ทั้งนี้พี่ชายคนโตของนายสิทธิกร อยู่ในการอาการเสียใจมาก หลังจากทราบข่าวน้อยชายเสียชีวิตที่พิษณุโลกช่วงบ่ายวานนี้ก็เดินทางมาที่พิษณุโลกทันที และให้ข้อมูลผู้สื่อข่าวว่า นายสิทธิกรเป็นน้องชายคนที่สามจากพี่น้องทั้งหมด 5 คน พอทราบข่าวน้องเสียชีวิตก็เดินทางจากระยองมาพิษณุโลกทันทีตั้งแต่เมื่อวานนี้ พร้อมน้องชายอีกคน
"เสียใจมาก ได้เห็นสภาพน้องแล้วรับไม่ได้ ที่ผ่านมาเสี่ยอู๊ดห่างกับพี่น้องไปนาน แต่ในฐานะพี่ชายคนโตก็จะนำร่างน้องกลับไปที่บ้านเกิด ส่วนจะดำเนินการพิธีศพอย่างไรก็จะปรึกษาญาติก่อน แต่ก็บำเพ็ญกุศลตามประเพณี"
กระทั่งเดินเรื่องเอกสารเสร็จ จึงนำร่างเสี่ยอู๊ดใส่โลง โดยมีรถจากหน่วยกู้ภัยข่าวภาพพิษณุโลกอาสานำรถขนร่างเสี่ยอู๊ดไปส่งที่จ.ระยอง โดยออกจากโรงพยาบาลพุทธชินราชในเวลา 12.00 น. ไปวัดสุวรรณรังสรรค์ หรือ วัดยายร้า ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยองเนื่องจากเสี่ยอู๊ดทำบุญวัดนี้ไว้มาก รวมทั้งเป็นที่เก็บอัฐิของพ่อและแม่ของเสี่ยอู๊ด ซึ่งนอกจากพี่ชายคนโตที่เดินทางมารับศพเสี่ยอู๊ดแล้ว ยังมีอาจารย์ดารุณ คงทรัตน์ หรือ อาจารย์ตุ๊กแก หัวหน้างานแนะแนวโรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา และนายเปียโน คงทรัตน์ ลูกชาย ได้เดินทางมารับศพที่พิษณุโลกด้วย
นางดารุณ เผยว่า ตนเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกับนายสิทธิกร เป็นอย่างดี เคยทำงานร่วมกันตั้งแต่ ปี 2546 หลังจากพบเจอกันในงานทอดกฐินที่วัดยายร้า อ.บ้างฉาง จากนั้นนายสิทธิกร ก็ได้จัดงานเยาวชนสร้างสรรค์ต้านยาเสพติดจัดกิจกรรมวอร์คแรลี่ และมอบทุนการศึกษาให้นักเรียน โรงเรียนบ้านฉาง ซึ่งมอบทุนทั้งระดับม.ต้นจนถึงมหาวิทยาลัยไปแล้ว 57 ทุน และทำมาอย่างต่อเนื่อง มอบทุนให้นักเรียนเรียนดี ประพฤติดีระดับม.ต้นทุนละ 18,000 บาทต่อปี และระดับมหาวิทยาลัยทุนละ 48,000 บาทต่อปี มีนักเรียนที่บ้านฉางจบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วหลายราย จนเด็กๆ นักเรียนที่นี่จะเรียกนายสิทธิกรว่า คุณครูไม้บรรทัด พี่ชายที่แสนดี ผู้ใหญ่ใจดี เทวดาของน้อง ๆ เพราะเมื่อนายสิทธิกรมาร่วมมอบทุนให้ จะมอบไม้บรรทัดให้เด็ก จะเขียนแง่คิดติดลงบนไม้บรรทัดด้วย นอกเหนือจากการบริจาคเงินสร้างศาสนสถาน ที่วัดยายร้า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ที่นายสิทธิกรทำอย่างสม่ำเสมอ
นางดารุณ กล่าวต่อว่า อยากให้สังคมมองด้านความดีของคุณสิทธิกรบ้าง บริจาคเงินเพื่อการกุศลจำนวนมาก เมื่อครั้งต้องโทษก็มีสะดุดการมอบทุนไปบ้าง เมื่อทราบข่าวนายสิทธิกรเสียชีวิต ตนและลูกชายจึงได้เดินทางมาที่พิษณุโลกทันทีเพื่อร่วมรับศพกลับบ้านเกิดที่จ.ระยอง
ด้านนายเปียโน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับเสี่ยอู๊ด เปิดเผยว่า ตนจะคุยโทรศัพท์ และคุยไลน์กับนายสิทธิกรเป็นประจำ ครั้งสุดท้ายคุยไลน์กัน เมื่อ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสิทธิกรไม่ได้ป่วยเป็นมะเร็ง ที่พบถุงยาเป็นถุงยาศูนย์มะเร็งรพ.ลพบุรี ที่นายสิทธิกร บริจาคเงินให้ จริงๆ แล้วนายสิทธิกรป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ โรคความดัน น้ำตาลในเลือดสูง เบาหวาน ตนขายประกันชีวิตของเอไอเอ ตนสอบถามข้อมูลแล้ว ทำประกันไม่ได้ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หยุดกินยาที่รักษาโรคประจำตัว จนถึงกลับเข้านอนรักษาตัวในโรงพยาบาลมาแล้ว บอกกับตนว่าหยุดกินยา และตนไม่เชื่อว่านายสิทธิกรจะกินยาตาย น่าจะเลือกที่หยุดกินยาโรคประจำตัวมากกว่า
ร.ต.ท.อำนาจ อ่อนปาน ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการเสียชีวิตของนายสิทธิกร ทางน้องชาย ได้นำหลักฐานเอกสารการสั่งเสียของนายสิทธิกรมาแสดงต่อพนักงานสอบสวน โดยก่อนเกิดเหตุ นายสิทธิกรได้กลับภูมิลำเนา มาหานายธวัชชัยเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และได้สั่งเสียให้น้องชายทำตามเดิม ก็คิดว่าเป็นการพูดเล่น ๆ เตรียมตัวตาย สั่งห้ามนำศพกลับเมื่อนำใบสั่งเสียมาเทียบกับเอกสารที่เขียนในห้องพักในโรงแรมพบว่า เป็นรายมือเดียวกัน และน้องชายยืนยันเป็นรายมือของนายสิทธิกร ส่วนเรื่องการเสียชีวิต น้องชายไม่ได้ติดใจเหตุการณ์เสียชีวิต เพราะไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายใดๆ ส่วนแนวทางการสอบสวนของตำรวจ และแพทย์เป็นแนวเดียวกัน แต่ยังต้องรอผลการชันสูตรยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
ส่วนเรื่องอาการป่วยนายสิทธิกรไม่ได้เป็นโรคมะเร็ง แต่ป่วยเป็นโรคเลือดเลี้ยงสมองไม่พอ โรคความดัน และโรคเบาหวาน แต่ไปรักษาตัวที่ศูนย์รักษาโรคมะเร็งลพบุรี อีกทั้งนายสิทธิกรอยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง นับตั้งแต่ออกจากเรือนจำก็เดินทางไปหลายแห่ง แต่ตลอดเวลาก็มีการคุยกับน้องชายคนนี้ตลอด และก่อนเสียชีวิตยังเล่นไลน์กับน้องชาย จนยาออกฤทธิ์ แล้วก็ฟุบไป โดยที่น้องชายก็ไม่ทราบว่าเสียชีวิตโปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี