คำถาม ผมสนใจอยากจะปลูกกล้วยครับถ้าอากาศร้อนแบบนี้จะปลูกกล้วยอะไรดีครับ ขอทราบวิธีปลูกด้วยครับ
ประดิษฐ์ บูรณวิชช์
อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี
คำตอบ กล้วยชนิดต่างๆ สามารถเติบโตได้ดีในสภาวะร้อนและแห้งแล้งและมีวิธีง่ายๆ ในการปลูกกล้วยให้ทนแล้ง และได้ผลผลิตคุ้มค่า ซึ่งพันธุ์กล้วยที่ทนแล้งได้ดี คือ กล้วยน้ำว้านักวิชาการเกษตรได้แนะนำวิธีปลูกดังนี้
1.ทำการเลือกต้นพันธุ์ ถ้าได้พันธุ์จากการเพาะเนื้อเยื่อ จะทำให้กล้วยปลอดโรค และออกลูกพร้อมกัน
2.วิธีเตรียมดิน โดยการไถดะ ด้วยผานสามตากดินหนึ่งเดือน และไถแปรด้วยผานห้าอีกทีตากดินทิ้งไว้หนึ่งเดือน ทำการผสมดินกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่สลายแล้ว อัตรา 5 ต่อ 1 ใส่ในหลุมปลูกครึ่งหลุม จากนั้นปลูกหน่อกล้วยลงในหลุม กดดินให้แน่นแล้วรดน้ำ ส่วนครึ่งหลุมที่เหลือใส่ใบไม้แห้ง หญ้าแห้ง ฟางข้าว หรือเศษอาหาร ใส่ให้เต็มครั้งเดียวหรือทยอยใส่จนเต็มหลุม เสริมด้วยปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก หรือน้ำหมักชีวภาพ
3.การเตรียมหลุมปลูก กำหนดระยะและขนาดหลุมปลูก โดยระยะที่เหมาะคือ 4x4 เมตร และควรขุดหลุม 50x50x50 ซม. เพราะรัศมีของรากกล้วยจะหากินไม่เกิน 50 ซม. การขุดหลุมขนาดนี้จะทำให้รากกล้วยหากินได้ไกลขึ้น และความลึกของหลุมจะแก้ปัญหาการขึ้นโคนหรือโคนลอย การปลูกครั้งหนึ่งสามารถเก็บผลผลิตได้ 4-5 ปี ถ้าขุดหลุมขนาดเล็ก และตื้นกว่านี้ จะให้ผลผลิตแค่ปีสองปีก็ต้องรื้อปลูกใหม่แล้ว
4.ใส่ปุ๋ยรองก้นหลุม ด้วยปุ๋ยคอกผสมดิน หลุมละ 2 กก. รองหนาประมาณ 30 ซม. แล้วจึงปลูกต้นกล้วยและกลบโคนต้นให้แน่น ทำแอ่งดินรอบต้นเพื่อเก็บน้ำรักษาความชื้นของดิน ควรรองก้นหลุมด้วยฟูราดานป้องกันหนอนกอกล้วย 1 ช้อนโต๊ะต่อหลุม
5.ทำการห่มดิน หลังจากกล้วยเติบโตได้ระยะหนึ่ง เศษวัสดุที่ใส่ในหลุมจะเริ่มตัวยุบ ให้ทำการห่มดิน คลุมหลุมด้วยใบไม้แห้ง หญ้าแห้ง หรือฟางข้าว ช่วยรักษาความชื้นในดิน ให้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์มีชีวิตอยู่ได้และย่อยสลายเป็นธาตุอาหารนำไปใช้ในการเจริญเติบโต และให้ผลผลิตดี
6.ทำการให้น้ำ ปลูกเสร็จให้น้ำชุ่มชื้นพอเพียงไม่เช่นนั้นต้นจะเหี่ยวเฉา ใบแห้งและยุบตัว บางต้นตาย บางต้นแตกต้นใหม่ขึ้นแทน ทำให้อายุต้นไม่สม่ำเสมอกัน ให้น้ำด้วยระบบน้ำหยดช่วยประหยัดน้ำ โดยใช้เทปน้ำหยดเพราะมีต้นทุนต่ำและมีประสิทธิภาพสูง ระยะเดือนแรกต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและดินต้องชุ่มชื้น เป็นเดือนที่ต้องเอาใจใส่อย่างมาก จะทำให้ต้นตั้งตัวได้เร็ว สามารถสร้างใบและลำต้นใหม่ได้ดี โอกาสรอดสูง
7.การให้ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุก 1 เดือน งดใส่ปุ๋ยจนกว่าจะแทงปลี ถึงจะใส่ปุ๋ยเคมีอีกครั้ง กระทั่งหลังเก็บเกี่ยวถึงจะเริ่มให้ปุ๋ยในรอบใหม่
8.การดูแลรักษา ต้องตัดใบแก่ ใบแห้ง และถากหญ้าบริเวณโคนต้นออกให้หมด นำไปคลุมรอบโคนต้น
9.การตัดปลีกล้วย กล้วยออกปลี หรือดอกหลังปลูกประมาณ 8 เดือน หลังจากแทงปลีจนสุดแล้วจะเหลือส่วนปลายของดอกที่เรียกว่าปลีกล้วย และมีระยะหลังการแทงดอก/ปลีกล้วยจนถึงดอกกล้วยบานหมด ใช้เวลา 14 วันให้ตัดออกในช่วงที่ปลีออกเป็นลูกจนสุด
10.ช่วง 1-6 เดือนหลังปลูก รอบวงต้นใกล้เคียงจะเกิดหน่อพันธุ์ ให้ปาดหน่อที่โผล่ออกมาทิ้ง เหลือไว้หน่อที่ 1 พอหน่อที่ 1 อายุ 3 เดือน ให้ไว้หน่อที่ 2 หลังจากนั้นทุก 3 เดือน ให้ไว้หน่อที่ 3 และ 4, 5 เมื่อไว้ได้หน่อที่ 5 แล้ว ต้นแม่ก็สามารถเก็บเกี่ยวเครือกล้วยได้ จะเหลือต้นกล้วย 4 ต้นที่อายุห่างกัน 3 เดือน โดยมีหน่อที่ 1 ที่อายุห่าง 6 เดือน จะทำให้กล้วยน้ำว้าในแปลงมีอายุห่าง 3 เดือน ให้ใช้ระบบนี้ต่อไปหลายๆ ปี
11.สับต้นเก่าที่ตัดเครือทำปุ๋ยพืชสด เมื่อเก็บผลผลิตไปแล้ว ให้สับต้นเก่าที่ตัดเครือทำปุ๋ยพืชสด โดยสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ไว้โคนต้น จะช่วยป้องกันความชื้น และยังเป็นปุ๋ยให้กับต้นใหม่อีกด้วย
12.การแยกหน่อ หรือเหง้าปลูก อาจใช้วิธีการดั้งเดิมที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยขุดเหง้าพันธุ์ออกขยายปลูกเป็นกอใหม่
กล้วยน้ำว้า เป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ในทุกสภาพดิน แต่ชอบดินร่วน มีอินทรียวัตถุ และความชื้นสูง ระบายน้ำดี ไม่ชอบน้ำขัง ให้ผลผลิตครั้งแรกเมื่อปลูกได้ 8-10 เดือน สามารถแตกหน่อเติบโตให้ผลผลิตทั้งปี
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี