เมาขับยึดรถ

ทหารจัดหนักรับปีใหม่

ยึดใบขับขี่-ส่งดำเนินคดี

ระดม7หมื่นนายคุมเข้ม

กพร.เช็คเครื่องยนต์ฟรี

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย(กกล.รส.) กล่าวถึงมาตรการดูแลสถานการณ์ช่วงเทศกาลปีใหม่ว่าได้สั่งให้หน่วยทหารในพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งจุดตรวจยานพาหนะ โดยเน้นถนนสายรอง ภายในหมู่บ้านโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ถ้าตรวจพบว่า ผู้ขับขี่ดื่มสุรา ขอให้ยึดรถไว้ชั่วคราวทันที แล้วหลังเทศกาลปีใหม่ ทางค่อยมานำคืนเจ้าของรถไปภายหลัง เพื่อปีใหม่ปีหน้าจะได้ฉลองอีก ส่วนถนนสายหลัก รถสาธารณะทั้งหมด โดยผู้ขับรถสาธารณะทั้งหมด ต้องไม่มีการดื่มสุราอย่างเด็ดขาด หากตรวจพบจะยึดใบอนุญาตขับขี่ พร้อมทั้งดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของรถด้วย

“การดูแลประชาชนของเจ้าหน้าที่ ถือว่าเป็นการให้ของขวัญปีใหม่กับประชาชน จัดงานรื่นเริง ก็ขอให้อยู่บ้าน ไม่ใช่ว่าดื่มสุราแล้ว อย่าออกไปไหน และอย่าใช้ยานพาหนะ จะไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน” พล.อ.ธีรชัย กล่าว

ส่วนพื้นที่ กทม.นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กำชับให้กวดขันดูแลแหล่งที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ขอให้ทุกคนเห็นใจเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจและพลเรือนด้วย

ด้าน พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญญา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เน้นย้ำให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเต็มที่ โดยใช้กำลังตำรวจกว่า 70,000นาย ร่วมกับ ทหาร เน้นอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้กับประชาชนที่จะเดินทางในช่วงวันหยุดยาว โดยให้กองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมกับ ทุกสถานีตำรวจ และตำรวจทางหลวง วางแผนระบายรถให้เกิดความเรียบร้อย คาดประชาชนจะเดินทางจำนวนมากช่วงคืนวันที่30ต่อเนื่องเช้าวันที่ 31ธันวาคม ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว

พร้อมกับเพิ่มความเข้มการตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดของผู้ขับขี่รถยนต์ โดยเฉพาะพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย หากตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน

ส่วนการรักษาปลอดภัยสถานที่จัดงานเคาท์ดาวน์ 5 จุดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ท่าเตียน เอเชียทีค จะมีการตรวจพื้นที่จุดสูงข่ม และสืบสวนหาข่าวอย่างใกล้ชิด และยืนยันการข่าวขณะนี้ ยังไม่พบการก่อเหตุความวุ่นวายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสหรือกลุ่มก่อการร้ายใดในประเทศไทย

ด้าน นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม7วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 30ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2558 ในต้นปี พ.ศ.2558 พบเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งสิ้น 2,997 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 341ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,117คน ทาง สพฉ.ร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมความพร้อมเพื่อลดการสูญเสียโดยได้รณรงค์ให้แต่ละพื้นที่หาจุดเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและจัดการแก้ปัญหาให้ได้อย่างน้อยจังหวัดละ 5 จุดเช่น จุดกลับรถ,ทางแยกทางร่วม,สภาพถนน จุดอับ,การกำหนดจุดห้ามจอดรถ และการวิ่งของรถขนาดใหญ่ เป็นต้น เชื่อว่าจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุและ ลดการสูญเสียได้ พร้อม ให้ความร่วมมือหลีกทางให้รถพยาบาลฉุกเฉินด้วย ให้คิดเสมอว่า ทุกวินาทีมีค่าสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินเสมอ

ทั้งนี้ ได้เตรียมพร้อมในศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669ให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง

และอยากขอร้องประชาชนทุกคนคือ อยากให้คิดว่า สายด่วน 1669 เป็นสายด่วนแห่งชีวิต ถึงแม้จะโทรฟรี ไม่ควรโทรเล่น อาจขัดขวางการทำงานและขัดขวางผู้ป่วยฉุกเฉินที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆโดยเฉพาะช่วงปีใหม่มีการแจ้งเหตุมากกว่าปกติ จึงเร่งรณรงค์ให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญสายด่วน หากยังทำผิดโทรมาป่วนอยู่ จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย

วันเดียวกัน นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เป็นประธาน พิธีเปิดโครงการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 พร้อมเปิดเวทีเสวนาความปลอดภัยทางถนน หัวข้อ“Drive Safe Be Safe อุบัติเหตุลดได้ แค่ไม่ขับเร็ว”เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ สร้างความตระหนักถึงอันตรายของการขับรถเร็วและกำกับดูแลรถโดยสารสาธารณระให้มีความปลอดภัย

โดยตั้งเป้าลดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสารให้น้อยที่สุด ภายใต้การดำเนินการรณรงค์ด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างเข้มข้นจริงจังทั่วประเทศ คุมเข้มตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานขับรถทุกคน ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ 100% หากตรวจพบแอลกอฮอล์ขณะปฏิบัติหน้าที่ มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน3เดือน หรือ ปรับตั้งแต่ 2,000-10,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ประกอบการขนส่ง มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาทด้วย

ทั้งนี้ ได้ตั้งจุดบริการอำนวยความสะดวกเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน บนถนนสายหลักจำนวน 189จุด ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าไปนั่งพักผ่อน คลายความเหนื่อยล้า มีบริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น นวดผ่อนคลาย บริการข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว และบริการตรวจสภาพรถเบื้องต้น

ขณะที่ นายกรีฑา สพโชค อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน(กพร.)กล่าวว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ มีวันหยุดหลายวัน กพร.ขอมอบของขวัญปีใหม่ เป็น“โครงการเดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไปกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน”ได้ให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค(สพภ.)และศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด(ศพจ.) ทั่วประเทศให้บริการตรวจเช็คสภาพรถยนต์และจักรยานยนต์ให้กับประชาชน ตั้งแต่วันที่ 23ถึง30 ธันวาคม ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย