2 ส.ค.59 จากกรณีที่ น.ส.สุธิดา ถึงสงคราม หรือนุ๊ก อายุ 21 ปี ทายาทเจ้าของกิจการร้านอาหาร "ตัวทีซีฟู๊ด" ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเคยตกเป็นข่าวฮือฮาคลอดลูกแฝด 4 เข้าร้องเรียนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช กรณีที่จับได้ว่า สามีได้หลอกลวง และจะขอฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดู 25 ล้านบาท ตามที่ตกเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด น.ส.สุธิดา คุณแม่แฝด 4 พร้อมด้วยนางษรินทร์ภัฎ รอดจันทร์ แม่ของ น.ส.สุธิดา นายสมคิด จุลสุรางค์ ทนายความ และญาติๆ เดินทางไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามที่ศาลฯ นัดหลังจาก น.ส.สุธิดา ยื่นฟ้องศาลฯ ขอเป็นผู้ปกครองหนูน้อยแฝด 4 เพียงผู้เดียว และเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูแฝด 4 เป็นระยะเวลา 25 ปี จากนายตะวัน จาระไน อดีตสามีเป็นเงิน 25 ล้านบาท ตามสำนวนคดีดำหลายเลข 169/2559 อย่างไรก็ตาม นายตะวัน ไม่ได้เดินทางมาศาลตามนัด แต่ได้ให้นายพีระพงษ์ โกสัยสุก ทนายความ นำเอกสารสำนวนแก้ต่างมายื่นต่อศาล โดยนายตะวัน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
โดยในเอกสารสรุปใจความว่า "น.ส.สุธิดา รู้มาตั้งแต่ต้นว่า ตนเองยังไม่ได้หย่าขาดจากภรรยาเก่า เพราะ น.ส.สุธิดา เคยโทรศัพท์คุยกับภรรยาตัวเองหลายครั้ง ซึ่งก่อนแต่งงาน น.ส.สุธิดา ได้เดินทางไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และตกลงอยู่กินกับตนฉันท์สามีภรรยากันที่หอพักในกรุงเทพ จนกระทั่งกลับมาอยู่บ้าน และตนไปสู่ขอ น.ส.สุธิดา จากพ่อแม่ที่ร้านอาหารตัวทีซีฟู๊ด ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จนมีการจัดพิธีแต่งงานกันอย่างยิ่งใหญ่ โดยตนออกค่าสินสอด ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท ในระหว่างที่อยู่กินกันที่ ต.ปากนคร จน น.ส.สุธิดา ตั้งครรภ์คลอดบุตรแฝด 4 คนดังกล่าว หลังจากนั้น ตนได้เปิดร้านมินิมาร์ทและช่วยกันเลี้ยงดูลูกแฝด 4 มาตลอด และน.ส.สุธิดา โจทก์ก็ไม่เคยรบเร้าหรือชวนตนไปจดทะเยียนสมรสตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ส่วนที่ตนตัดสินใจนำน้องโฟร์ บุตรสาวแฝดคนที่ 3 ไปด้วยนั้น เพราะต้องการจะนำไปเลี้ยงดูในฐานะบิดา เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของ น.ส.สุธิดา ที่ต้องต้องลูกแฝดผู้ชายอีก 3 คน ตนไม่ได้คิดมีเจตนาอื่นใดหรือต้องการหาผลประโยชน์จากน้องโฟร์แต่อย่างใด
ในเอกสารสำนวนระบุอีกว่า "สำหรับการที่ น.ส.สุธิดา เรียกร้องขอค่าอุปการะเลี้ยงดูลูกแฝด 4 คนรวม 25 ปี เป็นเงินรวม 25 ล้านบาทนั้น เป็นการเรียกร้องที่ไม่เป็นธรรมสูงเกินความเป็นจริง จึงไม่ใช่การเรียกร้องที่ถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมาย เนื่องจากตามกฎหมายตนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับ น.ส.สุธิดา ลูกที่เกิดมาแม้จะเป็นบุตรสืบสันดานของจำเลย แต่จำเลยไม่ถือว่าเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของแฝดทั้ง 4 คน ตามคำพิพากษาศาลฏีกาเทียบเคียงที่ 452/2553 และตาม ป.พ.พ. มาตรา 1564 บิดามีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น เมื่อจำเลยไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายในการอุปการะเลี้ยงดูบุตร น.ส.สุธิดา โจกท์ในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของบุตรทั้ง 4 คน จึงไม่มีอำนาจในการฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจากจำเลยในฐานะบิดาได้ เทียบเคียงคำพิพากษาฏีกาที่ 513/2546 และเมื่อปรากฏว่าในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาล บุตรแฝดทั้ง 4 คน ยังไม่มีฐานะเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของจำเลย น.ส.สุธิดา โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ถูกแย้งสิทธิเพื่อเรียกร้องเงินค่าอุปการะบุตร ตาม ป.วิ พ.มาตรา 55 และตาม ป.พ.พ.มาตรา 1564 และ มาตรา 1565 เทียบเคียงคำพิพากษาฏีกาที่ 13818/2555 และคำพิพากษาฏีกาที่ 513/2546
อาศัยข้อเท็จจริงและขอกฎหมายโจทก์ จึงไม่มีอำนาจในการฟ้องจำเลยให้รับผิดค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้ง 4 คน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1564 วรรคหนึ่งและตาม ป.พ.พ. มาตรา 1565 จึงขอให้ศาลพิจารณายกฟ้อง และให้โจทก์จ่ายค่าฤชาทำธรรมเนียมและค่าทนายความแทนจำเลยด้วย ซึ่งศาลได้กำหนดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางดำเนินคดีหรือสืบพยานโจทก์ในวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ในเวลา 13.30 น.ต่อไป
ต่อมา นางษรินทร์ภัฎ รอดจันทร์ แม่ของ น.ส.สุธิดา พร้อมด้วยทนายความรวมทั้งตัว น.ส.สุธิดา ได้เดินทางเข้าไป พ.ต.ท.จรูญ หนูจันทร์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตามนัดในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน กรณีนายตะวัน จาระนัย ขโมยทองคำรูปพรรณ เงินสดรวมกว่า 2 ล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนนัดนายตะวัน มาพบเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2559 แต่นายตะวันไม่มาพบ จึงออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ให้มาพบในวันที่ 2 ส.ค. 2559 ซึ่งในวันนี้ปรากฏว่า นายตะวัน ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามนัดแต่อย่างใด
พ.ต.ท.จรูญ หนูจันทร์ กล่าวว่า แม้วันที่ 28 ก.ค.59 นายตะวัน ไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวน แต่หลังจากนั้น ได้นำทองคำรูปพรรณมาคืนแล้วจำนวนหนึ่ง ยังเหลืออีกบางส่วนพร้อมเงินสด 250,000 บาท จะนำมาคืนในภายหลัง โดยพนักงานสอบสวนนัดมาพบในวันนี้ (2 ส.ค.) แต่ปรากฏว่า นายตะวัน ไม่มาพบทางพนักงานสอบสวนจะมีหมายเรียกไปอีกครั้ง แต่ยังไม่กำหนดวันเวลาที่แน่ชัด หากในครั้งต่อไปนายตะวัน ไม่ยอมมาพบพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนจะเสนอขอหมายจับตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี