วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
รายงานพิเศษ : กรมวิชาการเกษตรเดินหน้าวิจัย ‘มังคุดนอกฤดู’ที่นครศรีธรรมราช

รายงานพิเศษ : กรมวิชาการเกษตรเดินหน้าวิจัย ‘มังคุดนอกฤดู’ที่นครศรีธรรมราช

วันศุกร์ ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559, 06.00 น.
Tag : กรมวิชาการเกษตร เดินหน้าวิจัย นครศรีธรรมราช มังคุดนอกฤดู
  •  

ภาคใต้จัดเป็นแหล่งปลูกมังคุดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและสามารถผลิตมังคุดที่มีคุณภาพดี มีรสชาติเยี่ยมเมื่อเทียบกับมังคุดในภูมิภาคอื่นของประเทศ เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม จากความมีเอกลักษณ์ในรูปร่างของผลที่สวย และมีรสชาติที่หวานอมเปรี้ยว ถูกปากทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจนได้รับฉายาว่าราชินีแห่งผลไม้ “Queen of Fruits”

นายวิรัติ ธรรมบำรุง ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ในปัจจุบันมังคุดจัดเป็นผลไม้ที่มีศักยภาพสูงในการส่งออก ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลก จากสถิติข้อมูลการส่งออกของประเทศไทยเมื่อปี 2553 สามารถส่งออกผลผลิตมังคุดได้ จำนวน 120,000 ตัน โดยส่งออกไปจำหน่ายทั้งในรูปผลสดและผลแช่แข็ง ซึ่งส่งออกในรูปของผลสด จำนวน 80,000 ตัน และส่งออกในรูปของผลแช่แข็ง จำนวน 40,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าปีละมากกว่า 1,500 ล้านบาท และมีการส่งออกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าในอนาคตมีแนวโน้มว่ามังคุดจะมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก เนื่องจากประเทศไทยได้ขยายตลาดการส่งออกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนซึ่งมีประชากรจำนวนมากและให้ความสนใจกับไม้ผลชนิดนี้


กรมวิชาการเกษตรโดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 ได้ให้ความสำคัญและทำการศึกษาวิจัยพัฒนาการผลิตมังคุดนอกฤดู เพื่อเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพให้สูงขึ้น รวมทั้งศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อการผลิตมังคุดในภาคใต้ เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตไม้ผลเศรษฐกิจชนิดนี้ จึงต้องหาแนวทางรองรับเพื่อลดความเสี่ยงให้กับเกษตรกร

นางอาพร คงอิสโร นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช มีพื้นที่ปลูกมังคุดมากที่สุดในภาคใต้ มีพื้นที่ 90,835 ไร่ เป็นพื้นที่ให้ผลผลิตแล้ว 79,359 ไร่ โดยในปี 2558 มีผลผลิตรวม 31,124 ตัน โดยฤดูปกติมังคุดจะออกดอกในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม และเก็บเกี่ยวในเดือนกรกฎาคม-กันยายน การออกดอกของมังคุดได้มังคุดจะต้องผ่านช่วงแล้งก่อนประมาณ 25-30 วัน จึงจะทำให้มังคุดออกดอกได้ ซึ่งสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีข้อได้เปรียบทางธรรมชาติที่สามารถทำให้มังคุดออกนอกฤดู คือ พื้นที่ฝั่งตะวันออกของเทือกเขานครศรีธรรมราชจะเป็นเขตเงาฝน โดยในช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม ทำให้มีฝนตกน้อย ต่างจากทางฝั่งตะวันตกของเทือกเขา ส่งผลให้สวนมังคุดในบริเวณพื้นที่อำเภอลานสกา อำเภอชะอวด อำเภอพรหมคีรี อำเภอเมือง อำเภอท่าศาลาและอำเภอสิชล เกิดความแห้งแล้งในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมอีกครั้ง มังคุดจึงออกดอกเป็นครั้งที่ 2 ในเดือนสิงหาคม และเก็บเกี่ยวปลายเดือนธันวาคม-มีนาคม

จากการศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต่อการผลิตมังคุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน ความชื้น ล้วนมีผลต่อการออกดอกติดผลของมังคุดทั้งสิ้น จากการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบปริมาณน้ำฝน 20 ปีย้อนหลัง พบว่าปัจจุบันฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล และมีปริมาณลดลง ประกอบกับอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น เพียง 1-2 องศา ก็สามารถส่งผลกระทบต่อการออกดอกผิดฤดูกาล อย่างปกติมังคุดจะออกดอกปีละ 1 ครั้ง อาจจะเพิ่มเป็น 2-3 ครั้ง หรือหากช่วงใกล้ออกดอกเจอฝนตกก็จะทำให้ไม่ออกดอก ฤดูกาลนั้นก็จะมีผลผลิตลดลงหรือไม่มีผลผลิตเลย นอกจากนี้ สภาพภูมิอากาศยังมีผลต่อโรคและแมลงเพิ่มขึ้นด้วย อย่างกรณีอากาศร้อนจัดจะพบเพลี้ยไฟเข้าทำลายผลผลิต ทำให้มังคุดผิวลายไม่มีคุณภาพ ส่งผลกระทบต่อราคา

ฉะนั้น ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช จึงได้มีการขยายผลงานวิจัยสู่การปฏิบัติ โดยแนะนำส่งเสริมให้เกษตรกรมีการจัดการแปลงโดยใช้เทคโนโลยีควบคู่กับธรรมชาติ ในกรณีที่ต้องการให้มีผลผลิตออกนอกฤดู ต้องมีการจัดการแปลง โดยเฉพาะช่วงใกล้ออกดอกที่ไม้ผลต้องการอากาศแห้งเพื่อให้มังคุดมีการสะสมอาหารมากขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นมีฝนตกมากเกษตรกรควรทำร่องน้ำในแปลงเพื่อระบายน้ำออก ร่วมกันกวาดใบมังคุดใต้โคนออกเพื่อให้โคนแห้งไม่มีน้ำขัง เพื่อให้ต้นได้สะสมคาร์โบไฮเดรตกระตุ้นการออกดอกติดผล นอกจากนี้ หากพบปัญหาเพลี้ยไฟ ต้องพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดสัปดาห์ละครั้ง ควบคู่กับการให้น้ำและปุ๋ยตามคำแนะนำ พร้อมกันนี้ต้องเก็บเกี่ยวอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะไม่ให้ผลร่วงหล่นลงพื้น เพราะจะทำให้มังคุดเป็นเนื้อแก้วยางไหล ที่สำคัญเกษตรกรควรคัดแยกเกรดส่งจำหน่ายเพื่อให้ได้ราคาที่ดีขึ้นตามคุณภาพของผลผลิต

ปัจจุบันเกษตรกรให้การยอมรับในคำแนะนำหรือเทคโนโลยีการผลิตมังคุดนอกฤดู ตลอดจนมีการปฏิบัติตามขั้นตอนการผลิตมังคุดที่ดีและเหมาะสมของกรมวิชาการเกษตร โดยมีการสมัครเข้ารับการรับรองแปลง GAP มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นถึงความแตกต่างขายได้ราคาสูงกว่าผลผลิตในฤดู จากผลผลิตที่มีคุณภาพดี ผลใหญ่มากประมาณ 6-8 ผลต่อกิโลกรัม ผิวมันสวยเป็นสีชมพู เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ ดังนั้น จึงมีพ่อค้าคนกลางและบริษัทผู้ส่งออกมารับซื้อและให้ราคาสูงถึงจุดรับซื้อในหมู่บ้าน ราคารับซื้อจะสูงถึงกิโลกรัมละ 200-300 บาท สูงกว่าราคาผลผลิตในฤดูกาลประมาณ 4 ถึง 5 เท่า และยังเป็นสินค้าที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการอีกด้วย

ดังนั้น จึงถือว่าเป็นโอกาสดีของเกษตรกรชาวสวนมังคุดจังหวัดนครศรีธรรมราช ในการสร้างรายได้และอาชีพที่มั่นคง 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘นฤมล’สั่งตั้งกรรมการสอบ ปมร้องเรียนส่อเอื้อแล็บตรวจ BY2‘ทุเรียน’ส่งออก ‘นฤมล’สั่งตั้งกรรมการสอบ ปมร้องเรียนส่อเอื้อแล็บตรวจ BY2‘ทุเรียน’ส่งออก
  • ปลดล็อก‘ทุเรียนไทย’! ศุลกากรจีนไฟเขียวส่งออกไปจีนได้ บนเงื่อนไขมีเอกสารรับรอง ปลดล็อก‘ทุเรียนไทย’! ศุลกากรจีนไฟเขียวส่งออกไปจีนได้ บนเงื่อนไขมีเอกสารรับรอง
  • \'ดร.พงศ์ไท\'ขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตร สอดคล้องกับหลัก\'Climate Smart Agriculture\' 'ดร.พงศ์ไท'ขับเคลื่อนการพัฒนาการเกษตร สอดคล้องกับหลัก'Climate Smart Agriculture'
  • กรมวิชาการเกษตร ร่วมมือผู้ทรงคุณวุฒิ จัดประชุมย่อยโครงการ : การศึกษาและสำรวจความคิดเห็นของภาคประชาชนฯ กรมวิชาการเกษตร ร่วมมือผู้ทรงคุณวุฒิ จัดประชุมย่อยโครงการ : การศึกษาและสำรวจความคิดเห็นของภาคประชาชนฯ
  • \'อธิบดีกรมฝนหลวง\'ร่วมยินดี ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมวิชาการเกษตร ครบรอบปีที่ 52 'อธิบดีกรมฝนหลวง'ร่วมยินดี ในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมวิชาการเกษตร ครบรอบปีที่ 52
  • ‘ซีพีเอฟ’หนุนกรมประมงเดินหน้าปฏิบัติการจับปลาหมอคางดำในนครศรีธรรมราช-นนทบุรี ‘ซีพีเอฟ’หนุนกรมประมงเดินหน้าปฏิบัติการจับปลาหมอคางดำในนครศรีธรรมราช-นนทบุรี
  •  

Breaking News

ชายพลัดตกอาคารเรียน ชั้น 6 โรงเรียนดังโคราชเสียชีวิต

ทล.จับสาวซื้อรถหลุดจำนำสวมทะเบียนใช้งาน

ฝ่ายค้านรวมพลัง!! ประสานมือ 5 พรรค 'อนุทิน'ลั่นพร้อมตรวจสอบ'รัฐบาล'เต็มที่

สมศักดิ์ศรีสาวบุรีรัมย์! 'ลิซ่า ลลิษา'โชว์สกิลเทพตำส้มตำปลาร้า ดันอาหารไทยสู่สายตาชาวโลก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved