เกษตรกรอ่วม
ยอดป่วยเซ่นพิษเคมีพุ่ง
เสี่ยงติดสารพัดโรค
‘มะเร็ง-เซ็กซ์เสื่อม’
นายกฯย้ำมุ่งปฏิรูป
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับ “วันเกษตรกร” มีข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พบว่า ในปี 2559 เกษตรกรไทยป่วยจากพิษของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มสูงขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2553 ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวปราศรัยย้ำว่ารัฐบาลมุ่งปฏิรูปภาคการเกษตรจริงจัง เพื่อสร้างความเข้มแข็งทั้งระยะสั้นและระยะยาว
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สาธารณสุข) กล่าวเมื่อวันที่ 8พฤษภาคม ว่า ปัจจุบันเกษตรกรไทยมีจำนวน 11.9 ล้านคน จากข้อมูลสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ พบว่า ในรอบ 5 ปี มีเกษตรกรป่วยจากพิษของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพิ่มสูงขึ้น 4 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่พบผู้ป่วย 1,851 ราย เพิ่มเป็น 7,954 ราย ในปี 2557 ผู้ป่วยมากที่สุด คือ จ.หนองบัวลำภู และจากการตรวจคัดกรองความเสี่ยงด้านสุขภาพของเกษตรกร เมื่อปี 2558 จำนวน 341,039 ราย พบว่า มีความเสี่ยงไม่ปลอดภัยจากการสัมผัสสารเคมีกำจัดศัตรูพืชร้อยละ 32
รมว.สาธารณสุข กล่าวอีกว่า ดังนั้นตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา สธ.จึงพัฒนารูปแบบการจัดระบบบริการดูแลสุขภาพเกษตรกร โดยจัดตั้ง “คลินิกสุขภาพเกษตรกร” ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) และพัฒนาเป็นการจัดบริการอาชีวอนามัยให้กับแรงงานในชุมชน นอกจากนี้ยังประสานกับผู้นำชุมชน และหน่วยงานท้องถิ่นให้คำแนะนำ เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานของเกษตรกร เน้นลด ละ เลิกการใช้สารเคมี ซึ่งขณะนี้เปิดบริการแล้ว 3,333 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 33 ตั้งเป้าหมายให้ได้ร้อยละ 40 ของ รพ.สต.ทั้งประเทศ ในปี 2559 และจะเร่งขยายให้ครอบคลุมพื้นที่ทำการเกษตรทุกแห่งต่อไป
ด้าน นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผลกระทบจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช มีทั้งระยะเฉียบพลัน คือ แสบตา แสบมือ ตาพร่ามัว ปวดศีรษะและกล้ามเนื้อ เป็นต้น ส่วนผลระยะยาว ทำให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคผิวหนังเรื้อรัง อาจรุนแรงถึงขั้นเป็นหมัน หรือเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้
สำหรับการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย ได้แก่ 1.อ่านฉลากก่อนใช้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 2.ใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากสารเคมีขณะทำงาน เช่น เสื้อผ้ามิดชิดรัดกุม หน้ากาก ถุงมือ 3.ถอดชุดและอุปกรณ์ทุกชิ้นที่ใช้ขณะฉีดพ่นหรือทำงาน แยกซักจากเสื้อผ้าอื่นๆ แล้วรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที และ 4.บรรจุสารเคมีจัดอยู่ในกลุ่มขยะอันตราย จึงต้องทิ้งแยกจากขยะทั่วไป และทิ้งให้ห่างไกลจากแหล่งน้ำป้องกันการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวคำปราศรัยเนื่องในวันเกษตรกรประจำปี 2559 ผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ว่า ภาคการเกษตรเป็นฐานรากในการผลิตอาหารให้ประชากรทั้งประเทศ เกษตรกรเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองเป็นอย่างมาก ทำให้เศรษฐกิจไทยเดินไปได้อย่างมั่นคง รัฐบาลจึงมุ่งมั่นปฏิรูปภาคเกษตรอย่างจริงจัง เพื่อให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้แก้ปัญหาระยะสั้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร เช่น สนับสนุนเงินทุนปัจจัยการผลิต ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เจาะน้ำบาดาล เร่งรัดมาตรการใช้ยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่าภายในประเทศ แก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย เป็นต้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรในระยะยาวนั้น รัฐบาลได้ปฏิรูปวางรากฐานสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ยึดเกษตรกรเป็นศูนย์กลาง บูรณาการหน่วยงานต่างๆ ปรับโครงสร้างสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการบริโภค และความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันการลดต้นทุน เพิ่มโอกาสการแข่งขันด้วยการส่งเสริมระบบเกษตรแบบแปลงใหญ่ให้เกษตรกรรายย่อยรวมกลุ่มเพื่อการผลิต สนับสนุนองค์ความรู้ผ่านศูนย์เรียนรู้ ซึ่งสามารถนำมาผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพ ขายได้ราคาสูง รวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชนเพื่อต่อยอดแปรรูปผลผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม
“ปีนี้ประเทศไทยประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง แต่รัฐบาลมีมาตรการต่างๆรองรับ เช่น ลดภาระการเช่าที่ดิน สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ส่งเสริมปลูกพืชใช้น้ำน้อย เปิดปฏิบัติหารฝนหลวงสู้ภัยแล้ง เร่งจัดสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็กให้กระจายครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูก ซึ่งรัฐบาลต้องการให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันตามนโยบายประชารัฐ เพื่อให้การขับเคลื่อนภาคเกษตรเจริญก้าวหน้า ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น รัฐบาลมีความมุ่งมั่นจัดทำนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรอดทน เข้มแข็ง และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้ เพื่อก้าวไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี