ล่า‘อาหมัด ลือแบซา’มือบึ้ม

ฆ่าทีมจ่าเพียร

พบพิรุธโทรศัพท์ลวงสังหาร

ยิงชาวบ้านตากใบตาย1เจ็บ1

รถไฟชายแดนใต้ยังอัมพาต

วันที่ 4 กรกฎาคม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณข้างมัสยิดกลางปัตตานี ถ.ยะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ส่งผลให้จ.ส.ต.อนุรักษ์ รักบุตร ซึ่งไปอำนวยความสะดวกการจราจรหน้ามัสยิดเสียชีวิต และมีตำรวจบาดเจ็บอีก 2 นายว่า เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลคนร้ายที่ก่อความไม่สงบในพื้นที่แล้ว โดยแบ่งหน้าที่กันทำ มือระเบิดแสวงเครื่องมาจากอ.หนองจิก คนกดระเบิดมาจากอ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ฐานข้อมูลเรามีอยู่แล้ว เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ และตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เตรียมประสานประเทศเพื่อนบ้านในการติดตามตัว พร้อมหารือร่วมกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย สัปดาห์หน้าที่ตนจะเดินทางไปราชการที่มาเลเชีย

ประณามฝีมือพวกนอกศาสนา

ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค4) แถลงถึงกรณีคนร้ายก่อเหตุลอบวางระเบิดหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ที่ชาวไทยมุสลิมต้องประกอบศาสนกิจเคร่งครัดมากที่สุด แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุยังพยายามสร้างสถานการณ์หลายรูปแบบในหลายพื้นที่ เป็นไปตามความเชื่อที่ถูกบิดเบือนว่า ถ้าสร้างสถานการณ์ช่วงนี้จะได้บุญมากขึ้น ทั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทั้งที่จ.ปัตตานี และจ.นราธิวาส ขณะเดียวกัน พล.ท.วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งทุกหน่วยเร่งรัดคดี โดยเฉพาะกรณีลอบวางระเบิดที่หน้ามัสยิดกลางปัตตานี และวางระเบิดรางรถไฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานติดตามจับกุม

“พร้อมขอให้สังคมร่วมประณามการก่อเหตุที่เป็นการทำลายบรรยากาศการประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิม ซึ่งเป็นพฤติกรรมของพวกนอกศาสนาที่ต้องได้รับการลงโทษจากพระเจ้า”พ.อ.ปราโมทย์กล่าว และว่า แม่ทัพภาค 4 ได้สั่งให้เพิ่มมาตรการควบคุมพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองเศรษฐกิจ เพื่อความปลอดภัยของชาวไทยมุสลิมจะได้ประกอบศาสนกิจเต็มที่

เช็ควงจรปิดล่ามือบึ้มปัตตานี

ความคืบหน้าการสอบสวนเหตุระเบิดหน้าบริษัทอัลฮิจเราะห์ ไกล้มัสยิดกลางปัตตานี ทำให้ตำรวจจราจร สภ.เมืองปัตตานี เสียชีวิต 1 นาย ตำรวจและชาวบ้านบาดเจ็บ 3 ราย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่อีกครั้ง พร้อมเก็บวัสดุสิ่งของที่เสียหายจากแรงระเบิด ตรวจสอบพบคนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องบรรจุกล่องเหล็กซุกในโต๊ะมานั่งหินอ่อน ซึ่งอยู่หน้าบริษัทอิจฮิจเราะห์ เมื่อเจ้าหน้าที่มานั่งจึงกดชนวน จากนี้เจ้าหน้าที่นำภาพจากวงจรปิดตามจุดต่างๆมาแกะรอยหาตัวคนร้ายต่อไป

เมียอุ้มท้อง7เดือนรับศพจสต.

สำหรับตำรวจและชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บ 3 รายจากเหตุระเบิดมัสยิดกลางปัตตานีนั้น รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ปัตตานี พ้นขีดอันตรายแล้ว ประกอบด้วย ส.ต.ต.วิชากร เอกกุล โดนสะเก็ดระเบิดที่ขาขวา กระดูกหัก ส.ต.ต.สุรศักดิ์ ปานสังข์โดนสะเก็ดระเบิดที่ขาขวาหัก และนายยา มอลอ ชาวบ้านต.ตาเซะ อ.เมือง จ.ยะลา เจ็บเล็กน้อย ส่วนตำรวจที่เสียชีวิตคือ จ.ส.ต.อนุรักษ์ รักบุตร ครอบครัวนำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโมลีนิมิต ต.มะกรูด อ.โคกโพธิ์

นางรัชนู รักษ์บุตร ภรรยา จสต.อนุรักษ์ ที่เสียชีวิตและตั้งท้องได้ 7 เดือน เดินทางมารับศพสามีนำไปประกอบพิธีทางศาสนาพุทธกล่าวว่า ตอนนี้ต้องทนทำใจยอมรับและสู้ต่อไป เพราะต้องเลี้ยงลูกอีก 3 คน และอยากบอกคนที่ทำร้ายสามีว่าตอนนี้ชีวิตของครอบครัวเราแตกสลายลงแล้ว และขออโหสิกรรมให้ แต่หวังเพียงให้คนก่อเหตุคิดทบทวนดูว่าสิ่งไหนคือสุขใจที่สุด และกลับตัวกลับใจเพื่อตนเอง

ขอพระเจ้าลงโทษมือบึ้มลอบฆ่าจนท.

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พร้อมชาวไทยมุสลิมกว่า 200 คน ร่วมละหมาดฮายัด ขอพรพระผู้เป็นเจ้าประทานความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว และขอให้ลงโทษผู้ก่อเหตุลอบวางระเบิดทำให้ตำรวจที่มาช่วยเหลือพี่น้องมุสลิมให้ได้รับความสะดวกและปลอดภัยเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุชาวไทยมุสลิมในพื้นต่างพูดคุยกันเป็นกระแสรับไม่ได้กับการกระทำดังกล่าว เมื่อประกอบพิธีละหมาดเสร็จ ผู้เข้าร่วมพิธีได้ร่วมตัวกันด้านหน้ามัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี พร้อมชูแผ่นป้ายมีข้อความประณามการใช้ความรุนแรง

รถไฟชายแดนใต้ยังอัมมพาต

ส่วนกรณีคนร้ายลอบวางระเบิดทางรถไฟ ระหว่างสถานีบาลอ–สถานีรือเสาะ ที่ ม.4 บ้านดือแย ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้รางรถไฟขาด ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สถานีรถไฟยะลา ที่ยังหยุดให้บริการเดินรถไฟในเส้นทางยะลา-สุไหงโกลก จนกว่าการซ่อมแซมรางรถไฟจะเสร็จ ทำให้พี่น้องมุสลิมที่จะเดินทางกลับมาร่วมฉลองเทศกาลรายอ รวมถึงประชาชนที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางช่วงถือศีลอดเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก

ล่า“อาหมัด ลือแบซา”บึ้มทีมจ่าเพียร

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายวางระเบิดสะพานข้ามคลอง บ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลามีผู้เสียชีวิต 2 รายคือ นายมาหามะยูดิง ปูเต๊ะ และนายอาสสุวัน ยูโซ๊ะ ซึ่งทั้งสองเป็นทีมงานของนายดอเลาะ เซ็งมะสู หรือผู้ใหญ่เลาะ ตะโล๊ะเว ทีมงานไล่ล่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ที่เคยปฏิบัติการร่วมกับ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.สภ.บันนังสตา โดยพ.ต.อ.มุสตาพา มะนิ ผกก.สภ.บันนังสตา จ.ยะลา เรียกพนักงานสอบสวนประชุม โดยกำชับให้ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายจากชาวบ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มของนายอาหมัด ลือแบซา แกนนำก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งมีประวัติการก่อเหตุในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่มามากทั้งยิง วางระเบิด

เชื่อโทรศัพท์ลวงมาฆ่า

ด้าน พล.ต.ต.อิทธิพล อัฉริยะประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.ยะลาเผยว่า เจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนปืน AK47 M16 และ 9 มม. ที่ตกในที่เกิดเหตุจำนวนมาก และมอบให้เจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 นำไปตรวจเก็บสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอว่าจะตรงกับคนร้ายกลุ่มใด จากการวิเคราะห์สถานการณ์เชื่อว่า มีการโทรศัพท์ให้ผู้ตายออกมา เพราะเวลาดังกล่าวผู้ตายไม่น่าจะออกมาทำธุระนอกบ้าน ซึ่งกำลังตรวจเช็คหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ตายว่าใครโทรเข้ามาบ้าง

ยิงชาวบ้านตากใบตาย1เจ็บ1

วันเดียวกัน ยังคงมีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุไม่สงบรายวันทั้งลอบทำร้ายชาวบ้าน และก่อกวนป่วนเมือง ที่จ.นราธิวาส คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านที่หมู่ 5 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้นางฉวี แก้วมัง เสียชีวิต และนางมัลลิกา อุ่นภา ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบคนร้ายวางระเบิดดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย เบื้องต้นคาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์รายวันของกลุ่มก่อความไม่สงบ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนหาสาเหตุและติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

คนร้ายไม่ทราบกลุ่มก่อกวนพ่นสีข้อ

ที่จ.ปัตตานี ตำรวจ สภ.โคกโพธิ์รับแจ้ง มีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนสร้างสถานการณ์ก่อกวนด้วยการ พ่นสี บนถนนและบนแผ่นป้ายจราจร ข้อความ “PATTANI BERDIKA” (แปลว่า เอกราชปัตตานี) ใน อ.โคกโพธิ์ 17 จุด คาดว่าคนร้ายจะลงมือปฎิบัติการตอนดึก เพื่อก่อกวนสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่องในพื้นที่