แห่ขายที่นาหนีภัยแล้ง
พิจิตรเปิดศึกแย่งชิงน้ำ
ผู้ว่าฯเต้นวิกฤติลามกรุง
เมื่อวันที่ 12 มกราคม ความคืบหน้าของสถานการณ์ภัยแล้งหลายพื้นที่
แทบทั่วทุกภาคยังทวีความรุนแรงมากขึ้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ภัยแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 4 เซ็นติเมตร และยังลดลงต่อเนื่อง
ส่งผลให้นาข้าวในต.แพรกศรีราชา อ.สรรคบุรี กว่า 2 พันไร่ที่กำลังแตกยอดไม่มีน้ำเข้ามาหล่อเลี้ยงเริ่มแห้งตาย คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
ส่วนทีจ.ลพบุรีในพื้นที่หมู่ที่10 ต.ท่าวุ้ง อ.ท่าวุ้ง ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ลดลงส่งผลให้น้ำจากคลองชลประทานคลอง 8 ซ้าย หรือ คลองมหาราชแห้งขอดยาวหลายกิโลเมตรแล้ว ขณะที่ทางอำเภอหาแนวทางช่วยเหลือเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรช่วงหน้าแล้ง โดยให้หันมาเลี้ยงกบ เลี้ยงปลาดุก แทนสร้างรายได้ พร้อมทั้งรณรงค์ให้ชาวบ้านหันมาใช้โอ่งเก็บน้ำกินน้ำใช้น้ำอุปโภคบริโภคเพื่อลดรายจ่ายซื้อน้ำดื่ม
ส่วนที่จ.พิจิตรชาวนา หมู่ที่ 5 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก กว่า50 คน ได้รวมตัวบริเวณศาลาประชาคมหมู่บ้าน ที่บริเวณหมู่ที่ 6 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก ไม่พอใจ ที่ชาวนา หมู่ที่ 6 ที่อยู่ต้นน้ำลำคลองรถไฟใช้กระสอบทรายปิดกันทางทำให้ชาวนา หมู่ที่ 5ที่อยู่ปลายน้ำ ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง ต้นข้าวนาปรังโดยชาวนาหมู่ที่ 6 อ้างต้องกักน้ำไว้เพื่อสูบน้ำใส่นาข้าวนาปรังกว่า 1,000ไร่ทำให้ชาวนา 2 มีปากเสียงกันทำให้นายอำเภอต้องเข้าไปไกล้กลี่ย
ต่อมานายพยนต์ อัศวพิชยนต์ นายอำเภอบางมูลนาก นายกาญจนพิสิจ ด้วงทอง ประธานคณะกรรมการน้ำฯและ เจ้าหน้าที่ ตำรวจลงพื้นที่ได้เรียกชาวนาทั้ง2ฝ่ายเจรจา เพื่อยุติความขัดแย้งในการแย่งน้ำทำนา โดยขอร้องให้ชาวนาหมู่ที่ 6 เปิดทางน้ำให้ชาวนา หมูที่5 และแบ่งน้ำให้เท่ากัน ชาวนาหมู่ที่ 6 จึงยอมเปิดทางน้ำให้ชาวนาหมู่ที่ 5โดยให้เปิดท่อ 2 ท่อ ปิด 2 ท่อและให้ทั้ง 2 ฝ่าย ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานชาวนาทั้ง2 ฝ่าย ต่างพอใจจึงแยกย้ายกันกลับ
ขณะที่จ.บุรีรัมย์ สถานการณ์ภัยแล้ง พื้นที่ในจ.บุรีรัมย์เริ่มได้รับผลกระทบ แหล่งน้ำตามหมู่บ้านเริ่มแห้งขอด บางหมู่บ้านต้องซื้อน้ำจากรถเร่ขาย เนื่องจากแหล่งน้ำดิบทำน้ำประปาในหมู่บ้านเริ่มแห้ง ส่วนชาวบ้านพรสำราญ หมู่5 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง ได้ออกไปขุดปูนา กบ และเขียดกลางทุ่งนาเพื่อนำไปประกอบอาหาร และทำปูดอง ปูเค็ม แกงอ่อมปู ปูชุบแป้งทอด ถ้าเหลือก็นำไปขายในหมู่บ้าน กิโลกรัมละ40- 50บาทเป็นรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัวช่วงหน้าแล้ง
ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุดได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งแล้ว 8 อำเภอ ได้แก่ อ.ขามสะแกแสง ,อ.คง ,อ.บัวลาย ,อ.แก้งสนามนาง ,อ.โนนไทย ,อ.ด่านขุนทด ,อ.โนนสูง และอ.เทพารักษ์ รวม 59 ตำบล 641 หมู่บ้าน 49,027 ครัวเรือน พื้นที่เสียหายรวม 466,528 ไร่ เป็นพืชไร่11,373ไร่ นาข้าว 455,129ไร่ และพืชสวน26ไร่ เบื้องต้นนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประสานทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาในแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ชาวนาในพื้นที่ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ได้ติดป้ายประกาศขายที่นากันเป็นจำนวนมาก โดยนายบุญส่ง หวังวัดกลาง อายุ 45ปี เกษตรกร บ้านปราสาท อ.โนนสูง เผยว่า ตอนนี้มีประกาศขายนาหนีแล้งกว่า 20 รายเพื่อนำเงินไปลงทุนอาชีพอื่นๆ หลังจากแล้งติดต่อกัน 2-3 ปี สำหรับราคาที่นามีตั้งแต่ไร่ละ 60,000-120,000บาท แล้วแต่ทำเลที่ตั้ง ช่วงนี้มีนายหน้าค้าที่ดินจากในตัวเมืองและต่างจังหวัด แห่มาดูที่เพื่อเลือกซื้อกันอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าฯนครราชสีมา พร้อม นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และพ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานด้านกฎหมาย กองทัพภาคที่ 2 ได้นำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ลงตรวจสอบพื้นที่ บ่อขนาดใหญ่ เนื้อที่ 1,500ไร่ ลึก 30-50 เมตร ที่บ้านโกรก ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง ที่ผู้ประกอบการ 9รายขอยกให้จังหวัดเพื่อนำไปทำแก้มลิงกักเก็บน้ำแก้ภัยแล้งซึ่งจะใช้เป็นโมเดลแก้ภัยแล้งต่อไป
สำหรับกรุงเทพฯ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม. เป็นประธานการประชุมแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งพร้อม 9 ผู้อำนวยการเขต กลุ่มกรุงเทพฯตะวันออก เนื่องจากคาดว่ากทม.มีพื้นที่จะประสบภัยแล้ง 59,390 ไร่ มีเกษตรกรคาดจะประสบภัยแล้ง 3,869ครัวเรือน ทั้งนี้ผู้ว่าฯกทม.ยอมรับว่าคาดไม่ถึงว่าภัยแล้งจะเกิดเร็วมากขนาดนี้ ดังนั้นจะต้องมีการวางแผนการใช้น้ำให้น้อยลง และต้องเพิ่มแก้มลิงอีก 10 แห่งจากเดิมที่มีอยู่25 แห่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี