3 ก.ค.59 จากกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาจากโลกโซเชียลว่า มี ข้าราชการหญิง ระดับปลัดอำเภอแห่งหนึ่ง ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ขณะเดินทางออกจากที่ว่าการอำเภอไปยังลานจอดรถยนต์ เพื่อเดินทางกลับบ้าน เจอคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นโดดเข้าชกใบหน้าอย่างแรงจนสลบ แล้ววิ่งหลบหนีไปเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 17.30 น. ของวันที่ 1 ก.ค.59
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายคือ นางวัชราพร ช้างขนุน อายุ 50 ปี ชาว ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ. นครปฐม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่งานปกครองปลัดอำเภอพุทธมณฑลจังหวัดนครปฐม
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเลขที่ของ นางวัชราพรช้างขนุน อายุ 50 ปี ปลัดอำเภอพุทธมณฑล พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พ.ต.อ.ทวี พรมมาลี ผกก.สภ.พุทธมณฑล และ พ.ต.ท.วิศรุต จันทร์สุวรรณ สว.สส. พ.ต.ต.กิตติ์พณ อุดมศิริพัชร สว.สอบสวน กำลังสอบปากคำ จึงได้เข้าสอบปากคำ สอบถามในเบื้องต้นทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 1 มิ.ย.59 ขณะที่ นางวัชราพร เลิกงานเดินลงจากที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล กับบุตรชาย อายุ 19 ปี ที่มารอเพื่อเดินทางกลับบ้านพร้อมกัน ขณะเดินมาที่รถยนต์จอดอยู่ที่ลานจอดรถด้านหน้าที่ว่าการอำเภอ เมื่อมาถึงรถนางวัชรากร ซึ่งเป็นคนขับ ได้เดินมาทางด้านประตูคนขับ ส่วนบุตรชายยืนอยู่ด้านประตูด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร
ระหว่างที่นางวัชราพร เปิดกระเป๋าหยิบกุญแจรถเพื่อกดรีโมตเพื่อเปิดล็อกประตู ปรากฏว่า มีชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ เดินรี่ออกมาจากลานจอดรถที่มีรถจอดด้านข้างปรี่เข้าหา และใช้หมัดชกเข้าที่ใบหน้าบริเวณโหนกแก้ม อย่างจังจนล้มสลบด้านข้างรถ จากนั้นก็วิ่งหนีไปทันที
ส่วนบุตรชายเห็นแม่ถูกทำร้ายล้มลงเห็นคนร้ายวิ่งหนีจึงรีบวิ่งติดตามออกไป คนร้ายวิ่งหนีเข้าไปในตลาดสดศาลายา ซึ่งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเพียงแค่ 100 เมตร วิ่งทะลุออกทางด้านหลังตลาด และวิ่งข้ามทางรถไฟ ตัดออกถนนด่านหลัง ซึ่งมีรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นอีกคนรอรับอยู่กระโดดขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วบึ่งหนีหายไปขณะเดียวกันบรรดาเพื่อนข้าราชการที่ทำงานอยู่ด้วยกันได้นำตัว นางวัชราพร ที่ร่างหมดสติ ส่งรักษายังโรงพยาบาลพุทธมณฑล ตรวจดูอาการโดยเฉพาะที่ใบหน้าโหนกแก้มด้านซ้ายเป็นรอยช้ำบวมปูด แต่แพทย์ตรวจดูที่สมองปรากฏว่า ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนจึงให้กลับมาดูแลที่บ้าน โดยมอบหมายให้บุตรชายไปแจ้งความที่ สภ.พุทธมณฑล ให้ทราบในเบื้องต้น จากนั้น ตร.ได้เข้าตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดหลายจุดตั้งแต่ที่บริเวณหน้าอำเภอ จนกระทั่งตลาดบางจุด และพบว่ากล้องวงจรปิดจุดด้านหน้อำเภอจับภาพของคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ส่วนที่ตลาดและบนถนนจับภาพคนร้ายวิ่งขึ้นรถ จักรยานยนต์ แล้วหลบหนี ซึ่งตรงจุดนี้ สามารถจับภาพ ทะเบียนรถรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่พาหลบหนีไปได้
จากการสอบถาม นางวัชราพร ที่ยังมีอาการบวมช้ำที่ใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด เผยว่าขณะเกิดเหตุนั้นตนเองไม่ได้ระวังตัวอะไรเพราะไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใคร มาทำงานตอนเช้าเย็นก็จะกลับ โดยมีลูกชายมารอกลับพร้อมกันในตอนเย็น ก่อนหน้าเกิดเหตุนั้นก็ไปแจกสิ่งของกับนายอำเภอให้กับผู้ยากไร้และผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ ทั้งวัน จนกระทั่งเย็นกลับมาพร้อมกับนายอำเภอ ตอนกลับก็ไม่มีอะไร พอส่งนายอำเภอขึ้นที่ว่าการเรียบร้อยแล้ว ตนเองก็เดินขึ้นห้องทำงานเก็บข้าวของกลับบ้านตามปรกติ เพราะได้เวลาเลิกงาน เมื่อลงจากที่ทำงานก็เห็นลูกชายรออยู่ด้านล่างจึงชวนกันกลับ โดยตนเองออกเดินนำหน้า ส่วนบุตรชายเดินตามหลัง คนร้ายฉวยโอกาสตอนที่กำลังจะเอากุญแจรีโมตรถเปิดประตู มันก็ปี่เข้ามาทำร้ายทันทีหลังจากที่ชกที่ใบหน้าแล้วตนเองก็สลบไม่รู้เรื่องเลยมาฟื้นอีกทีที่โรงพยาบาล
นางวัชราพร ยังเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุแล้วผู้บังคับบัญชา ทั้งนายอังกูร สุ่นกุล นนายอำเภอพุทธมณฑล ทราบเรื่องได้เดินทางมาสอบถามเยี่ยมเยียนที่บ้าน พร้อมกับรายงานเหตุการณืที่เกิดขึ้นให้นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.นครปฐม ทราบ และได้มีการสอบถามกันทางโทรศัพท์ ตนเองก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมด ซึ่งทาง นอภ.และ ผวจ.ได้ให้กำลังใจ และจะเร่งรัดให้ตำรวจดำเนินการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะถือว่า กระทำการอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และกระทำการในบริเวณสถานที่ราชการ ส่วนตนเองนั้นก็ขอเตือนข้าราชการปกครองทั้งหลายว่า ถึงแม้จะเป็นข้าราชการก็ไม่สามารถปลอดภัย เหมือนเช่นประชาชนทั่วไป แม้กระทั่งสถานที่ราชการคนร้ายยังกล้าก่อเหตุได้
ทางด้าน พตอ.ทวี พรมมาลี ผกก.สภ.พุทธมณฑล เผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้รายงานให้ พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.นครปฐม ได้ทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งให้เร่งดำเนินการจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาให้ได้โดยเร็ว ขณะนี้ ตำรวจได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้วหลายตัว หลังเกิดเหตุแล้วได้ติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาได้แล้ว 1 คน นำมาสอบถาม เป็นเด็กที่กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้เป็นคนพาคนร้ายซ้อนท้ายหลบหนี แต่อายุเพียงแค่ 13 ปี จึงยังไม่สามารถสอบสวนได้อย่างจริงจัง เพราะเป็นเยาวชน ได้แต่นำตัวมาสอบถามเท่านั้น และขอปิดเป็นความลับก่อนว่าเป็นใครชื่ออะไร คาดว่าภายในวันสองวันนี้น่าจะได้ตัวผู้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุนั้น ยังเปิดเผยไม่ได้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ขณะนี้ ตั้งข้อสงสัยไว้ในเรื่องการทำงานไม่ทราบว่าไปขัดแย้งกับใครต้องสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
การกระทำดังกล่าวของคนร้ายครั้งนี้ บรรดากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต่างแสดงความไม่พอใจ เพราะถือว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงโหดร้าย กระทำต่อสตรีที่ไม่มีทางสู้ จะมีการรวมตัวกันทำหนังสือถึง นอภ.และ ผวจ.ให้เร่งรัดดำเนินการจับกุมตัวให้ได้โดยเร็ว นอกจากนี้ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนาๆ ส่วนใหญ่จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหตุน่าจะมาจากการเมืองท้องถิ่น เพราะนางวัชราพร ปลัดหญิงคนนี้ เป็นคนตรง และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของ อบต.หลายแห่งในพื้นที่ ซึ่งไปตรวจสอบพบสิ่งที่ไม่ดีก็เป็นได้ น่าจะมาจากเรื่องนี้ โดยปกติแล้วอุปนิสัยเป็นคนดีพูดจาเพราะ ไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับผู้ร่วมงาน และยังเป็นที่ไว้ใจของ นอภ.จึงได้มีการแต่งตั้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านต่างยืนยันว่ามาจากเรื่องการเมืองท้องถิ่นแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี