ช่วงเช้าวันที่ 20 มิถุนายน พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปทุมธานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแผงจำหน่ายเนื้อสัตว์ในตลาดสี่มุมเมือง ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเรื่องการจำหน่ายเนื้อหมูใส่สารบอแรกซ์ เพื่อทำให้เนื้อคงตัวได้นานไม่บูดเสียง่าย แต่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

พ.ต.ท.อภิชัย ไลออน รอง ผกก.4 บก.ปคบ. เปิดเผยหลังตรวจสอบว่า ได้ตรวจยึดและเก็บตัวอย่างเนื้อหมู 36 แผง เบื้องต้นพบสารบนเปื้อน 8 แผง จะนำส่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งหากผลยืนยันว่ามีการใส่สารบอแรกซ์ก็จะดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายทันที

ดร.ภญ.เกศแก้ว เจ๊ะโส้ รองนายแพทย์ สสจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ปัจจุบันมีพ่อค้าแม่ค้าใช้สารเคมีในเนื้อสัตว์จำนวนมาก การบริโภคอาจเกิดอันตราย จึงฝากเตือนประชาชนระมัดระวังการกินอาหารที่มีลักษณะกรอบเด้ง อยู่ได้นานผิดปกติ หรือเนื้อหมูมีสีแดงเกินไป ควรหลีกเลี่ยง

ขณะที่ น.ส.ภัทรภร ภิรภาสธนากุล เจ้าของร้านขายหมูร้านหนึ่งในตลาดเผยว่า ส่วนมากจะใส่สารกันบูดในหมูบดต่อเมื่อลูกค้าสั่งเท่านั้น และส่วนใหญ่จะใส่สารบอแรกซ์กันทุกร้าน เพราะถ้าใส่แล้วเนื้อหมูจะอยู่ได้นาน เนื้อหมูจะไม่มีกลิ่น

ด้าน ศ.ทรงศักดิ์ ศรีอนุชาต ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันบอร์แรกซ์เป็นสารต้องห้ามใช้ผสมในอาหารและกิจการอาหารทุกประเภท หากพบว่ามีการผสมลงไป จะมีความผิดมีโทษรุนแรง เพราะสารตัวนี้มีอันตรายต่อร่างกาย 2 ระบบ คือ 1.กรวยไต ทำให้เกิดการอักเสบที่เนื้อเยื่อกรวยไต หากสะสมไปนานๆจะทำให้ไตวายหรือไตพิการได้ 2.สมองทำให้เกิดการอักเสบที่สมอง ทำงานไม่ปกติ เสื่อมการทำงาน เป็นผลกระทบที่รุนแรงมาก ส่วนผลกระทบระยะสั้นจะทำให้กระดูกอ่อนแอ

ทั้งนี้สารบอแรกซ์จะไร้สี ไร้กลิ่น การตรวจสอบทำได้โดยนำเนื้อหมูไปล้างในน้ำแล้วใช้กระดาษกรองหรือกระดาษชำระหนาๆชุบขมิ้น จุ่มในน้ำล้างเนื้อหมู หากเปลี่ยนจากสีเหลือง เป็นสีม่วงๆแดงๆแสดงว่ามีสารบอแรกซ์ปนอยู่