คาร์บอมบ์สุไหงโก-ลก

อาคาร-ร้านค้ายับเยิน

หวังทำลายการท่องเที่ยว

ช่วงก่อนฉลอง‘ฮารีรายอ’

สั่งคุมเข้มพื้นที่ชายแดนใต้

เมื่อเวลา 06.10 น. วันที่ 26 มิถุนายน พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุ
คนร้ายวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณถนนข้างกำแพงโรงเรียนบ้านสุไหงโก-ลก กับฐานปฏิบัติการณ์หมวดเฉพาะกิจ นปพ.นราธิวาส 33 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จึงนำกำลัง พร้อมด้วยชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.และทหาร รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ซากชิ้นส่วนรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิซู ไททัน สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียนและมีเศษชิ้นส่วนรถตกกระจัดกระจาย ปะปนกับชิ้นส่วนของแผงจำหน่ายสินค้าในรัศมีกว่า 100เมตร จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองสุไหงโกลก เข้าฉีดน้ำสกัดเพลิง พร้อมกันนั้นได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บ 2ราย คือ นายชัยวิทย์ อารีกูลชัย อายุ 40 ปี ซึ่งถูกสะเก็ดระเบิดที่หน้าผาก และนายซากีรัน มูเซาะ อายุ 19ปี ที่มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ ไปส่ง รพ.สุไหงโก-ลก

ทั้งนี้ ภายหลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุและพื้นที๋โดยรอบ พบรถกระบะคันดังกล่าวเหลือเพียงซากเครื่องยนต์ ส่วนแผงจำหน่ายสินค้าถูกระเบิดเสียหาย 9 แผง กำแพงฐานปฏิบัติการชั่วคราวของหมวดเฉพาะกิจ นปพ.นราธิวาส 33 พังถล่มลงมา ที่พักแบบน็อคดาวน์ 3 หลัง ได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังพบเศษกระจกโรงแรมพลาซ่า อาคารพาณิชย์ และโรงเรียนบ้านสุไหงโกลก รวมทั้งจักรยานยนต์ที่จอดไว้บริเวณนั้น ถูกแรงระเบิดเสียหายไปด้วย

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้ขับรถกระบะซึ่งบรรจุระเบิดทำคาร์บอมบ์ มาจอดไว้บริเวณแผงจำหน่ายสินค้า โดยมีคนร้ายอีกราย ขับจักรยานยนต์มารับคนร้ายที่ขับรถกระบะ แต่ทั้งสอง ได้มาพบตำรวจสายตรวจ สภ.สุไหงโกลก 4 นาย ที่ขับจักรยานยนต์มาสอบถามว่า นำรถกระบะ มาจอดในจุดดังกล่าวทำไม แต่คนร้ายไม่สนใจ และขับรถออกไป ทางตำรวจจึงขับไล่ตาม แต่ไม่พบตัว จากนั้นประมาณ 3นาที ก็เกิดระเบิดดังขึ้น ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ที่ต้องการสร้างสถานการณ์รายวัน

ต่อมา พ.ต.อ.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโกลก นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง พบว่าคนร้ายใช้รถกระบะคันดังกล่าวประกอบระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 80 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลรถนั้นเป็นรถที่โจรกรรมมาจาก นางนุรียัน วาเต๊ะ ซึ่งจอดไว้ที่ชายหาดนราทัศน์ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 และเป็นรถที่คนร้ายเคยนำมาร่วมก่อเหตุระเบิดห้างสรรพสินค้าที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2558

ด้าน พ.ต.อ.กองอรรถ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าทั่วเขตเทศบาลเมืองสุไหงโกลก และจุดตรวจต่างๆ ที่มุ่งเข้าสู่เขตเทศบาล เบื้องต้นพบว่าคนร้ายขับรถกระบะ มาจาก อ.สุไหงปาดี เลี้ยวรถที่แยกบุญยลาภ ก่อนมาจอดไว้ที่แผงจำหน่ายสินค้าจุดเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว

วันเดียวกัน ที่ ศูนย์ปฏิบัติการ อ.สุไหงโกลก ได้เปิดศูนย์เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดครั้งนี้ โดยมีผู้ได้รับผลกระทบคือทรัพย์สินเสียหาย ลงทะเบียนเพื่อขอความช่วยเหลือแล้ว 26 ราย โดยตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายนนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะเริ่มประเมินความเสียหาย เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

ขณะที่ นายแสงทอง ปรีชาวุมิเดช ประธานชมรมโรงแรมสุไหงโกลก ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นคนร้ายน่าจะต้องการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง สำหรับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียนั้น ยังอยู่ระหว่างถือศีลอดเดือนรอมฎอนและพื้นที่จุดผ่อนปรนริมแม่น้ำโก-ลกก็ปิดมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้บรรยากาศในพื้นที่ซบเซาซึ่งถือว่าเป็นปกติ โดยอีก 2สัปดาห์ ซึ่งจะเข้าสู่เทศกาลฮารีรายอ คาดว่าบรรยากาศการท่องเที่ยวน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ยืนยันว่าภาคเอกชนยังเชื่อมั่นการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และจะให้ความร่วมมือเพิ่มความเข้มงวดดูแลรักษาความปลอดภัยในส่วนของเอกชน

มีรายงานจากหน่วยข่าวความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับแจ้งจากสายข่าวในพื้นที่ ว่าเมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ประชุมแกนนำระดับพื้นที่ในอำเภอชายแดน จ.นราธิวาส ให้เตรียมแผนสร้างสถานการณ์ทุกรูปแบบในเขตเศรษฐกิจ และย่านชุมชนช่วงปลายเดือนรอมฏอน โดยยกเหตุระเบิดเรือ ที่ จ.ปัตตานี เป็นตัวอย่าง

ขณะเดียวกัน ที่ จ.สงขลา ทางหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย และคุมเข้มพื้นที่เสี่ยง ทั้ง 7อำเภอ อย่างสูงสุดทันทีภายหลังเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเช้าวันดียวกัน เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์ในช่วงส่งท้ายเดือนรอมฎอน โดยหน่วยข่าวแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่