14 มิ.ย.59 พลเรือตรี กล้าหาญ เพ็ชรมีศรี รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ พร้อมด้วย นาวาเอกวีระชาติ ชั้นประเสริฐ เลขานุการคณะกรรมการการแข่งขันเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ นาวิกโยธินมาราธอน ประจำปี 2559  ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพ นาวิกโยธินมาราธอน ประจำปี 2559 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยมี สื่อมวลชนแขนงต่างๆเข้าร่วม ณ อาคารเอนกประสงค์  หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พลเรือตรี กล้าหาญ เพ็ชรมีศรี รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กล่าวว่าสำหรับการแข่งขันเดินวิ่งนาวิกโยธิน ปีนี้ถือเป็นการจัดขึ้นในปีที่ 2 มีกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2559 นี้ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความจงรักภักดีและทูนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งเพื่อร่วมกิจกรรมในวันทหารนาวิกโยธินมันเป็นวันสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของทหารนาวิกโยธิน รวมถึงเป็นการสร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างทหาร หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชน นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายและการพัฒนานักกีฬาตลอดจนการท่องเที่ยวในภูมิภาคและหารายได้สนับสนุนกองทุนช่วยเหลือกำลังพลนาวิกโยธินและครอบครัวที่สูญเสียจากการรบ และจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้หน่วยพยาบาลทหารนาวิกโยธินตลอดจนเพื่อดำเนินการในการพัฒนาหน่วยและสาธารณะประโยชน์ต่อไป

นาวาเอกวีระชาติ ชั้นประเสริฐ เลขานุการฯ  สำหรับการแข่งขันแบ่งออกเป็นการเดินเพื่อสุขภาพระยะทาง 3 กิโลเมตร, การแข่งขันวิ่งฟันรันระยะทาง 5 กิโลเมตร, การแข่งขันวิ่งมินิมาราธอนระยะทาง 10 กิโลเมตร, การแข่งขันวิ่งฮาล์ฟมาราธอนระยะทาง 21.1 กิโลเมตร และการแข่งขันวิ่งมาราธอนระยะทาง 42.1 กิโลเมตร โดยการแข่งขันเดินเพื่อสุขภาพแบ่งเป็น 2 ประเภทผู้แข่งขันอายุไม่เกิน 15 ปีและผู้ใหญ่ ส่วนการแข่งขันวิ่งนั้นในประเภทมินิมาราธอน ชาย กำหนดช่วงอายุผู้เข้าแข่งขันระหว่าง 16-19 ปี ไปจนถึง 70 ปีขึ้นไป ส่วนประเภทมินิมาราธอนหญิง กำหนดช่วงอายุผู้เข้าแข่งขันระหว่าง 16-19 ปี ไปจนถึง 60 ปีขึ้นไป สำหรับการวิ่งประเภทฮาล์ฟมาราธอนและมาราธอนชาย กำหนดช่วงอายุผู้เข้าแข่งขันระหว่าง 20-29 ปี ไปจนถึง 65 ปีขึ้นไป ส่วนฮาล์ฟมาราธอนและหญิง กำหนดช่วงอายุผู้เข้าแข่งขันระหว่าง 20-29 ปี ไปจนถึง 60 ปีขึ้นไป โดยเบื้องต้นมีรายงานว่าขณะนี้มีปอดเหล็กตอบรับร่วมสมัครเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้แล้วกว่า 5,500 คน