสิ้น โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมตั้งหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อปรับทีมงานเป็นชุดใหม่ ในการติดตามผู้ต้องหาอีก 15 คนที่ถูกออกหมายจับ และวันเดียวกันนี้ ได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเชิญเจ้าหน้าที่จากสถานทูตตุรกี เข้ามาหารือแนวทางต่างๆ ทั้งการตรวจสอบหนังสือเดินทาง การยืนยันแหล่งที่อยู่ของ น.ส.วรรณา สวนสัน และ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู รวมถึงยืนยันการเดินทางเข้าออกประเทศของ นายอาบูดูซาตาร์ อบูดูเระห์มาน หรือ อิซาน ด้วยเช่นกัน
เมื่อเวลา 08.00 น. นายชูชาติ กันภัย ทนายความของ นายอาเดม ได้เข้าเยี่ยมนายอาเดมที่เรือนจำชั่วคราว กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่11 (พัน.ร.มทบ.11) ต่อมา เวลา 10.00 น. ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้สอบถามนายอาเดมถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่ยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม นายอาเดม ยืนยันว่า นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์มาน นายหน้าขบวนการค้ามนุษย์ เป็นคนสั่งให้เอากระเป๋าบรรจุระเบิดไปวางไว้ที่ศาลท้าวมหาพรหม เมื่อทำสำเร็จจะช่วยประสานงานกับทางมาเลเซียเพื่อให้นายอาเดมเดินทางไปยังประเทศตุรกี เมื่อถามว่าทำไมต้องไปวางระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม นายอับดุลเลาะห์ตอบว่าเป็นจุดที่มีผู้คนพลุกพล่านเป็นจำนวนมาก
นายชูชาติ กล่าวอีกว่า นายอาเดมเล่าว่าหลังจากก่อเหตุก็ไม่ทราบข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดเลยเนื่องจากที่ห้องพัก ไม่มีเครื่องมือสื่อสารใด แต่เมื่อตนให้ดูภาพเหตุการณ์ดังกล่าว นายอาเดมก็มีท่าทีที่สลดใจ รู้สึกผิดกับสิ่งที่กระทำ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะสอบถามอย่างละเอียดก่อนที่จะยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอลดหย่อนโทษให้นายอาเดม คาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์ ตนจะเข้าเยี่ยมนายอาเดมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นายอาเดมบอกเพียงแค่ว่ามาจากประเทศจีน แต่ไม่บอกได้ว่าจากเมืองใด เพราะเกรงว่าทางการจีนจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเพื่อนและญาติของตน
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องสืบสวน ตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา ผบก.ตม.4 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ สืบสวน ตม.จว.หนองคาย ตรวจสอบ นายฮาซัน ยีกิต อายุ 37 ปี ชาวตุรกี ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับบุคคลที่ถูกออกหมายจับคดีระเบิดที่แยกราชประสงค์ ขณะยื่นเอกสารเพื่อเดินทางไปยัง สปป.ลาว โดยพบว่า นายฮาซัน อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่ากฎหมายกำหนด พร้อมกันนี้ ได้ส่งภาพไปให้ บช.น.ตรวจสอบ หากไม่ใช่คนร้ายก็จะปล่อยตัวไป ขณะที่นายฮาซัน ให้การว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด ช่วงเกิดเหตุตนอยู่กับครอบครัวชาวไทยที่ จ.ขอนแก่น และที่จะเดินทางไป สปป.ลาวครั้งนี้ ก็เพื่อไปต่อวีซ่าเพื่อมาอยู่ในประเทศไทย
ทางด้าน พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายคดีระเบิดราชประสงค์ว่า มีความคืบหน้าพอสมควร พบผู้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงเพิ่มเติม และขณะนี้ได้ประสานข้อมูลกับตำรวจและฝ่ายความมั่นคง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพื่อไม่ให้คนร้ายไหวตัวทัน โดยปปง.ตรวจสอบในส่วนของเส้นทางการเงิน แต่ไม่มีการสืบสวนทางคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี