ปัญหาในการใช้รถใช้ถนนเป็นปัญหาที่สำคัญของชาติซึ่งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในแต่ละวันทำให้สถิติคดีด้านจราจรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีหลายคนหลายองค์กรเรียกร้องให้มีการจัดตั้งศาลจราจรเอาไว้พิจารณาตัดสินคดีเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนน เราอาจจะได้เห็นศาลจราจรในอนาคตอันใกล้นี้
การเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ของประเทศไทยนับว่ามีมากในอันดับต้นๆ ของโลก และในแต่ละปีมีการบาดเจ็บล้มตายกันจำนวนมาก แต่ไม่มีท่าทีว่าจะลดลงแม้หน่วยงานภาครัฐจะรณรงค์เพียงใดก็ตาม ส่วนหนึ่งและเป็นส่วนใหญ่คือการขาดวินัยจราจร ทำให้รัฐต้องมาสูญเสียงบประมาณในการรักษาผู้ที่ได้รับการบาดเจ็บที่เกิดจากการใช้รถยนต์ใช้ถนนจำนวนมหาศาล เนื่องจากผู้ขับขี่รถยนต์ยังเข้าใจผิดในกฎหมาย เช่น รถยนต์คันใหญ่กว่าชนรถยนต์เล็ก รถยนต์ใหญ่กว่าต้องเป็นฝ่ายผิด หรือรถยนต์ที่วิ่งทางเอกจะถูกเสมอเมื่อชนกับรถยนต์ที่วิ่งทางโท แต่ตามกฎหมายไม่ใช่อย่างที่เชื่อหรือเข้าใจกันดังกล่าวแต่อย่างใด
ดังนั้น รถยนต์ที่วิ่งในทางเอก เมื่อไปชนรถยนต์ที่วิ่งมาจากทางโทตรงบริเวณสี่แยก รถยนต์ที่วิ่งมาในทางเอกไม่ได้ถูกเสมอไปต้องดูว่าผู้ที่ขับขี่รถยนต์ในทางเอกนั้นมีส่วนประมาทด้วยหรือไม่อย่างเช่น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5207/2549 ได้พิจารณาวินิจฉัยและมีคำพิพากษาโดยย่อไว้ว่าจำเลยขับรถด้วยความเร็วสูงและไม่ได้ชะลอความเร็วเมื่อมาถึงทางร่วมทางแยก แม้จะได้ความว่าทางเดินรถของฝ่ายแท็กซี่เป็นทางโทมีป้ายหยุดปักอยู่ตรงปากทาง และผู้ขับรถแท็กซี่ไม่ได้หยุดรถของตนอันเป็นการกระทำโดยประมาทด้วยก็ตาม แต่การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ขับขี่รถทุกเส้นทางที่มาบรรจบทางร่วมทางแยกจะต้องลดความเร็วลงให้อยู่ในระดับความเร็วที่ต่ำ หรือหยุดรถเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายอันเกิดจากการชนระหว่างรถที่กำลังแล่นผ่าน หาใช่ว่าผู้ที่ขับรถมาในทางเอกจะใช้ความเร็วในอัตราที่สูงโดยขับผ่านทางร่วมทางแยกไปโดยปราศจากความระมัดระวัง เมื่อจำเลยขับรถแล่นเข้าไปในทางร่วมทางแยกด้วยความเร็วสูงทำให้ชนกับรถยนต์คันที่ผู้ตายขับมาเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ย่อมถือได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความประมาทของจำเลย ด้วยพฤติการณ์ความประมาทของจำเลยค่อนข้างร้ายแรง และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 คน แม้จำเลยจะวางเงินให้แก่ทายาทของผู้ตายทั้งสามคนก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาก็มิใช่การวางเงินโดยยอมรับผิดในการกระทำของตน ทั้งเงินดังกล่าวก็เป็นค่าเสียหายส่วนแพ่งที่จำเลยอาจต้องรับผิดต่อทายาทของผู้ตายกรณียังไม่สมควร รอการลงโทษให้แก่จำเลย
คดีนี้คนขับขี่รถยนต์ในทางเอกถูกศาลฎีกาตัดสินจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ซึ่งเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งหลายให้ขับรถยนต์ด้วยการเคารพกฎหมาย มีวินัยด้านจราจรอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างดีก็จะลดการเกิดอุบัติเหตุได้โดยไม่ต้องสูญเสีย หรือถูกจำคุก เลิกคิดได้เลยว่ารถยนต์ที่ขับทางเอกถูกเสมอ ทุกคนที่ขับขี่รถยนต์ต้องระมัดระวังไม่ให้ชนกันจนเป็นอุบัติเหตุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี