12 ก.ค.59 นายวินัย อัศวราชันย์ ประธานมูลนิธิวัดพนัญเชิง (เชียง เต็ก ตึ้ง) เปิดเผยว่า ลูกหลานชาวจีนที่มีหลุมฝั่งศพพรรพบุรุษ (ฮวงซุ้ย) อยู่ที่สุสาน วัดพนัญเชิงวรวิหาร  เนื้อที่ 14 ไร่ ต่างดีอกดีใจ  เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาคดีหมายเลขดำ  พ.91/2559 คดีหมายเลขแดง 1428/2559 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ว่ามูลนิธิวัดพนัญเชิง (เชียง เต็ก ตึ้ง) ไม่ต้องรื้อสุสานหลุมฝังศพ(ฮวงซุ้ย) ของบรรพบุรุษ วัดพนัญเชิงวรวิหาร สร้างความดีใจให้กับลูกหลายชาวจีนที่มีหลุมฝั่งศพที่สุสานนับ1,000 หลุมต่างคลายกังวลใจ ที่ไม่ต้องรื้อหลุมฝั่งศพบรรพบุรุษแล้ว

จากเหตุการณ์มีพระเทพรัตนากร(แวว) เป็นเจ้าอาวาสมีอำนาจกระทำแทนโจทก์ ได้มอบหมายให้พระมหาเชิดชัย กตปุญโญ(หรือพระเมธีวราภรณ์) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเพื่อให้ทางมูลนิธิวัดพนัญเชิง (เชียง เต็ก ตึ้ง) รื้อถอนอาคาร สิ่งปลูกสร้างหลุมฝังศพ(ฮวงซุ้ย)และขนย้ายทรัพย์สินอื่นๆออกจากที่ดินตามโฉนดเลขที่ 9149 เลขที่ดิน 126 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ให้ออกจากที่ดินของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องและรบกวนสิทธิครอบครองที่ดินอีกต่อไป และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ16,260 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าวนับจากวันฟ้องร้อง จนกว่าจะมีการรื้อถอนอาคาร สิ่งปลูกสร้าง ศพ และ ขนย้ายทรัพย์สินอื่นๆออกไปจากที่ดินจนเสร็จสิ้น เพื่อจะใช้พื้นที่ดังกล่าวก่อสร้างถาวรวัตถุ

ต่อมามีลูกหลานชาวจีนได้มีการรวมตัวกันร้องคัดค้านการฟ้องร้องของฝ่ายโจทก์ต่อศาล แล้วศาลชั้นต้นได้พิจารณาพิพากษาว่า   ทางมูลนิธิวัดพนัญเชิง (เชียง เต็ก ตึ้ง) ไม่ต้องรื้อถอนสุสานอาคาร สิ่งปลูกสร้าง (ฮวงซุ้ย)ออกจากพื้นที่ แต่ทางโจทก์ก็ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาล เพื่อให้พิจารณาตามคำร้องเดิม จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คือไม่ต้องรื้อถอนอาคาร สิ่งปลูกสร้างหลุมฝังศพ (ฮวงซุ้ย) ออก