15 มี.ค.59 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมโรงเรียนบ้านหนองบัวเรณ ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท.คมพิสิทธิ์ รัตน์กุศลศิริ สารวัตร (สอบสวน) สภ.ขุนหาญ เจ้าหน้าที่ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ และตัวแทนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ 4 ได้เข้าร่วมประชุมกับ น.ส.เพ็ญศรี สารีบุตร ผอ.โรงเรียนบ้านหนองบัวเรณ เพื่อร่วมกันพิจารณาถึงเรื่องที่มีนักเรียนของโรงเรียนบ้านหนองเรณแจ้งว่าถูกรถตู้พยายามจะจับตัวขึ้นรถ

พ.ต.ท.สังวาลย์ รางสถิต รรท.ผกก.สภ.ขุนหาญ กล่าวว่า กรณีที่เด็กนักเรียนสองพี่น้อง คือ ด.ญ.นุ้ย (นามสมมติ) อายุ 10 ปี และน้องชายชื่อ ด.ช.น้อย (นามสมมติ) อายุ 8 ปี นักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ได้แจ้งผู้ปกครองว่า มีคนร้ายที่มากับรถตู้สีขาว ทะเบียน กข 2350 ไม่ทราบหมวดจังหวัด โดยคนร้ายใส่หมวกคลุมหน้าแบบไอ้โม่ง พยายามจะจับตัวน้องชายขึ้นรถตู้ แต่จังหวะนั้นมีรถจักรยานยนต์วิ่งผ่านมาคนร้ายจึงรีบขึ้นรถหนีไป

พ.ต.ท.สังวาลย์ กล่าวต่อไปว่า จากการที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุที่เด็กอ้างว่า มีรถตู้มาจอดและพยายามจะจับตัวน้องชายขึ้นรถ จากการสอบถามหาเบาะแสคนร้ายและรถตู้ต้องสงสัย โดยตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตามถนนหลายสาย ก็ไม่ปรากฏรถตู้ลักษณะตามที่เด็กแจ้งเลย และตรวจสอบข้อมูลคนหาย ในพื้นที่ใกล้เคียง  และพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 3 ก็ไม่มีการแจ้งคนหาย ถ้ามีเด็กอยู่ในรถ 5-6 คนอยู่ในรถจริง ก็ต้องมีข้อมูลการแจ้งคนหายแล้ว

"กรณีนี้ น่าจะเกิดจากเด็กจินตนาการ หรือคิดเอาเอง เพราะอาจจะเคยได้ยินผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง หรือพูดขู่ว่าถ้าพบรถตู้ให้ระวังคนร้ายขโมยเด็ก จึงทำให้เด็กคิดเอาเองว่าเห็นเด็กอยู่ในรถ จึงเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะไม่มีความจริง" พ.ต.ท.สังวาลย์ กล่าว.