25 ก.ค. 59 กำลังเป็นดราม่าในโลกออนไลน์ กรณี นพ.วิทวัส ศิริประชัย หรือ จ่าพิชิต แอดมินเพจเฟซบุ๊ก "Drama-addict" โพสต์ข้อความโต้แย้ง พ.ต.นพ.สรวิชญ์ สุบุญ หรือหมอก้อง นักแสดงและหมอชื่อดัง ถึงกรณีการสาธิตวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในรายการตีสิบเดย์ ช่วงแพทซ่า ออกอากาศเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ข้อความว่า
เมื่อวานหมอก้องไปออกรายการตีสิบเดย์แล้วสอนเรื่องการปฐมพยาบาล
ขอแก้ไขข้อมูลของหมอก้องหน่อยครับ
การปฐมพยาบาลงูกัดในปัจจุบัน ไม่แนะนำให้ขันชะเนาะหรือรัดเหนือบริเวณที่ถูกงูกัดเพื่อกันพิษแล่นเข้าสู่หัวใจแล้ว เพราะ "ไม่มีประโยชน์ใดๆ" แถมยังทำให้พิษเข้าสู่ระบบน้ำเหลืองไวขึ้นด้วย ถ้าซวยหน่อยเจอคนขันชะเนาะไม่เป็น ก็อาจจะรัดจนแขนขาส่วนที่ถูกรัด ขาดเลือด เนื้อตาย ต้องตัดแขนตัดขา ซวยกันไป
ถ้าถูกงูกัดไม่ต้องขันชะเนาะหรือรัดบริเวณที่โดนกัด ไม่ต้องเอาปากดูดพิษด้วย แค่เอาอะไรก็ได้แข็งๆ มาดามตำแหน่งที่โดนงูกัดให้อยู่นิ่งๆ หรือให้คนเจ็บทำตัวให้นิ่งที่สุด แล้วหามส่ง รพ. แม่งเลย
อนึ่ง พิษแล่นเข้าสู่หัวใจ ไม่มีคำนี้ในสารระบบของการแพทย์แผนปัจจุบัน
เพราะพิษมันไม่ได้ออกฤทธิ์ที่หัวใจ แต่ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาท การแข็งตัวของเลือด และกล้ามเนื้อ
สอง งูแมวเซา พิษไม่ทำให้ง่วง แต่ทำให้เลือดแข็งตัวผิดปรกติ ส่วนไอ้ความเชื่อที่ว่างูบางชนิดกัดแล้วง่วง จริงๆ ไม่ใช่ง่วง แต่กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตเพราะพิษงูบางชนิดส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก กล้ามเนื้อที่ใช้หายใจอ่อนแรงจนหายใจเองไม่ได้ แล้วก็ขาดออกซิเจนตายในที่สุด
ประเด็นต่อมา เมื่อเด็กมีไข้ การใช้คูลฟีเวอร์แปะหัว ไม่ได้ช่วยอะไรมากครับ แค่หัวเย็น แต่ถ้าอยากจะลดไข้เด็ก ป้องกันไม่ให้เด็กชักเพราะไข้สูง ให้เช็ดตัวครับ เช็ดแล้วถูผิวให้แรงๆ หน่อย เส้นเลือดที่ผิวหนังจะขยายตัวแล้วคายความร้อนทำให้ไข้ลง
ประเด็นต่อมา หมอก้องสอนการช่วยคนที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นว่า ให้เริ่มจาก ABC คือ เปิดทางเดินหายใจ Airway ก่อน อันนี้เลิกใช้มาได้ประมาณสี่ห้าปีแล้ว ในไกด์ไลน์การช่วยชีวิตอันล่าสุด ให้ C คือการปั๊มหัวใจมาเป็นอันดับแรกแล้วนะครับ คือเน้นความสำคัญของการปั๊มหัวใจเป็นอันดับแรก ถ้าเจอคนหมดสติ เรียกไม่รู้สึกตัว ปั๊มหัวใจไปเลยครับสำคัญสุด
ยกเว้นในกรณีจมน้ำที่ยังใช้ ABC ได้นะครับ เพราะอาจมีพวกดินโคลนอุดตันในทางเดินหายใจได้ ให้เอาของแปลกปลอมที่คาอยู่ในปากและอาจอุดตันทางเดินหายใจออกให้หมด จากนั้นก็ปั๊มหัวใจแล้วผายปอดแม่งเลยครับ
ประเด็นต่อมา หมอก้องปั๊มหัวใจคนไข้ผิดตำแหน่งนะครับ ที่หมอก้องบอกว่าให้เหนือลิ้นปี่สองนิ้ว และเยื้องไปทางซ้ายอีกสองนิ้วเพราะหัวใจอยู่ทางซ้าย อันนี้ผิดครับ ตำแหน่งปั๊มหัวใจที่ถูกต้องคือ กระดูกลิ้นปี่ส่วนล่างตรงกึ่งกลางเลยครับ ไม่ต้องเยื้องไปทางไหนทั้งนั้น ปั๊มให้เร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที ให้ยุบลงไปประมาณ 5-6 ซม.
ประเด็นต่อมา ที่หมอก้องบอกว่าถ้าคนท้องใกล้คลอด ปากมดลูกเปิด หัวเด็กโผล่มาขนาดนั้นแล้ว บอกให้แม่กั้นคาไว้อย่าเบ่ง อันนี้อันตรายเพราะถ้าหัวเด็กโผล่มาขนาดนั้นแล้วคาไว้ เด็กอาจจะขาดออกซิเจนถึงตายได้ แต่ถ้าเด็กยังไม่โผล่ ก็อย่าเพิ่งรีบเบ่ง ให้รีบไป รพ. จะดีสุดครับ
สรุป... เอาเป็นว่าทางหมอก้องกับรายการตีสิบควรจะเช็คข้อมูลเรื่องการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องก่อนออกสื่อกันซักหน่อยนะครับ ไม่งั้นถ้าคนจำผิดๆ แล้วเอาไปใช้ นี่แม่งอันตรายมาก
ทว่าก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าข้อมูลที่เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict นำมาเผยแพร่นั้น จะสามารถเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด ต่อมาทางเพจ Drama-addict จึงนำเอกสารอ้างอิงมาโพสต์ประกอบ คือ 1.วิธีป้องกันและปฏิบัติเมื่อถูก งูกัด ปลิง และแมลงมีพิษกัดต่อยในภาวะน้ำท่วม อ้างอิงจาก สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค 17 ต.ค. 2554 : http://medipe2.psu.ac.th/~disaster/animal/snakeinsectbite.pdf 2.แนวทางการนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพ (CPR) และการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจหลอดเลือดในภาวะฉุกเฉิน (ECC) จาก American Heart Association (AHA) ฉบับปรุงปรุง พ.ศ. 2558 : eccguidelines.heart.org
ขณะที่ในอินสตาแกรมส่วนตัวของหมอก้อง @kong_sarawit ก็มีแฟนคลับเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้นและเรียกร้องให้หมอก้องออกมาชี้แจง ซึ่งต่อมาเจ้าตัวก็ได้เมนชั่นชี้แจงว่า "ข้อมูลทางวิชาการที่นำไปออกรายการผมก็ได้มาจากอาจารย์ครับ แต่ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ารายการวาไรตี้ต้องทำให้ดูสนุก ไม่เครียดกับข้อมูลวิชาการเกินไป ผมว่าลองกลับไปดูรายการย้อนหลังสิครับ"
ขอบคุณ : Drama-addict , @kong_sarawit
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี