ศาลแพ่งลงดาบ‘แพรวา’

ชดใช้30ล้าน

ซิ่งเก๋งซีวิคชนรถตู้ตาย9ศพ

ญาติเหยื่อเล็งอุทธรณ์ขอเพิ่ม

ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน ศาลแพ่งมีคำพิพากษาคดีดำ อ.4013/2554 ที่นายสะโอด ซิมกระโทก ร่วมกับพวกรวม 19 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.แพรวา (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี (ขณะเกิดเหตุ) ร่วมกับบิดามารดา เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องกระทำละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท กรณีวันที่ 27 กันยายน 2553 น.ส.แพรวาขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค เฉี่ยวชนรถตู้โดยสารสายธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-หมอชิต บนทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ เป็นเหตุให้คนขับรถตู้และผู้โดยสารเสียชีวิตรวม 9 ราย บาดเจ็บ4 คน

สำหรับคดีนี้ ศาลเห็นว่าเป็นคดีแพ่งที่สืบเนื่องมาจากคดีที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ถึงที่สุดว่า การขับรถของน.ส.แพรวา เป็นการกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำละเมิด จึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และเมื่อรับฟังได้ว่าน.ส.แพรวาจำเลยที่ 1 กระทำผิด บิดาและมารดา ซึ่งเป็นจำเลยที่ 2 และ 3 ก็ไม่ได้นำสืบถึงความระมัดระวังในการดูแลจำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายด้วย

“ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดฐานละเมิดจริง พิพากษาให้น.ส.แพรวา บิดาและมารดาร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ประกอบด้วย ค่าไร้อุปการะ และค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าอื่นๆให้โจทก์รวม 28 คน ซึ่งเป็นครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนเงินคนละ 4,000-1,800,000 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี” คำพิพากษาระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีอาญานั้น ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557 ให้จำคุก 2 ปี แต่แก้โทษ โดยเพิ่มเวลารอลงอาญาจาก 3 ปีเป็น 4 ปี เพิ่มเวลาบำเพ็ญประโยชน์เป็นปีละ 48 ชั่วโมง รวม 4 ปี และห้ามขับรถจนอายุ 25 ปี ซึ่งน.ส.แพรวายื่นฎีกาสู้คดี ต่อมาวันที่ 11 พฤษภาคม2558 ศาลพิพากษาไม่รับฎีกาของน.ส.แพรวา จึงทำให้คดีอาญาสิ้นสุดและบังคับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

ด้าน พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ บิดาของน.ส.สุดาวดี นิลวรรณ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ กล่าวว่า ศาลพิพากษาในส่วนของค่าเสียหายโดยกำหนดวงเงินให้ 1 ใน 3 ที่ยื่นฟ้องไป ซึ่งความเห็นของญาติผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่คิดว่าได้รับเงินชดใช้ค่าเสียหายน้อยเกินไป แต่ก็เคารพคำพิพากษาของศาล ซึ่งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายดีมาก ส่วนจะอุทธรณ์หรือไม่ จะประชุมกับทีมทนายความ ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ช่วงบ่ายวันที่ 22 ธันวาคมอีกครั้ง เพราะยังสงสัยเรื่องการกำหนดค่าเสียหายที่พึงจะได้รับ ส่วนค่าสินไหมทดแทนที่ศาลสั่งจ่าย แตกต่างกันออกไป ทั้งค่าไร้อุปการะค่ารักษาพยาบาล ค่าเดินทาง และค่าทุกข์ทรมานจากการรักษาอาการบาดเจ็บ และคาดว่าทางฝ่ายจำเลยจะยื่นอุทธรณ์เช่นกัน เพื่อยืดเวลาการจ่ายค่าเสียหายออกไป ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุผ่านมาแล้ว 5 ปี ฝ่ายจำเลยไม่เคยมาพบหรือพูดคุยกับผู้เสียหาย