นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากนโยบายของ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ทุกหน่วยงานขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตรภายใต้การบริหารจัดการพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการผลิตโดยเกษตรกร หรือองค์กรเกษตรกรในพื้นที่ รวมทั้งทำให้เกิดเศรษฐกิจขนาดใหญ่เพื่ออำนาจการต่อรองของเกษตรกร ตลอดจนกระบวนการผลิต การจัดการปัจจัยการผลิต การเก็บเกี่ยวการจัดการหลังการผลิต การแปรรูปเบื้องต้น และการตลาด
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ร่วมขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว โดยปีงบประมาณ 2559 ได้ดำเนินการอบรมการจัดทำบัญชีแก่เกษตรกรสมาชิกแปลงใหญ่ไปแล้ว 188 แปลง 18,298 ราย แบ่งเป็น แปลงต้นแบบ 76 แปลง 8,903 ราย แปลงทั่วไป 112แปลง 9,395 ราย และได้พัฒนาฐานเรียนรู้ด้านบัญชีประจำศูนย์เรียนรู้ 185 ฐาน และจัดหาครูบัญชีอาสาประจำศูนย์เรียนรู้ 1,041 ราย ผ่านสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ทั้ง สำนักงานเกษตรจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด เพื่อนำครูบัญชีอาสา Smart Farmer ที่มีความรู้ในอาชีพเกษตรเฉพาะด้าน ซึ่งเป็นเครือข่ายในพื้นที่ ดำเนินการอบรมการจัดทำบัญชีให้แก่เกษตรกรในพื้นที่เกษตรแปลงใหญ่ เพื่อเป็นแนวทางลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเกษตรกร นอกจากนี้ยังให้ความรู้การจัดทำบัญชีแก่เกษตรกรสมาชิกศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร เพื่อให้เกษตรกรเห็นประโยชน์ของการจัดทำบัญชี และสามารถนำข้อมูลบัญชีไปใช้ในการประกอบอาชีพ และสามารถลดต้นทุนการผลิตได้
นายสุรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว โดยครูบัญชีอาสาจะเป็นต้นแบบด้านการทำบัญชี พร้อมสอนเกษตรกรให้ทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนอาชีพ ทำให้เกษตรกรรู้รายรับ รายจ่าย สามารถคำนวณกำไร-ขาดทุนต่อรอบการผลิต และรู้ค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพของตนเอง ขณะเดียวกันยังสามารถนำข้อมูลทางบัญชีมาวางแผนการผลิต และปรับลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และมีเงินเหลือเก็บหรือปลดหนี้สินได้ และสามารถบริหารจัดการผลผลิตและการตลาดของตนเองได้ต่อไปในอนาคต