วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
แตกใบอ่อน : ยิ่งช้ายิ่งเสียโอกาส

แตกใบอ่อน : ยิ่งช้ายิ่งเสียโอกาส

วันพฤหัสบดี ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558, 06.00 น.
Tag :
  •  

ในที่สุดรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ต้องตัดสินใจใส่เกียร์ถอย ยอมยกเลิกร่างพ.ร.บ.คุ้มครองความปลอดภัยทางชีวภาพ หรือ “กฎหมายจีเอ็มโอ” ภายหลังจากเกิดกระแสกดดันคัดค้านอย่างหนักทั้งจากนักวิชาการ เอ็นจีโอ และที่สำคัญ คือ เกษตรกรไทย

ผมไม่ทราบเหมือนกันว่า เพราะอะไรที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงตัดสินใจสั่งให้ยกเลิกการนำเสนอร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว เพราะโดยข้อเท็จจริงแล้ว เหตุผลของกลุ่มผู้คัดค้านกฎหมายฉบับนี้ ก็เป็นข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เคยถูกหยิบมาพูดครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่ก่อนที่ ครม. จะให้ความเห็นชอบกฎหมายนี้อยู่แล้ว


แต่ก็เอาเถอะครับ ไม่ว่าจะยกเลิกด้วยเหตุผลอันใด แต่ในเมื่อมีการประกาศยกเลิกไปแล้ว ก็ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ยอมฟังเสียงประชาชน โดยเฉพาะเสียงจากเกษตรกรผู้อาจต้องได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หากกฎหมายฉบับนี้ผ่านกระบวนการพิจารณาและนำไปประกาศบังคับใช้ ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าว ก็น่าจะทำให้ทุกคนอุ่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็น “คนจริง” คนหนึ่งที่เมื่อรู้ว่าตนเองตัดสินใจผิดพลาดไปแล้วก็พร้อมจะแก้ไข

“คนดี” ต้องชอบแก้ไข แบบนี้ถือว่านายกฯทำถูกแล้ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝากต่อไปถึงนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หันกลับมามองทิศทางการสนับสนุน “เกษตรอินทรีย์” และนำไปขับเคลื่อนกันอย่างจริงจังมากขึ้น

เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า โดยเนื้อในของนโยบาย “เกษตรอินทรีย์” ในบ้านเรา ยังมีสิ่งที่หละหลวมอยู่มาก และเป็นเพียงแค่เปลือกนอกที่เราใช้เป็น “จุดขาย” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสินค้าเกษตรและอาหารของเราให้นานาชาติเกิดความมั่นใจเท่านั้น

ทั้งที่โดยข้อเท็จจริงแล้วระบบ “เกษตรอินทรีย์” ในบ้านเรายังเป็นแค่ “วุ้น” เพราะยังมีการใช้สารเคมีทางการเกษตรกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งไม่ต้องใช้อะไรพิสูจน์มากมาย ดูเพียงแค่ตัวเลขการนำเข้าปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง และสารเคมีทางการเกษตรต่างๆ ของประเทศไทยที่สูงขึ้นๆ ทุกปี ก็พอจะเป็นเครื่องสะท้อนให้เราทราบได้ถึงปริมาณการใช้สารเคมีในภาคการเกษตรบ้านเราที่ขยายวงออกไปอย่างแพร่หลาย ไม่เคยลดลงเลย

และนี่ก็ย่อมหมายถึงระบบ “เกษตรอินทรีย์” ในบ้านเรายังไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ถ้าเกิดขึ้นจริง ปริมาณการนำเข้าสารเคมีก็ควรต้องลดลง ไม่ใช่เพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน เมื่อหันไปดูงบประมาณของกระทรวงเกษตรฯ ที่ตั้งไว้สำหรับการดำเนินงานด้านเกษตรอินทรีย์ ก็ต้องถือเป็นเม็ดเงินที่น้อยมาก เพราะมีเพียงประมาณ 0.7% ของจำนวนงบประมาณทั้งหมดที่กระทรวงได้รับ

ดังนั้นจึงต้องขอฝากไว้กับรัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ ให้ช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นจริงอีกสักเรื่อง เพราะ “เกษตรอินทรีย์” ไม่ได้เป็นเพียงหนทางที่ทำให้เกิดความมั่นคงทางอาหารมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้สารเคมี ลดการนำเข้า และที่สำคัญ คือ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกรและประชาชน

นอกจากนี้ ยังต้องไม่ลืมว่า กระแสผู้บริโภคทั่วโลกเวลานี้ต่างให้ความสำคัญต่อผลกระทบเรื่องสุขภาพ จึงทำให้ตลาดเกษตรอินทรีย์ยังมีอนาคตอีกไกล ดังนั้นประเทศไทยซึ่งได้ประกาศกับทั่วโลกว่า เราจะเป็น “ครัวของโลก” เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรและอาหารชั้นนำของโลก จึงควรต้องรีบตื่นตัวและให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์ “เกษตรอินทรีย์” ให้มากขึ้นกว่านี้

ยิ่งช้ามากเท่าไร ก็จะยิ่งเสียโอกาสของเราเองไปมากเท่านั้น

มะลิลา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • มกอช.ย้ำมาตรฐานล้งทุเรียนต้องขออนุญาตก่อนส่งออก มกอช.ย้ำมาตรฐานล้งทุเรียนต้องขออนุญาตก่อนส่งออก
  • ‘ซีพีเอฟ’คิกออฟ‘กองทุนปลากะพงขาว’ ช่วยเกษตรกรกำจัด‘ปลาหมอคางดำ’ในบ่อเลี้ยงหอยแครง ‘ซีพีเอฟ’คิกออฟ‘กองทุนปลากะพงขาว’ ช่วยเกษตรกรกำจัด‘ปลาหมอคางดำ’ในบ่อเลี้ยงหอยแครง
  • \'เลขาธิการ มกอช.\'ย้ำมาตรฐานใหม่\'ล้งทุเรียน\'บังคับใช้ 10 ก.ค.นี้ ต้องขอใบอนุญาตก่อนส่งออก 'เลขาธิการ มกอช.'ย้ำมาตรฐานใหม่'ล้งทุเรียน'บังคับใช้ 10 ก.ค.นี้ ต้องขอใบอนุญาตก่อนส่งออก
  • 2 รมต.เกษตรฯควง\'ธรรมนัส\'ลุย\'สกลนคร-ร้อยเอ็ด\' Kick off โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย 2 รมต.เกษตรฯควง'ธรรมนัส'ลุย'สกลนคร-ร้อยเอ็ด' Kick off โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย
  • ก.เกษตรฯหนุนสินค้าเกษตรท้องถิ่นมูลค่าสูง ก.เกษตรฯหนุนสินค้าเกษตรท้องถิ่นมูลค่าสูง
  • ก.เกษตรฯดันปลานิลแปลงใหญ่พื้นที่ชลบุรีต้นแบบ ก.เกษตรฯดันปลานิลแปลงใหญ่พื้นที่ชลบุรีต้นแบบ
  •  

Breaking News

ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

เชียงรายอ่วม!ฝนหนักทำน้ำท่วม 15 อำเภอ ปภ.เร่งสำรวจความเสียหายช่วย ปชช.

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved