จัดการแถลงข่าวไปอย่างคึกคักท่ามกลางลมหนาว ที่สวนไม้งามริมน้ำกก ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย สำหรับโครงการก่อสร้างเสาธงชาติไทยที่สูงที่สุดในโลก (Thailand World Tallest Flag Pole Project) ที่อ.เชียงแสน จ.เชียงราย

โดยนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้ร่วมกับ นายตฤณ นิลประเสริฐ ประธานโครงการและประธานบริหารบริษัทตฤณ อินโนเวชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัทตฤณอินโนเวชั่น เชียงแสน จำกัด, พล.ต.พิศาล นาคผจญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37, Mr.David J Chamber ประธานบริหารบริษัทไทรเดนท์ ซัพพอร์ท, Mr. Khor Poh Kiang ผู้ร่วมจัดหาทุนในการก่อสร้าง, นายจักรพล บุญปั้น ผอ.ด้านวิศวกรรมศาสตร์, นายพฤฒิพล ประชุมผล ผอ.พิพิธภัณฑ์ธงชาติไทย, อ.วิโรจน์
ตั้งวาณิชย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านสื่อประชาสัมพันธ์ของโครงการและนายจิรายุส เสี่ยงสกุล ประธานกรรมการบริษัททูเก็ตเตอร์ (ไทยแลนด์)จำกัด ผู้ดูแลสื่อประชาสัมพันธ์ ชี้แจงรายละเอียด

นอกจากนี้ยังมี นายยุทธพิชัย ชาญเลขา ที่ปรึกษาโครงการและน้องทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ นางเอกชื่อดังพรีเซ็นเตอร์
โครงการ

นายบุญส่ง กล่าวว่า โครงการนี้เป็นสัญลักษณ์หรือแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดและประเทศไทยซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงรายที่ส่งเสริมให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล

“ถือเป็นโอกาสที่ดีที่อ.เชียงแสนจะมีเสาธงชาติไทยที่สูงที่สุดในโลก รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ AEC ใกล้สามเหลี่ยมทองคำติดกับประเทศพม่าและลาว เป็นเส้นทางที่จะเข้าไปยังประเทศจีนซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกมาก โดยจะมีการบันทึกลงกินเนสส์บุ๊คซึ่งจะเสร็จสิ้นในปี 2560 เป็นปีที่ครบรอบ 100 ปี ธงชาติไทยด้วย”ผวจ.เชียงราย กล่าว

ด้านนายตฤณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้เห็นความวุ่นวายในบ้านเมือง มีการนำเสาธงชาติไทยมาตีกัน จึงเกิดความไม่สบายใจ
เพราะธงชาติไทยเป็นศูนย์รวมของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ตลอดจนอยากจะสร้างสัญลักษณ์ให้กับประเทศชาติให้เป็นจุดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว จึงได้ริเริ่มโครงการ ในที่สุดได้รับการคัดเลือกให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่จะสร้างเสาธงที่สูงที่สุดในโลกโดยสูงถึง 189 เมตร โดยผืนธงจะมีขนาด 60x70 เมตร ทำลายสถิติโลกปัจจุบันซึ่งอยู่ที่เมืองเจดาร์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย สูง 171 เมตร

พื้นที่โครงการทั้งหมด 269 ไร่ ซึ่งในส่วนของเสาธงจะมีเนื้อที่ 40 ไร่ นอกจากเสาธงชาติไทยแล้ว บริเวณโดยรอบเรายังจัดเป็นสวนพันธุ์ไม้นานาชาติทั้งแบบเปิดและแบบปิด เพื่อเพิ่มความสวยงามและเป็นที่ท่องเที่ยวไปด้วย มีตัวอาคารหอเกียรติยศชาติไทยซึ่งจะมีธงประจำจังหวัดมารวมกันที่นี่ จัดแสดงประวัติการก่อสร้างเสาธงชาติไทยที่สูงที่สุดในโลก รวมทั้งมีสินค้าที่ระลึกของโครงการมีอาคาร Duty Free Thailand จำหน่ายสินค้าปลอดภาษีและสินค้าโอท็อปที่มีคุณภาพส่งออก มีห้องประชุมนานาชาติ มีศูนย์มัลติมีเดียธงชาติไทยอันทันสมัย มีหอศิลปชาติไทย เป็นต้น

โดยเดือนมกราคม-มีนาคมนี้จะเริ่มทำการสำรวจดิน โดยวิศวกรจากไทยเด้นท์ ซัพพอร์ท และเริ่มก่อสร้างฐานรากประกอบ
เสาธง 12 ชิ้น ความสูง 189 เมตร ในเดือนเมษายน 2559-มีนาคม 2560 ทั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จชักธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา
ธงชาติไทยที่สูงที่สุดในโลกและบันทึกเป็นสถิติโลก โดยกินเนสส์บุ๊คปี 2560 เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ

“โครงการนี้ใช้งบประมาณในการทำมากกว่า 2 พันล้านบาทเงินทุนหลักเป็นของบริษัทตฤณ อินโนเวชั่นส์ กรุ๊ป และแหล่งเงินทุน
ในและต่างประเทศ โดยไม่ใช้งบใดๆ ของแผ่นดินเลย เพราะคณะผู้จัดสร้างไม่มีนโยบายที่จะขอรับการสนับสนุนเงินทุนใน
การก่อสร้างจากภาครัฐ เอกชน หรือหน่วยงานใดๆ ทั้งสิ้น เราภาคภูมิใจที่ทางภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เนื่องจากบริเวณนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวกันอย่างมากในอนาคต เพราะเสาธงชาติสูงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใกล้กับสามเหลี่ยมทองคำ แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นรู้จักกันไปทั่วโลก ในนาม Golden Triangle” นายตฤณ กล่าว