เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 26 เมษายน เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจสนธิกำลังจำนวน 350 นาย นำโดย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา และพ.อ.ธนุตม์ พิศาสสิทธิวัฒน์ ผบ.ฉก.ทพ.4 เข้าทำการปฏิบัติการตามกฎหมายในการเข้าปิดล้อมเป้าหมาย 13 จุด ในพื้นที่ อ.กรงปินัง และ อ.บันนังสตา หลังมีการขยายผลจากการซักถาม ผู้ต้องสงสัย ที่ควบคุมตัวได้ในกรณีเหตุคาร์บอม ที่ศูนย์โตโยต้า อ.เมือง จ.ยะลา แต่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้ เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุม ตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคง ได้ 4 ราย คือ นายอับดุลรอหิ สนิมิง อายุ 43 ปี นายรอพา มะมูเลาะ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 217 หมู่ 9 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา นายอาลี เจะอุบง อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 67 หมู่ 8 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตาจ.ยะลา มะตอเฮ สิแล อายุ 39ปี บ้านเลขที่ 86 หมู่ 9 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา พร้อมเชิญตัวผู้ต้องสงสัย อีก 5 ราย เพื่อเข้ากระบวนการซักถามขยายผลต่อไป
มีรายงานว่า สำหรับประวัติของนายอับดุลรอหิ สนิมิง อายุ 43 ปี มีชื่อจัดตั้งว่า’เป๊าะลง’เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับแกนนำ มีหน้าที่อบรม บรรยาย เพื่อชักชวนให้เข้าร่วเป็นสมาชิกของขบวนการ จบการศึกษาจากประเทศอินโดนีเซีย เป็นอดีตครูสอนศาสนาโรงเรียนตาดีกา บ้านมาแบ หมู่ 4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา
มีคดีสำคัญ ที่เชื่อว่าร่วมก่อเหตุหลายคดี คือ ลอบยิง จนท.ทหาร เสียชีวิต เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2547 ที่บ้านอาเส็น อ.ยะหา จ.ยะลา ร่วมกันลอบยิงนายมะดาโอ๊ะ ดูแวมะ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ร่วมกันลอบยิงนายสิทธิชัย จันทร์อภิบาล เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2551 ร่วมกันลอบวางระเบิด จนท.ทหารที่บ้านแบแจง หมู่ 5 ต.สะเอะ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552
และเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2553นายอับดุลรอหิได้เลื่อนตำแหน่งเป็นแกนนำ แทนนายมะกาตาร์ หามะ ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับ เจ้าหน้าที่ โดยเชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนเฮชเค33 อยู่ในกลุ่มเดียวกับ นายฮูไบดีละห์ รอมลี แกนนำก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่และมีหลักฐานเชื่อว่านายอับดุลรอหิ สนิมิง เข้าร่วมปฎิบัติการก่อเหตุยิงรถตู้โดยสารสายหาดใหญ่-เบตง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ที่บ้านอุเบง หมู่ 4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2550ที่ผ่านมา
ด้านพล.ต.ต. อิทธิพล กล่าวว่า การปฎิบัติการครั้งนี้ เป็นผลมาจากการขยายผลจากการซักถาม รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.กรงปินัง และ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ในการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ จนนำไปสู่การควบคุมตัวกลุ่มคนร้ายได้
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด จยย.บอมบ์ 2 จุด ในเขตพื้นที่อ.เมืองนราธิวาส เมื่อเที่ยงวันที่ 25 เมษายน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ18 คน เสียชีวิต1 คน บ้านเรือนและรถยนต์ประชาชนเสียหายนั้นโดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์10 ราย ขณะที่ ส.ต.ท.ณรงค์เดช รอดมาก บาดเจ็บสาหัส ถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแพทย์ให้กลับบ้านแล้ว 9 ราย
นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงภาพรวมว่าเหตุครั้งนี้ทำให้รับรู้ได้ว่าประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ตนเองมากขึ้น และได้เตรียมจัดทำท่อบังเกอร์ไว้บริเวณหน้าบ้าน และหน้าร้านของประชาชนเพื่อความอุ่นใจและลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นอีก
ขณะที่พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีว่านำภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อแกะรอยคนร้ายที่ก่อเหตุโดยแกะพฤติกรรมของคนร้ายอย่างละเอียดที่สุด ทั้งรถจักรยานยนต์ ชุดที่คนร้ายสวมใส่ในวันก่อเหตุ ตำนิรูปพรรณคนร้ายเพื่อนำเปรียบเทียบกับแฟ้มประวัติอาชญากรรมในพื้นที่ คาดว่าจะรู้กลุ่มคนร้ายในเร็วๆนี้
ด้านพ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลก ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารและฝ่ายปกครอง ในการตั้งจุดตรวจหลัก 3 จุด ที่มุ่งหน้าสู่เทศบาลเมืองสุไหงโกลก เพื่อตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิด และบุคคลที่ขี่รถ จยย.หลังสืบทราบเบาะแสว่า คนร้ายมีเป้าหมายจะลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโกลกต่อจาก อ.เมืองนราธิวาสที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิด จยย.บอมบ์ 2 จุด
เวลา 07.30 เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิด เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 1 ต้น ริมถนนภายในหมู่บ้าน บ.ต้นหยี ม.7 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ คาดว่ากลุ่มคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์และตอบโต้เจ้าหน้าที่ ที่ได้ปฏิบัติการเชิงรุกมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี