24 มี.ค. 59 สภ.เมืองอุดรธานี พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายทวีศักดิ์ เกษมราช อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 1 ตำบลตาลโกน อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีดพกแบบพับ 1 เล่ม กางเกงเปื้อนคราบเลือด 1 ตัว ในข้อกล่าวหาวฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2559 เวลาประมาณ 01.45 น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งพบศพมีผู้เสียชีวิตที่บริเวณกลางซอยประชาอุทิศ 2 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี ทราบชื่อต่อมา คือ นางสาวชมัยพร รวงผึ้ง อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 1 ตำบลท่าศิลา อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร มีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่บริเวณลำคอและใบหน้าหลายแห่งรวม 16 แผล เจ้าที่ตำรวจสืบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้คือนายทวีศักดิ์ฯ ซึ่งเป็นแฟนของผู้ตาย และภายหลังก่อเหตุได้หนีไปกบดานที่บ้านญาติที่อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกสืบสวนติดตามจนสามารถจับตัวได้หลังกลับมายังบ้านพักที่ ตำบลตาลโกน อำเภอสว่างแดนดิน

จากการสอบสวนนายทวีศักดิ์ฯ ยอมรับสารภาพว่า ตนเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้จริง ก่อนเกิดเหตุตนได้คบหาเป็นแฟนกับผู้ตายได้ประมาณ 6 เดือน โดยตนได้พบรักกันขณะที่ทั้งสองคนทำงานที่กรุงเทพฯระหว่างที่คบหากัน ตนจะมีปากเสียงทะเลาะกันตลอดเวลา เนื่องจากผู้ตายมีชายอื่นมาติดพัน ประกอบกับตนมีนิสัยเป็นคนหึงหวงวาดระแวง กลัวว่าแฟนจะหนีไปมีชายอื่น และเวลาทะเลาะกันตนมักทำร้ายร่างกายแฟนเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 สัปดาห์ ตนและแฟนได้กลับมายังบ้านของแฟนที่อำเภอสว่างแดนดิน ระหว่างพักอาศัยอยู่ด้วยกัน ตนก็มีปากเสียงทะเลาะกันอีกจนขึ้นโรงพักทำข้อตกลงว่าจะไม่ทะเลาะกันอีก จากนั้นตนได้พาแฟนมาสมัครงานที่ โรงแรมแห่งหนึ่ง อำเภอเมืองอุดรธานี พร้อมกับเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ ที่ทำงาน ระหว่างแฟนทำงาน ตนก็หวาดระแวงและเป็นห่วง ว่าผู้แฟนจะมีชู้ จึงมีปากเสียงทะเลาะกันอีก และเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ตนได้กลับบ้านที่จังหวัดสกลนคร และขับขี่รถจักรยานยนต์มาหาผู้ตายที่โรงแรมและรับกับห้องพัก เพื่อปรับความเข้าใจ แต่ก็ไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ ระหว่างทางผู้ตายได้โทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนคิดว่าผู้ชายโทรหาชายชู้ จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ พร้อมใช้มีดที่พกติดตัวมาแทงเข้าที่ลำคอและใบหน้าจำนวนหลายครั้ง จากนั้นได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านญาติที่อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ขณะกลับมาที่บ้านพักที่อำเภอตากโกน อำเภอสว่างแดนดินจังหวัดสกลนคร  ทางเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสาระภาพ แล้วนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป