29 เม.ย. 59 พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) พร้อมทหารชุดประสานงานประจำพื้นที่ (ร้อย รส.) และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่โครงการพัฒนาห้วยแม่เพรียง ตามพระราชดำริ ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีนายตำรวจระดับสูง ยศ "พ.ต.อ." และนายทุนผู้มีอิทธิพล บุกรุกพื้นที่ของโครงการฯ โดยมีการซื้อขายเปลี่ยนมือเพื่อสร้างรีสอร์ท
พ.ต.อ.บัญชา เปิดเผยว่า เดิมพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนยางน้ำกลัดเหนือ ยางน้ำกลัดใต้ ต่อมา กองพลพัฒนาที่ 1 ค่ายสีสุริยวงค์ จ.ราชบุรี ขอใช้พื้นที่ป่าจากกรมป่าไม้ และมอบให้หน่วยทหารค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เป็นผู้จัดสรรที่ดินให้ประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่ หมู่ 4 หมู่ 5 และ หมู่ 6 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน เข้าใช้ประโยชน์ทำกินจำนวน 38 ไร่ต่อ 1 ราย โดยกำหนดประชาชนผู้ได้รับการจัดสรรพื้นที่ทำกินสามารถโอนสิทธิพื้นที่ประกอบอาชีพให้เป็นมรดกไปยังทายาทได้ แต่ไม่สามารถขายเปลี่ยนมือได้ เพราะมอบให้ทำกินแต่ไม่ได้มอบให้เป็นเจ้าของหรือมีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน หากผู้ได้รับการจัดสรรเดิมสละสิทธิ์ ต้องคืนพื้นที่ให้กับหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบเท่านั้น ไม่สามารถมอบให้บุคคลอื่น
พ.ต.อ.บัญชา เผยต่อว่า แต่ปัจจุบันพบว่าที่ดินดังกล่าว มีการเปลี่ยนมือขายให้แก่นายทุนไปครอบครองสร้างรีสอร์ทและแคมป์ดูนก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. จึงสั่งการให้ตนนำกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ พบว่ามีนายตำรวจระดับสูง ยศ "พ.ต.อ." นายหนึ่ง เข้ามาครอบครองทำประโยชน์แทนเจ้าของที่ดินเดิม ที่บริเวณอ้างเก็บน้ำห้วยไฝ่ หมู่ 6 ต.ห้วยแม่เพรียง โดยได้ทำการซื้อขายแปลงปลูกป่า จำนวน 22 ไร่ ในการตรวจสอบครั้งนี้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ เนื่องจากประตูทางเข้าไร่ของนายตำรวจยศ พ.ต.อ. ได้คล้องโซ่ล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา แต่ตรวจสอบจากภายนอกด้วยสายตา พบมีการปลูกบ้านจำนวน 2 หลัง มีแปลงปลูกสับปะรด กล้วย และแก้วมังกร จำนวนหลายไร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐาน และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมทั้งเชิญนายตำรวจยศ พ.ต.อ. มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
พ.ต.อ.บัญชา กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบรีสอร์ทอีกหลายแห่ง กระทำผิดบุกรุกพื้นที่ป่า ทั้งสร้างรีสอร์ทและแคมป์ส่องนก เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ฐานกระทำการทำลายป่า ยึดถือครองป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานกระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 มาตรา 9 และฐานกระทำผิดเข้าไปยึดถือครอบครอง ทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพ ที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ดำเนินคดีเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี